"เฮียม้อ อมฤทธิ์" จ่อระดมพรรคพวก " รับซื้อ " หุ้น MORE จากโบรกเกอร์ ลดแรงฟอร์ซเซล

"เฮียม้อ อมฤทธิ์" จ่อระดมพรรคพวก " รับซื้อ " หุ้น MORE จากโบรกเกอร์ ลดแรงฟอร์ซเซล

 “เฮียม้อ อมฤทธิ์ กล่อมจิตเจริญ” ประกาศระดมพรรคพวก "รับซื้อ"หุ้น MORE จากโบรกเกอร์ หากต้องนำหลักประกันออกขาย หวังลดผลกระทบจากฟอร์ซเซล แจงตนเองไม่สามารถร่วมซื้อได้ เหตุอยู่ระหว่างการเพิ่มทุน PP ชี้ หากราคาขายต่ำอาจไม่ใช้สิทธิ แต่จะเปลี่ยนเป็นให้กู้แทน

ยังคงต้องรอความชัดเจนจากทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) สำหรับกรณีหุ้น บริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) หรือ MORE หลังจากที่ ปปง. ได้อาศัยกฎกระทรวงปี 2563 ข้อ 16 , 17  และ 23 สั่งโบรกเกอร์ระงับการชำระเงินค่าขายหุ้นของนักลงทุนรายใหญ่บางกลุ่มไว้ก่อน เนื่องจากพบข้อสงสัยว่าการซื้อขายหุ้น MORE ของนักลงทุนรายใหญ่ โดยเฉพาะ นายอภิมุข บำรุงวงศ์ ผู้ที่สั่งซื้อหุ้น MORE รวมกว่า 1,500 ล้านหุ้น ผ่านโบรกเกอร์ 10 กว่าแห่ง แต่ไม่สามารถชำระราคาค่าซื้อหุ้นได้ อาจเป็นการซื้อ และขายในกลุ่มเดียวกันเอง 

นายอมฤทธิ์ กล่อมจิตเจริญ หรือ เฮียม้อ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ถือหุ้นใหญ่ อันดับ 1 ของ MORE กล่าวกับ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า จากกรณีที่ผู้ซื้อหุ้น MORE แล้วไม่สามารถที่จะชำระค่าซื้อหุ้นได้ จนสร้างความเสียหายให้กับโบรกเกอร์ที่จะต้องนำเงินของบริษัทมาชำระค่าหุ้นแทน โดยโบรกเกอร์ก็สามารถนำหุ้นที่เป็นหลักประกันออกมาขายได้  ซึ่งอาจจะทำให้ราคาหุ้นในกระดานปรับตัวลดลงได้อีก 

ทั้งนี้ส่วนตัวจึงเสนอทางออกว่าหากโบรกเกอร์จะนำหุ้นMOREที่เป็นหลักประกันออกมาขาย (ฟอร์ซเซล) แทนที่จะขายมาในตลาด ก็มาขายให้กับกลุ่มที่ตนเอง ซึ่งตนเองก็จะไปชวนพรรคพวกเข้ามารับซื้อหุ้นMORE ในราคาที่ไม่ต่ำเกินไป และเป็นราคาที่โบรกเกอร์ และกลุ่มที่มารับซื้อที่เหมาะสมกับมูลค่าของบริษัท และเป็นที่พอใจทั้ง 2 ฝ่าย  โดยปัจจุบันส่วนตัวอยู่ระหว่างการชักชวนพรรคพวกที่เชื่อมั่นในบริษัทเข้ามาซื้อ

     ดังนั้นหากมีการดำเนินการตามข้อเสนอของตนนั้นเชื่อว่าจะช่วยลดความเสียหายให้กับโบรกเกอร์ และนักลงทุนรายย่อยได้ รวมถึงไม่ทำให้ราคาหุ้นMORE ปรับตัวลงไปมาก  นอกจากนี้ก็จะทำให้หุ้นMOREกลับมาซื้อขาย (เทรด)ได้เร็วขึ้น และช่วยให้รายย่อยไม่กังวล หรือแพนิคได้ ซึ่งแนวทางนี้ส่วนตัวยังไม่ได้หารือกับโบรกเกอร์ที่เสียหาย แต่ได้บอกผ่านสื่อไป ถ้าโบรกเกอร์มองเป็นทางออกที่ดีก็จะได้เข้าหารือต่อไป

     


      “กรณีโบรกเกอร์ที่เสียหาย ตามเกณฑ์สามารถนำหุ้นที่เป็นหลักหลักทรัพย์ค้ำประกันออกมา ก็จะทำให้ราคาหุ้นร่วงติดฟลอร์ หลายๆ วัน เพราะหุ้นมีจำนวนมาก ผมเลยเสนอว่าหากจะขายออกมาตามเกณฑ์ แทนที่จะขายในตลาดทำใหราคาหุ้นร่วงฟลอร์ไปต่ำเรื่อยๆ โบรกเกอร์จะเสียหายมากขึ้น เพราะขายในราคาถูก และบริษัทก็จะเสียภาพลักษณ์จากหุ้นละ 2-3 บาท อาจจะลงต่ำ  จะดีไหม ถ้าตกลงราคาได้ ก็จะช่วยหยุดเสียหายน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด”

 นายอมฤทธิ์ กล่าวว่า  ส่วนตัวไม่สามารถที่จะเข้าไปร่วมรับซื้อหุ้นMOREได้ เนื่องจาก MORE อยู่ระหว่างการเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง (PP)ให้แก่ตนเอง จำนวน 300 ล้านหุ้น ที่ราคาเพิ่มทุนที่ประมาณ  2 .20 บาท   รวมมูลค่า 660 ล้านบาท  ซึ่งจะประชุมผู้ถือหุ้นให้พิจารณาอนุมัติในวันที่ 30 พ.ย.2565 

 โดยหากราคาหุ้น ถัวเฉลี่ย ณ เวลานั้นต่ำเกินไป ทำให้บริษัทได้เงินไม่ได้ในจำนวนที่ต้องการใช้การขยายธุรกิจ  ส่วนตัวก็จะไม่ใช้สิทธิซื้อหุ้นPP เพราะ ใช้สิทธิไปบริษัทไม่ได้ประโยชน์  ซึ่งจะใช้วิธีให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ MORE แทน  เพื่อที่จะใช้ในการดำเนินธุรกิจตามแผนที่วางไว้ ทั้งธุรกิจใหม่คือ การจัดคอนเสิร์ต Rolling Loud Thailand  ซึ่งส่วนตัวมีประสบการณ์ด้านธุรกิจบันเทิง และบริษัทไม่ได้ทำคนเดียว แต่ พันธมิตรมาร่วมทุน และมีทีมต่างชาติมาร่วมทำด้วยกัน และธุรกิจเดิมคือ ผลิตน้ำประปาเพื่อจำหน่ายให้กับภาคครัวเรือน และกลุ่มอุตสาหกรรม

 อย่างไรก็ตามปัญหาที่เกิดขึ้นทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันแก้ปัญหา โดยอยากให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ เข้ามาเป็นตัวกลางในการจัดการให้ผู้ที่เกี่ยวข้องมาหารือเพื่อหาทางออก เพื่อที่จะหยุดความเสียหาย

   "ทุกฝ่ายต้องช่วยกันแก้ปัญหาเพื่อบรรเทาความเสียหาย เพราะไม่มีใครแบกรับปัญหาไว้คนเดียวได้ ที่ผ่านมาตนได้คุยกับนายอภิมุข  ทราบว่า นายอภิมุข บำรุงวงศ์  ได้ไปหารือกับคนที่ขายหุ้นออกไป ขอให้กลับมาซื้อไม่ว่าด้วยราคาไหนเขาก็จะมีหุ้นมากขึ้น ก็จะช่วยบรรเทาความเสียหาย"

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์