รายใหญ่ตลาดทุน หวัง 'รีดภาษีหุ้น' ลดแรงเก็งกำไร

รายใหญ่ตลาดทุน หวัง 'รีดภาษีหุ้น' ลดแรงเก็งกำไร

รายใหญ่ตลาดทุน คาดเก็บภาษีขายหุ้น ลดแรงเก็งกำไรลง  “นิเวศน์” ไม่เห็นด้วย วอลุ่มลด-ต่างชาติมองข้ามหุ้นไทย  “เสี่ยป๋อง” เชื่อกระทบระยะสั้น  “วิวรรณ”  หวังรัฐยกเว้นกรณีขาดทุน “เสี่ยยักษ์” เชื่อจะเหลือแต่นักลงทุนตัวจริง  “โจลูกอีสาน” มองเป็นหน้าที่ที่ต้องเสียภาษี

จากที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราภาษีธุรกิจเฉพาะและกำหนดกิจการที่ได้รับยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะ(ฉบับที่... พ.ศ...(การจัดเก็บภาษีธุรกิจเฉพาะจากการขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์) การเก็บภาษีขายหุ้น (Transaction Tax) ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตามที่กระทรวงการคลังเสนอในอัตรา 0.10% มีผล 90 วันหลังประกาศใช้ หรือประมาณไตรมาส 2 ปี 2566 โดยในปีแรกเก็บ 0.055%

นายนิเวศน์ เหมวชิรวรากร นักลงทุนเน้นคุณค่า (VI) เปิดเผยว่า ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับการเก็บภาษีขายหุ้น เพราะ มีผลกระทบต่อมูลค่าซื้อขาย(วอลุ่มเทรด)ของตลาดหุ้นไทยให้หายไป และน่าจะเป็นลบต่อตลาดหุ้น เพราะ การซื้อขายในตลาดหุ้นไทยส่วนใหญ่เป็นตลาดเก็งกำไร 

ดังนั้นถ้าการเก็งกำไรหายไป อาจจะทำให้ตลาดหุ้นไทยมีความเงียบเหงา  ราคาหุ้นที่คาดว่าจะปรับตัวขึ้นดี อาจจะปรับตัวลดลง ส่งผลให้ค่าพี/อีไม่ค่อยสูง และนักลงทุนต่างชาติอาจจะมองข้ามตลาดหุ้นไทยไป ซึ่งการที่ภาครัฐมองว่าจะได้รายได้จากการจัดเก็บภาษีปีละประมาณ 1-2 หมื่นล้านบาท แต่ถ้าวอลุ่มหายไปก็อาจจะไม่ได้ตามที่คาดคิดไว้

ทั้งนี้ต้องรอดูว่าจะมีผลกระทบมากน้อยแค่ไหน ซึ่งอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต ถ้าเกิดผลกระทบที่รุนแรงเกินไป แต่นาทีนี้เมื่อมีความเห็นชอบไปแล้ว ก็อาจจะปรับเปลี่ยนได้ยาก เหมือนอ้อยที่เข้าปากช้างไปแล้ว จะเอากลับคืนมาค่อนข้างยาก แต่ก็ต้องดูกันต่อไป ซึ่งอาจจะไม่ได้ร้ายแรงอย่างที่คิดไว้ก็ได้

นายวัชระ แก้วสว่าง หรือ เสี่ยป๋อง นักลงทุนรายใหญ่ กล่าวว่า เมื่อรัฐบาลจะเก็บภาษีขายหุ้นหรือ Financial Transaction Tax ก็พร้อมที่จะทำตาม แต่ในระยะสั้นจะส่งผลกระทบต่อมูลค่าซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ลดลง เพราะ ต้นทุนการซื้อขายหุ้นของนักลงทุนเพิ่มขึ้น ทำให้นักลงทุนที่มีการลงทุนลักษณะเก็งกำไร ,นักลงทุนที่ซื้อขายรายวัน (เดย์เทรด) และผู้ที่ได้รับผลกระทบมากสุดก็จะเป็นนักลงทุนที่ส่งคำสั่งผ่านโดยโปรแกรมเทรด (High FrequencyTrading) มีวอลุ่มเทรดลดลง

ทั้งนี้ส่วนตัวมีบัญชีซื้อขายหุ้นที่เป็น เดย์เทรดอยู่ ซึ่งหากมีการจัดเก็บภาษีก็จะทำให้มีการซื้อขายแบบเดย์เทรดลดลงเช่นกัน แต่เชื่อว่าเมื่อนักลงทุนปรับตัวหรือตั้งหลักได้ วอลุ่มเทรดของตลาดหุ้นไทยก็จะปลับมาปกติได้ เพราะก่อนหน้านี้ช่วงที่มีการปรับขึ้นค่าคอมมิชชั่น นักลงทุนกังวลในช่วงสั้น หลังจากนั้นก็กลับมาเทรดปกติ

“ผมพยายามมองในเชิงบวกว่า การจัดเก็บภาษีขายหุ้นนั้นอาจทำให้การเก็งกำไรของหุ้นลดลง และทำให้ดัชนีหุ้นไทย หรือตัวหุ้นปรับตัวสูงขึ้นได้ และหากมีการจัดเก็บภาษีที่เท่าเทียมกันส่วนตัวพร้อมที่จะจ่าย”

นางวิวรรณ ธาราหิรัญโชติ  นักลงทุนVIกล่าวว่า ที่ผ่านมาส่วนตัวสนับสนุนให้การจัดเก็บภาษี เพื่อเป็นการลดความเหลื่อมล้ำ แต่อยากขอให้ภาครัฐมีมาตรการ หรือมีการผ่อนผันกรณีที่นักลงทุนที่ขายหุ้นแล้วขาดทุน เพราะ ก่อนหน้านี้นักลงทุนจะยังถือหุ้นที่ขาดทุนในพอร์ต และเมื่อขายแล้วมีผลขาดทุน แล้วไปเก็บภาษีอีกก็จะมีการซ้ำเติม และรายได้จากภาษีที่ภาครัฐจัดเก็บได้ ก็อยากให้นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุดต่อประเทศชาติ

 “เมื่อจัดเก็บภาษีหุ้น  ก็จะกระทบวอลุ่มเทรดของตลาดหุ้นไทยลดลง จากต้นทุนในการเทรดที่เพิ่มขึ้น แต่อยากขอให้ภาครัฐมีมาตรการ หรือข้อยกเว้นกรณีที่ขายขาดทุน เพราะมองว่าน่าสงสารขาดทุนแล้วยังต้องมาเสียภาษีขายหุ้นอีก” 

นายวิชัย วชิรพงศ์ หรือเสี่ยยักษ์ นักลงทุนรายใหญ่ กล่าวว่า ส่วนตัวมองการจัดเก็บภาษีขายหุ้นเป็นมุมบวก เพราะ นักลงทุนที่เก็งกำไรเล่นช่องเดียว หรือพวกบล็อกเทรดจะได้ลดน้อยลง หรือหายไปจากตลาดหุ้นไทย เพราะปัจจุบันนักลงทุนกลุ่มนี้มักเล่นเร็วและไม่ต้องเสียภาษี และหลังจากนี้เมื่อรัฐบาลเข้ามาจัดเก็บภาษี ก็จะเหลือแต่นักลงทุนตัวจริงเท่านั้น ส่วนการปรับพอร์ตหลังจากนี้อาจจะต้องเน้นลงทุนระยะยาวมากขึ้น และต้องมีสติในการซื้อการขายมากขึ้น

“เราไม่สามารถเลิกอาชีพนี้ได้ก็ต้องยอมรับ และมองเป็นมุมบวก แม้ว่าทุกคนที่เป็นนักเทรดอาชีพจะไม่อยากเสียค่าธรรมเนียมในการขายหุ้นก็ตาม แต่ที่ดีก็คือ AI จะได้ไม่ต้องมีพวกบล็อกเทรด ที่ชอบเล่นช่องเดียวได้กำไรเป็น 10 ล้านบาท ปัจจุบันไม่ต้องเสียภาษี แต่เมื่อครม.มีความเห็นชอบออกมาก็จะทำให้คนกลุ่มนี้ ต้องเสียภาษีซึ่งอาจจไม่คุ้ม ทีนี้ก็เหลือแต่นักลงทุนของจริง”

นายอนุรักษ์ บุญแสวง หรือโจ ลูกอีสาน นักลงทุนVI กล่าวว่า ส่วนตัวมีความเห็นกับการจัดเก็บภาษีขายหุ้น  เพราะทุกอาชีพต้องเสียภาษี มันคือหน้าที่ ซึ่งที่ผ่านมา ได้เว้นภาษีมานานมากแล้ว และขณะนี้ตลาดหุ้นไทยมีการพัฒนาไปมาก ก็ถึงเวลาแล้วที่ต้องมีการจัดเก็บภาษีได้แล้ว

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนอีกกลุ่มหนึ่งอาจจะไม่เห็นด้วย เพราะต้องจ่ายค่าภาษีเพิ่ม โดยเฉพาะนักเก็งกำไรที่ซื้อขายบ่อย ๆ แต่ส่วนตัวเป็นนักลงทุนสายวีไอที่เน้นลงทุนระยะยาว การซื้อขายไม่ได้บ่อยมีความยินดีที่จะจ่ายภาษีในส่วนนี้ แต่ในการจัดเก็บภาษีในครั้งนี้ไม่อยากให้มีการทุจริต อยากให้นำเงินที่ได้ในการจัดเก็บมาใช้ประโยชน์ให้เต็มเม็ดเต็มหน่วยเพื่อนำมาพัฒนาประเทศเราให้ดียิ่งขึ้น