"หุ้นลิสซิ่ง"ราคาร่วงยกแผง รับเซนทิเมนต์ เชิงลบ สคบ.คุมดอกเบี้ย - ออมสินแข่งดุ

"หุ้นลิสซิ่ง"ราคาร่วงยกแผง รับเซนทิเมนต์ เชิงลบ สคบ.คุมดอกเบี้ย - ออมสินแข่งดุ

ราคาหุ้นลิสซิ่งช่วงเช้าวันนี้ ร่วงยกแผงต่อเนื่อง กลุ่ม SAWAD อ่วมสุด ลดลงถึง 6.10 % ขณะที่ NCAP ลดลง 4.91% หลังรับเซนทิเมนต์ เชิงลบ สคบ.เข้าคุมเพดานดอกเบี้ยเช่าซื้อ 23% และออมสินตั้งนอนแบงก์รุกสินเชื่อบุคคล ดอกเบี้ย 20% ปีหน้า ด้านผู้บริหาร "ศรีสวัสดิ์ - เงินติดล้อ" ยันกระทบน้อย 

"ราคาหุ้น กลุ่มสินเชื่อเช่าซื้อรถ"  ช่วงเช้าวันนี้ (17 ต.ค.) ต่างปรับตัวลดลงกันถ้วนหน้า  หลังรับเซนทิเมนต์ เชิงลบ 2  เรื่อง คือ  1.หลังประกาศราชกิจจานุเบกษาในวันที่ 12 ต.ค. ปรับลดเพดานดอกเบี้ยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ และจักรยานยนต์ฉบับใหม่ปี 2565 ของ สคบ.  เตรียมบังคับใช้ ม.ค.ปีหน้า กรณีกำหนดอัตราดอกเบี้ยเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ และรถยนต์ตามกลไกตลาด โดยคำนวณเป็นอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต้องไม่เกินอัตรา 23% ต่อปี 

2.ธนาคารออมสินประกาศเตรียมทำธุรกิจบริการด้านการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร (non-bank) ในปี 2566 โดยให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคล (P-Loan) และจะคิดอัตราดอกเบี้ยประมาณ 20% ต่อปี รวมถึงการมีแผนเข้ามาให้บริการสินเชื่อที่ดิน และขายฝาก

 

โดย ราคาหุ้น ในกลุ่มดังกล่าว  (ณ เวลา 12.00 น.) มีดังนี้

SAWAD ราคาล่าสุด อยู่ที่ 38.50 บาทต่อหุ้น ลดลง 2.50 บาท หรือ -6.10 %

NCAP ราคาอยู่ที่ 3.10 บาทต่อหุ้น ลดลง 0.16 บาท หรือ -4.91 %

TIDLOR ราคาล่าสุดอยู่ที่ 23.90 บาทต่อหุ้น ลดลง 1.00  บาท หรือ -4.02 %

MTC ราคาล่าสุด อยู่ที่ 33 บาทต่อหุ้น ลดลง 1.25 บาท หรือ -3.65 %

MICRO ราคาล่าสุดอยู่ที่ 4.26 บาทต่อหุ้น ลดลง 0.08 บาท หรือ -1.84 %

TK ราคาล่าสุดอยู่ที่ 8.95 บาทต่อหุ้น ลดลง 0.10 บาท หรือ -1.10 %

SAK ราคาล่าสุดอยู่ที่ 6.70 บาทต่อหุ้น ลดลง 0.05 บาท หรือ -0.74 %

HENG ราคาล่าสุดอยู่ที่ 2.92  บาทต่อหุ้น ลดลง 0.02 บาท หรือ -0.68 %

S11 ราคาล่าสุดอยู่ที่ 4.88 บาทต่อหุ้น ลดลง 0.06 บาท หรือ -1.21 % 

นายกิจพณ  ไพรไพศาลกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย)  กล่าวว่า ที่อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่ ดังกล่าวคาดผู้ประกอบการอาจจะกำหนดวงเงินดาวน์เพิ่มขึ้นเพื่อชดเชยความเสี่ยง มีโอกาสเห็นยอดการปล่อยสินเชื่อส่วนนี้ชะลอตัวลง และยิ่งอัตราดอกเบี้ยใกล้ระดับ 20% มากขึ้น น่าจะเห็นการปล่อยสินเชื่อส่วนนี้ชะลอตัวลงไปมาก 

นอกจากนี้ ที่ผ่านมาประเด็นดังกล่าวกดดันราคาหุ้นกลุ่มนี้ไปมากแล้ว แต่อัตราดอกเบี้ยเข้าใกล้ระดับ 20% ราคาหุ้นน่าจะตอบรับเชิงลบ

นายกรกช เสวตร์ครุตมัต ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า   ผลกระทบกับผู้ประกอบการที่จดทะเบียนในตลาดไม่น่าสูงนัก เพราะกลุ่มนี้เป็นรายใหญ่ที่ถูกกำกับโดย ธปท. มาบ้างแล้วบนสินเชื่อชนิดอื่นๆ ดังนั้นเรื่องระบบ การทำสัญญากับลูกค้าน่าจะถูกต้องอยู่แล้ว

แต่คาดว่า ผลกระทบน่าจะอยู่กับลิสซิ่งท้องถิ่นมากกว่าที่ต้องทำระบบเพิ่ม ปรับแก้ข้อกำหนดต่างๆ เพิ่ม และอาจเสียเปรียบรายใหญ่ เพราะต้องปรับตัว

ส่วนเรื่องการคุมเพดานดอกเบี้ย มองว่า อัตราดอกเบี้ยน่าจะเหมาะสมขึ้น เพราะ ธปท. มีความรู้ ความชำนาญในด้านธุรกิจสินเชื่ออยู่แล้ว แต่เรื่องเพดานดอกเบี้ยคงควบคุมหลังจากที่กำกับ market conduct เรียบร้อยแล้ว

แนะนำ หลีกเลี่ยงหุ้นไฟแนนซ์ ที่มีโอกาสได้รับผลกระทบไปก่อน เช่น MTC SAWAD NCAP เพราะมีธุรกิจเช่าซื้อมอเตอร์ไซค์อยู่ แนะนำ ซื้อ TIDLOR เพราะสินเชื่อส่วนใหญ่เป็นจำนำทะเบียน ไม่มีความเสี่ยงเรื่องโดนปรับแก้ดังกล่าวแล้ว 

"หุ้นลิสซิ่ง"ราคาร่วงยกแผง รับเซนทิเมนต์ เชิงลบ สคบ.คุมดอกเบี้ย - ออมสินแข่งดุ

"ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล" มั่นใจกระทบรายได้เล็กน้อย 

นายวิชิต พยุหนาวีชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล จำกัด เปิดเผยว่า 12 ตุลาคม 2565  ราชกิจจานุเบกษา ประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่องให้ธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ และรถจักรยานยนต์เป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา พ.ศ.2565 ซึ่งเป็นประกาศฉบับใหม่มีผลบังคับใช้ภายใน 90 วัน นับจากวันที่ประกาศ

โดยมีรายละเอียดที่สำคัญเกี่ยวเนื่องกับบริษัท กรณีกำหนดอัตราดอกเบี้ยเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ตามกลไกตลาด  โดยคำนวณเป็นอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต้องไม่เกินอัตรา 23% ต่อปี

บริษัทมั่นใจว่า จะกระทบรายได้จากการประกอบธุรกิจเพียงเล็กน้อย โดยความสามารถในการทำกำไรจากธุรกิจยังเติบโตได้ดี เนื่องจากบริษัทได้วางแผนเตรียมความพร้อมล่วงหน้าเป็นระยะเวลากว่า 1 ปี ในการบริหารจัดการต้นทุนการดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับอัตราดอกเบี้ยใหม่ และใช้การทบทวนคะแนนเครดิตลดความเสี่ยงในการปล่อยสินเชื่อ เพื่อควบคุมระดับเอ็นพีแอลให้อยู่ในระดับเหมาะสม

นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะเพิ่มพันธมิตรดีลเลอร์เพื่อผลักดันรายได้จากยอดขายให้เติบโตเพิ่มขึ้น นับเป็นการปรับตัวตามเกณฑ์ควบคุม และสนับสนุนให้บริษัทสามารถแข่งขันในธุรกิจได้อย่างดี

ทั้งนี้ตามประกาศได้เปิดโอกาสในการปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี โดยให้ลดลงหรือเพิ่มขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจของประเทศทุก 3 ปี ถือเป็นเรื่องดี และเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับกลุ่มนอนแบงก์ในการประกอบธุรกิจ

“ต้องยอมรับก่อนว่าเกณฑ์ใหม่ในการคุมเพดานดอกเบี้ยลิสซิ่งตามประกาศของราชกิจจานุเบกษากระทบกับเรา แต่เราเชื่อว่าจะมีผลกระทบเพียงเล็กน้อย เพราะบริษัทได้มีการปรับตัว และมีการวางแผนเพื่อรองรับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นนี้แล้ว แนวทางหลักของเราคือ การปรับลดค่าใช้จ่ายที่มีอยู่ชดเชยรายได้ที่ขาดหายไป เพิ่มจำนวนดีลเลอร์ให้มากขึ้นเพื่อสร้างการเติบโตของรายได้ และจะมีการทบทวนกระบวนการทางเครดิตมากขึ้น  ซึ่งส่วนนี้ผมค่อนข้างเป็นกังวล เพราะบริษัทจะเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อ ทำให้ประชาชนซื้อรถมอเตอร์ไซค์ใหม่ได้ยากขึ้น กระทบทั้งระบบเป็นห่วงโซ่ตั้งแต่ภาคประชาชนยันภาคธุรกิจ ซึ่งหากมองในระยะยาวการปรับลดอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวอาจทำให้กลไกตลาดเกิดความผิดเพี้ยนได้ แต่การที่เกณฑ์ได้เปิดช่องในการพิจารณาดอกเบี้ยตามสภาพเศรษฐกิจอาจช่วยให้เกิดการแข่งขันได้จริง ซึ่งต้องติดตามต่อไปว่าจะปรับได้จริงหรือไม่ด้วย ” 

สำหรับในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 65 เป็นโอกาสที่ดีในการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยายนต์ใหม่ เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นที่มีดีมานด์การซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่ในอัตราสูง โดยได้อานิสงส์จากการจัดแคมเปญส่งท้ายปลายปีของผู้แทนจำหน่าย และยังเป็นโอกาสที่ดีสำหรับลูกค้าที่ต้องการมีรถจักรยานยนต์ไว้ใช้ก่อนมีการปรับเงื่อนไขการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อซึ่งมีแนวโน้มยากขึ้น บริษัทจึงมั่นใจว่าโค้งสุดท้ายของปีนี้จะหนุนให้การเติบโตเป็นไปตามเป้า และสามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ตลอดทั้งปีที่ 11,000 ล้านบาทได้สำเร็จ 

"หุ้นลิสซิ่ง"ราคาร่วงยกแผง รับเซนทิเมนต์ เชิงลบ สคบ.คุมดอกเบี้ย - ออมสินแข่งดุ

" TIDLOR" ลั่นไม่กระทบหลังออมสิน ตั้งนอนแบงก์

นายปิยะศักดิ์ อุกฤษฎ์นุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR กล่าวว่า จากกรณีที่ธนาคารออมสินประกาศเตรียมทำธุรกิจบริการด้านการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร (non-bank) ในปี 2566 โดยให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคล (P-Loan) และจะคิดอัตราดอกเบี้ยประมาณ 20% ต่อปี รวมถึงการมีแผนเข้ามาให้บริการสินเชื่อที่ดิน และขายฝากตามที่เป็นข่าวนั้น

เงินติดล้อมั่นใจว่าจะไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากปัจจุบันธุรกิจหลักเป็นการให้บริการสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ และกลุ่มผู้ใช้สินเชื่อยังเป็นคนละกลุ่มกัน โดยกลุ่มลูกค้าของเงินติดล้อเป็นกลุ่มสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นหลักประกัน


นอกจากนี้ เงินติดล้อยังมีจุดแข็งในการให้บริการผ่าน “บัตรติดล้อ” บัตรกดเงินสดหมุนเวียนแบบไม่กดใช้ไม่เสียดอก ที่จะช่วยให้ผู้ขอสินเชื่อทะเบียนรถสามารถกดเงินสดตามวงเงินสินเชื่อของตนเองผ่านตู้ ATM ของธนาคารพาณิชย์ชั้นนำทั่วประเทศ ช่วยให้สามารถเข้าถึงเงินทุนในยามที่ต้องการ ได้อย่างสะดวกสบาย รวดเร็วและมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ช่วยลดขั้นตอนในการยื่นเอกสารขอสินเชื่อใหม่ และลดต้นทุนการเดินทางมารับบริการที่สาขา เพื่อให้สามารถนำเงินไปใช้แก้ปัญหาหรือฟื้นฟูกิจการของตนเอง และยังเป็นการลดการพึ่งพาแหล่งเงินทุนนอกระบบอีกด้วย ซึ่งที่ผ่านมาได้รับผลตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี อีกทั้งที่ผ่านมาบริษัท ยังสามารถสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจนายหน้าประกันภัยได้อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด และสามารถเติบโตได้ดีกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม ส่งผลให้รายได้ที่มาจากธุรกิจนายหน้าประกันภัยมีการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 


ทั้งนี้ ถือเป็นเรื่องน่ายินดีที่ธนาคารหันมาให้ความสนใจกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ผู้ประกอบอาชีพอิสระหรือเกษตรกร ที่มีหลักแหล่งรายได้ไม่แน่นอน เพื่อมีส่วนช่วยให้ประชาชนกลุ่มฐานราก (underbanked) มีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบเพิ่มขึ้น ส่วนด้านของผู้ประกอบการ non-bank จำเป็นต้องปรับตัว และสร้างพื้นฐานธุรกิจให้แข็งแกร่ง เพื่อให้สามารถรองรับการแข่งขันทางธุรกิจได้ในอนาคต ซึ่งที่ผ่านมาเงินติดล้อให้ความสำคัญกับการสร้างพื้นฐานธุรกิจโดยใช้นวัตกรรมอยู่ก่อนหน้าแล้ว จึงมั่นใจว่าจะสามารถแข่งขันในธุรกิจทั้งในปัจจุบัน และอนาคต และสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน
 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์