"หุ้นไทย" ปิดตลาดร่วง 13.91 จุด บล.ซีไอเอ็มบี คาด ปรับตัวลงระยะสั้น

"หุ้นไทย" ปิดตลาดร่วง  13.91 จุด บล.ซีไอเอ็มบี คาด ปรับตัวลงระยะสั้น

“หุ้นไทย” ปิดตลาด ( 14 พ.ย. ) ลดลง 13.91 จุด อยู่ที่ 1,623.38 จุด มี 4 ปัจจัยกดดัน จากสถานการณ์หุ้น MORE ไม่คลี่คลาย และผู้ติดเชื้อโควิดในจีนเพิ่ม พร้อมงบไตรมาส 3/65 ต่ำกว่าคาด ทำให้มีการเทขายหุ้นรายตัว บล.ซีไอเอ็มบี มองปรับตัวลงระยะสั้น คาด พรุ่งนี้ลงที่ 1,610 - 1,635 จุด 

“หุ้นไทย” ปิดตลาด ( 14 พ.ย.65 ) ปรับตัวลดลง 13.91 จุด อยู่ที่ 1,623.38 จุด เปลี่ยนแปลงลดลง 0.85% มีมูลค่าการซื้อขาย 64,814.64 ล้านบาท

5 อันดับ หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด คือ

  • PTT        มูลค่าการซื้อขาย 3,493 ล้านบาท   ปิดที่   34.00  บาท    ลดลง    0.75 (-2.16%)
  • KBANK  มูลค่าการซื้อขาย 2,549 ล้านบาท    ปิดที่ 144.50  บาท    ลดลง    3.50 (-2.36%)
  • AOT       มูลค่าการซื้อขาย 2,411 ล้านบาท    ปิดที่   75.25  บาท     ลดลง   0.50 (-0.66%)
  • PTTEP  มูลค่าการซื้อขาย  2,095 ล้านบาท    ปิดที่ 188.50  บาท     ลดลง   0.50 (-0.26%)
  • CPALL  มูลค่าการซื้อขาย  1,572 ล้านบาท     ปิดที่   61.50  บาท     ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา หัวหน้าฝ่ายวิจัยส่วนนักลงทุนรายบุคคล บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า  ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลดลงจาก 4 ปัจจัยกดดันตลาด คือ 1.สถานการณ์หลักทรัพย์ MORE ที่ยังไม่คลี่คลายดีนักทำให้ตลาดไม่สดใส และ 2.ประเทศจีนมีตัวเลขของผู้ติดเชื้อโควิดที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้กดดันหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว และโรงแรม 3.พรรคเดโมแครตชนะการเลือกตั้งครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา ส่งผลต่อเศรษฐกิจในสหรัฐที่อาจปรับตัวลดลงได้ในคืนนี้ และ 4. การประกาศงบไตรมาส 3 ปี 2565 ของบริษัทหลักทรัพย์บางแห่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ทำให้เกิดการเทขาย

อย่างไรก็ตาม หัวหน้าฝ่ายวิจัยมองว่าเป็นการปรับฐานลงมาในช่วงสั้น เนื่องจากตลาดยังคงได้แรงหนุนจากค่าเงินบาทที่แข็งค่า หนุนฟันด์โฟลว์ต่างชาติไหลเข้าต่อเนื่อง พร้อมกับคาดการณ์ว่าเฟดมีท่าทีชะลอการขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.

สำหรับวันพรุ่งนี้ ( 15 พ.ย.65) ตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวลง ในกรอบแนวรับ 1,610-1,618 จุด และแนวต้าน 1,625 - 1,635 จุด 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์