ราคาทองคำโลกพุ่งเกิน 2% ทำจุดสูงสุดตลอดกาล เงินทำสถิติใหม่

ราคาทองคำโลกพุ่งขึ้นมากกว่า 2% สู่จุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อคืน ท่ามกลางความตึงเครียดสหรัฐ-เวเนซุเอลาที่ลุกลาม ขณะที่โลหะเงินก็แตะจุดสูงสุดตลอดกาลเช่นกัน
รอยเตอร์ รายงานว่า ทองคำพุ่งขึ้นเกินกว่า 2% สู่จุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันจันทร์ (22 ธ.ค.68) ได้แรงหนุนจากกระแสซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางความตึงเครียดสหรัฐ-เวเนซุเอลาที่ลุกลาม ขณะที่เงินก็แตะจุดสูงสุดตลอดกาลเช่นกัน
ราคาทองคำตลาดสปอต (Spot Gold) พุ่งขึ้น 2.2% ที่ 4,434.26 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ณ เวลา 13:54 น. ตามเวลาฝั่งตะวันออกสหรัฐ (18:54 น. GMT) หลังจากทำจุดสูงสุดตลอดกาลที่ 4,441.92 ดอลลาร์ก่อนหน้า สัญญาทองคำล่วงหน้าสหรัฐ (US Gold Futures) ส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ปิดเพิ่มขึ้น 1.9% ที่ 4,469.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์
นักวิเคราะห์จาก Nemo.Money กล่าวว่า “ปัจจัยสนับสนุนในระยะสั้นมาจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้นระหว่างสหรัฐฯ และเวเนซุเอลา... ราคาทองคำทรงตัวอยู่ต่ำกว่าระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ดังนั้นนี่จึงดูเหมือนเป็นการทะลุแนวต้านตามหลักการอย่างง่ายๆ เพื่อขึ้นไปด้านบน หลังจากที่ราคาทรงตัวในแดนบวกมาพักใหญ่ ในตลาดช่วงวันหยุดที่มีปริมาณการซื้อขายน้อยลง”
“เป้าหมายที่ชัดเจนสำหรับฝั่งกระทิงคือทองคำที่ 5,000 ดอลลาร์ในปีหน้า”
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าจะ “ปิดล้อม” เรือบรรทุกน้ำมันทุกลำที่ถูกคว่ำบาตรเข้าออกเวเนซุเอลา
นอกจากนี้ซีเอ็นบีซีรายงานข่าวที่หนุนทองคำอีกประการ โดยทรัมป์อาจแต่งตั้งประธานเฟดคนใหม่ภายในต้นมกราคม เพื่อมาแทนเจอโรม พาวเวลล์ ที่จะเกษียณกลางปี 2026 ท่ามกลางความสนใจของตลาดที่เฝ้าดูใกล้ชิด เนื่องจากประธานเฟดคนใหม่น่าจะมีแนวคิดสอดคล้องกับนโยบายของทรัมป์ในการลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม
ทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยมักเติบโตในช่วงความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจ ปีนี้ทองคำพุ่งขึ้นกว่า 69% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นรายปีที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่ปี 1979 ได้แรงหนุนจากการซื้อของบรราดาธนาคารกลางที่แข็งแกร่ง การไหลเข้าเงินทุนสู่สินทรัพย์ปลอดภัย และดอกเบี้ยที่ต่ำลง
โลหะเงินตลาดสปอตบวก 1.9% ที่ 68.40 ดอลลาร์ หลังแตะจุดสูงสุดใหม่ที่ 69.44 ดอลลาร์ ราคาปรับขึ้นแล้วกว่า 136% นับตั้งแต่ต้นปี
นักกลยุทธ์ Macquarie ระบุว่า ปัจจัยขับเคลื่อนเบื้องหลังจุดสูงสุดล่าสุดของเงินมาจากภาวะขาดดุลอุปสงค์-อุปทานที่ยืดเยื้อ และความต้องการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นในอินเดียช่วงเทศกาล โดยเพิ่มว่าพวกเขาคาดว่าราคาเงินเฉลี่ยจะอยู่ที่ 57 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในปี 2026
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (DXY) ขยับลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินหลักอื่น ๆ ทำให้โลหะมีค่าที่กำหนดราคาด้วยดอลลาร์มีราคาไม่แพงมากสำหรับผู้ซื้อต่างประเทศ
แพลทินัมพุ่ง 5.4% สู่ 2,079 ดอลลาร์ ทำจุดสูงสุดในรอบกว่า 17 ปี ขณะที่แพลเลเดียมเพิ่มขึ้น 2.1% สู่ 1,748.84 ดอลลาร์ แตะระดับสูงสุดในรอบเกือบสามปี
- อัปเดตราคาเช้านี้ (23 ธ.ค.68)
บลูมเบิร์ก รายงานว่าราคาทองคำสปอตเพิ่มขึ้น 0.3% สู่ระดับ 4,456.12 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ณ เวลา 7:35 น.ตามเวลาสิงคโปร์ (6:35 น.เวลาไทย) ราคาโลหะเงินปรับตัวขึ้น 0.3% สู่ระดับ 69.21 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งไม่ห่างจากระดับสูงสุดตลอดกาลของรอบก่อนหน้าที่ 69.4549 ดอลลาร์มากนัก ราคาแพลทินัมและแพลเลเดียมปรับตัวขึ้น ขณะที่ดัชนี Bloomberg Dollar Spot Index ปิดตลาดรอบก่อนหน้าลดลง 0.4%
ราคาทองคำพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มสูงขึ้นและการคาดการณ์เกี่ยวกับการลดอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ เพิ่มเติม
ราคาทองคำพุ่งขึ้นสูงสุดถึง 4,459.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โลหะมีค่าชนิดนี้ปรับตัวขึ้น 2.4% ในวันจันทร์ ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในหนึ่งวันในรอบกว่าหนึ่งเดือน เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ล่วงหน้าว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะลดต้นทุนการกู้ยืมอีกครั้งในปีหน้า และความตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับเวเนซุเอลา







