BLA ไตรมาส3/65 กำไร 942 ล้านบาท วูบ20% เหตุค่าใช้จ่ายเพิ่ม-รายได้ลงทุนลด

BLA ไตรมาส3/65 กำไร 942 ล้านบาท วูบ20% เหตุค่าใช้จ่ายเพิ่ม-รายได้ลงทุนลด

กรุงเทพประกันชีวิต ไตรมาส 3/65 กำไร 942 ล้านบาท ลดลง20%จากช่วงเดียวกันปีก่อน แม้รายได้โตจากเบี้ยรับปีแรกพุ่ง51%จากช่องทางขายผ่านแบงก์ แต่ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น และรายได้จากการลงทุนลดลง ขณะที่9เดือนกำไรยังโต0.4% เดินหน้าเสริมสร้างการเแข่นขัน ตามแผน3 ปี (ปี65-67) ต่อ 

บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด(มหาชน) หรือ BLA แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ในไตรมาส 3 ปี 2565 บริษัทมีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 942 ล้านบาท ลดลง20%  จากไตรมาส 3 ปี 2564 และลดลง 21 %เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว โดยคิดเป็นกำไร 0.55 บาทต่อหุ้น 

โดยมีรายได้รวมทั้งสิ้น 13, 726 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% จากไตรมาส 3 ปี 2564 โดยมีเบี้ยประกันภัยรับปีแรกจำนวน 2,086 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน , เบี้ยประกันภัยรับปีต่อไป เพิ่มขึ้น 0.1 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
 

ขณะที่ในช่วง 9 เดือนของปี 2565 บริษัทมีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 2,932 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.4%  จากช่วง 9 เดือนของปี 2564 คิดเป็นกำไร 1.72 บาทต่อหุ้น  

ด้านรายได้รวมทั้งสิ้น 36.613 ล้านบาท ลดลง2 % และมีเบี้ยประกันภัยรับปีแรกจำนวน 4.751 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2%  จากช่วงเดียวกันของปีที่ก่อน จากการเพิ่มขึ้นของเบี้ยประกันภัยรับปีแรกในช่องทางธนาคาร , มีเบี้ยประกันภัยรับปีต่อลดลง 4% ซึ่งเป็นการลดลงตามที่บริษัทคาดการณ์ไว้

ทางด้านการลงทุนบริษัทมีรายได้จากการลงทุนสุทธิในไตรมาส 3 ปี 2565 รวมทั้งสิ้น 3,267 ล้านบาท ลดลง6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีผลตอบแทนจากการลงทุนในไตรมาสนี้อยู่ที่4.00%  และมีผลตอบแทนจากการลงทุนในช่วง 9 เดือนของปี2565 ที่ร้อยละ 4.07%

บริษัทมีค่าใช้จ่ายรวมในไตรมาส 3 ปี 2565 จำนวนทั้งสิ้น 12,631 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5 % จากปีที่แล้ว และมีค่าใช้จ่ายรวมในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2565 ที่ 33,164 ล้านบาท ลดลง 2% จากค่าใช้จ่ายการรับประกันภัยที่ลดลงเป็นหลัก

อัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุน (Capital Adequacy Ratio: CAR) ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2565 อยู่ที่ 363%ใกล้เคียงกับไตรมาส 2 ปี 2565 ที่ 364%

 

นายโชน โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทยังคงดำเนินการตามทิศทางการดำเนินธุรกิจที่กำหนดไว้ใน 3 ปี คือ ปี 2565-2567 ในการเสริมสร้างความสามารถทางการแข่งขันของบริษัทเพื่อการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนผ่าน 5 มิติหลัก ได้แก่ มิติด้านสุขภาพ ที่เน้นการให้บริการด้านสุขภาพที่เป็นเลิศ  มิติด้านความมั่งคั่ง ที่เน้นตอบความต้องการของประชาชนทุกกลุ่มโดยเฉพาะแบบประกันประเภทสะสมทรัพย์และประกันควบการลงทุน มิติด้านดิจิทัลที่รองรับการก้าวสู่สังคมดิจิทัลในอนาคต ด้านช่องทางการขาย ที่ให้ความสำคัญในการพัฒนาคุณภาพของช่องทางและเน้นการขยายช่องทางเพื่อให้ครอบคลุมโอกาสทางการตลาด และมิติด้านความรับผิดต่อสังคมสิ่งแวดล้อม

บริษัทมุ่งมั่นในการพัฒนาธุรกิจให้เจริญเติบโตบนรากฐานที่มั่นคงทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม (Environment –Social –Governance: ESG) สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ในด้านเศรษฐกิจ (E : Economy) บริษัทมุ่งมั่นในการสร้างผลิตภัณฑ์เพื่อการวางแผนการเงินและสุขภาพอย่างรอบด้าน ด้านสิ่งแวดล้อม (E : Environment) บริษัทสนับสนุนการทำ Carbon Footprint of Organization (CFO) และ ด้านสังคม (S : Social) บริษัทให้ความสำคัญในการให้ความรู้ด้านการวางแผนทางการเงิน เพื่อให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจและเห็นถึงความจำเป็นในเรื่องการวางแผนการเงิน ด้านการกำกับกิจการ (G : Governance) บริษัทส่งเสริมให้บุคลากรเห็นความสำคัญในการปฏิบัติตามหลักจรรยาบรรณของบริษัทอย่างเคร่งครัด

ในไตรมาสที่ 3 ปี 2565 บริษัทเริ่มแคมเปญสื่อสารโฆษณา “ประกันสุขภาพที่ใส่ใจคุณ” เพื่อสร้างการรับรู้ถึงการให้บริการที่เป็นเลิศสำหรับผู้เอาประกันทุกคน ด้วยความใส่ใจทุ่มเทของบุคคลากรที่เกี่ยวข้องตั้งแต่เริ่มต้นทำประกัน จนสิ้นสุดกระบวนการรักษาพยาบาลการเจ็บป่วยต่างๆ ในช่องทางธนาคาร บริษัททำการตลาดผ่านแบบประกันสะสมทรัพย์ เกนเฟิสต์ ซิมเพิล (Gain1st Simple) และ เกนเฟิสต์ เกนเฟิสต์ 424 (มีเงินปันผล)  และในส่วนของช่องตัวแทน บริษัทผลักดันการสร้างและพัฒนาตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาทางการเงิน ผ่านโครงการรับรองรายได้ผู้บริหารตัวแทนมืออาชีพ (Smart Leader) เพื่อยกระดับการพัฒนาคุณภาพทีมงานขายอย่างมั่นคงและยั่งยืน นอกจากนี้บริษัทยังคงเดินพัฒนาช่องทางการขายผ่านพันธมิตรต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง