"หุ้นไทย" ปิดตลาด บวก 0.56 จุด บล.เมย์แบงก์ คาด ไซด์เวย์-ไร้ปัจจัยใหม่กระตุ้น

"หุ้นไทย" ปิดตลาด บวก 0.56 จุด บล.เมย์แบงก์ คาด ไซด์เวย์-ไร้ปัจจัยใหม่กระตุ้น

“หุ้นไทย” ปิดตลาด ( 22 พ.ย. ) เพิ่มขึ้น 0.56 จุด อยู่ที่ 1,624.96  จุด จากเข้าสู่ช่วงวันหยุด Thanksgiving ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทำให้นักลงทุนต่างชาติชะลอการลงทุน  แต่มีสัญญาณเชิงบวกจากคณะกรรมการส่วนใหญ่หนุนเฟดชะลอขึ้นดอกเบี้ย บล.เมย์แบงก์ คาด ไซด์เวย์ในกรอบ 1,610-1,630 จุด

“หุ้นไทย” ปิดตลาด ( 22 พ.ย.65 ) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.56 จุด อยู่ที่ 1,624.96  จุด เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 0.56% มีมูลค่าการซื้อขาย 0.56 ล้านบาท

5 อันดับ หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด คือ

  • PTT      มูลค่าการซื้อขาย  1,813 ล้านบาท   ปิดที่   33.75    ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
  • BANPU     มูลค่าการซื้อขาย  1,548 ล้านบาท   ปิดที่   13.10    ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
  • PTTEP     มูลค่าการซื้อขาย  1,443 ล้านบาท   ปิดที่   190.00   บาท    ลดลง 3.50 (-1.81%)
  • BDMS     มูลค่าการซื้อขาย  1,268 ล้านบาท   ปิดที่   29.50    บาท    ลดลง 0.25 (-0.84%)
  • HANA     มูลค่าการซื้อขาย  1,062 ล้านบาท   ปิดที่   50.75   บาท    เพิ่มขึ้น 0.75 (+1.50%)

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์(ประเทศไทย) เปิดเปยว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นในกรอบแคบช่วงท้ายตลาด พร้อมกับวอลุ่มการซื้อขายในวันนี้ที่ค่อนข้างเบาบางมาจากปัจจัยบวกและลบสลับกัน เนื่องจากเข้าสู่ช่วงวันหยุด Thanksgiving ของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทำให้นักลงทุนต่างชาติเริ่มชะลอการลงทุน  รวมทั้งแรงกดดันกลุ่มพลังงาน ที่น้ำมันดิบร่วงแรงจากข่าว G7 เตรียมคุมเพดานราคาน้ำมันของรัสเซียในกรอบ 65-70 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งกดดันดัชนีให้สลับอ่อนตัวลงวันนี้

โมเมนตัมที่มีความชัดเจนที่สุดคือ สัญญาณเชิงบวกจากคณะกรรมการส่วนใหญ่หนุนเฟดชะลอขึ้นดอกเบี้ย แต่ยังต้องจับตารอดูตัวเลขเศษฐกิจสหรัฐต่อไป และยังไม่มีปัจจัยใหม่กระตุ้นให้ตลาดมีแรงซื้อเข้ามา รวมทั้งรอปัจจัยในประเทศจากการประชุมกนง.ในสัปดาห์หน้า

 

สำหรับวันพรุ่งนี้(25 พ.ย.65) คาดดันชีแกว่งตัวในกรอบ 1,610-1,630 จุด รอปัจจัยใหม่กระตุ้น พร้อมกับแนะจับตาค่าเงินบาทในระยะสั้น ที่อาจกลับมาอ่อนค่า ซึ่งเป็นตัวหนุนให้ฟันด์โฟลด์ต่างชาติไหลเข้าอีกครั้ง