CKP คาดไตรมาส 3/65 โตพุ่ง รับไฮซีซั่น - ค่า Ft หนุน

CKP คาดไตรมาส 3/65 โตพุ่ง รับไฮซีซั่น - ค่า Ft หนุน

“ซีเค พาวเวอร์” เล็งออกหุ้นกู้วงเงินไม่เกิน 2 พันล้านบาท รองรับลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าใหม่ปีหน้า เผยครึ่งปีหลังผลงานโตเด่น รับโรงไฟฟ้าพลังน้ำเข้าไฮซีซั่นในไตรมาส 3 ปี 65 ทำจุดสูงสุดของปี คาดโรงไฟฟ้าหลวงพระบางชัดเจนปลายปีนี้

นางมัณทนา เอื้อกิจขจร รองกรรมการผู้จัดการ งานวางแผนธุรกิจ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKP เปิดเผยว่า ในปี 2566 บริษัทเตรียมออกหุ้นกู้วงเงินไม่เกิน 2,000 ล้านบาท เพื่อลงทุนในโครงการใหม่ๆ สะท้อนผ่านบริษัทมีเป้าหมายจะเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 2 เท่า ภายใน 3 ปีข้างหน้า (2565-2567) มีกำลังผลิตแตะ 4,800 เมกะวัตต์ 

โดยบริษัทจะมุ่งเน้นไปที่พลังงานทดแทน (Renewable) ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังน้ำ (Hydro) , โรงไฟฟ้าพลังงานลม (Wind) และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar) เป็นต้น โดยตั้งเป้าผลักดันกำลังการผลิตติดตั้งเพิ่มเป็น 95% จากปัจจุบัน 89% ซึ่งการลงทุนทั้งหมดยังคงอยู่ในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะในประเทศเวียดนาม ซึ่งบริษัทยังคงติดตามความคืบหน้าของแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า (Power Development Plan หรือ PDP) ของเวียดนาม จากเดิมชัดเจนกลางปีแต่ล่าช้าออกไปก็ยังติดตามอยู่ ส่วนในช่วงที่เหลือของปี 2565 บริษัทมีแผนออกหุ้นกู้ ในวงเงิน 1,000 ล้านบาท เพื่อทดแทนหุ้นกู้เดิมที่จะครบกำหนดในเดือนพ.ย.นี้ 

สำหรับ แนวโน้มผลการดำเนินงานครึ่งหลังปี 65 คาดว่าจะเติบโตกว่าครึ่งปีแรก หลังเข้าสู่ช่วงฤดูฝนทำให้ปริมาณน้ำที่ไหลเข้าอ่างเก็บน้ำเพื่อใช้ผลิตไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะไตรมาส 3 คาดว่ากำลังการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าไซยะบุรี จะทำจุดสูงสุด ตามปริมาณน้ำในเขื่อนที่เพิ่มขึ้นในฤดูฝนซึ่งเป็นไฮซีซั่นของธุรกิจ ส่วนโรงไฟฟ้าน้ำงึม 2 รอดูปริมาณน้ำที่ไหลเข้าอ่างในช่วงที่เหลือของปีนี้

ส่วนความคืบหน้าการพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำหลวงพระบางใน สปป.ลาว ปัจจุบันอยู่ระหว่างรอการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) อนุมัติเรื่องการลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ซึ่งกฟผ.อยู่ระหว่างสอบทาน PPA และอยู่ระหว่างการเจรจากู้เงินกับสถาบันการเงิน คาดปลายปีนี้น่าจะมีความชัดเจน รวมทั้งดูโครงการโรงไฟฟ้าประเภท greenfield และ brownfield ในไทย โดยจะพิจารณาถึงผลตอบแทนที่เหมาะสม

ขณะที่ ค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่า ft) ที่ปรับขึ้นในงวดเดือนก.ย.- ธ.ค.65 คาดจะเป็นส่วนช่วยให้อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ปรับตัวดีขึ้น ถ้านับเฉพาะเดือนก.ย.- ธ.ค.และลูกค้าอุตสาหกรรม จะทำให้รายได้เพิ่มขึ้น 60-70 ล้านบาท ภายใต้ราคาก๊าซอยู่ในระดับปัจจุบัน

ส่วนกรณี สปป.ลาว ประสบปัญหาเศรษฐกิจ ค่าเงินตกต่ำ ซึ่ง CKP มีโรงไฟฟ้า 2 แห่งใน สปป.ลาว ซึ่งทั้ง 2 โรงไฟฟ้าไม่ได้รับผลกระทบเรื่องการอ่อนค่าเงินกีบทั้งในปัจจุบัน และอนาคต ราคาขายไฟจะกำหนดในรูปเงินดอลลาร์ และเงินบาท

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์