ราคาทองคำปิดสัปดาห์บวก เงินทำสถิติสูงสุดใหม่ คาดเฟดลดดอกเบี้ย

ราคาทองคำปิดสัปดาห์บวก เงินทำสถิติสูงสุดใหม่ คาดเฟดลดดอกเบี้ย

ราคาโลหะเงินพุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อคืน ขณะที่ราคาทองคำปิดสัปดาห์ในแดนบวก จากความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นว่าเฟด จะลดดอกเบี้ยอีกสองครั้งในปีหน้า

รอยเตอร์ รายงานราคาโลหะเงินพุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันศุกร์ (19 ธ.ค.68) ได้แรงหนุนจากความต้องการลงทุนและภาวะตึงตัวด้านอุปทาน ขณะที่ทองคำปิดสัปดาห์ในแดนบวก จากความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดดอกเบี้ย

ราคาเงินตลาดสปอต (Spot Silver) พุ่ง 2.6% สู่ 67.14 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปิดสัปดาห์เพิ่มขึ้น 8.4% หลังจากระหว่างวันทำจุดสูงสุดใหม่ตลอดกาลที่ 67.45 ดอลลาร์

ราคาทองคำตลาดสปอต (Spot Gold) เพิ่มขึ้น 0.4% สู่ 4,347.07 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ณ เวลา 14:17 น. ตามเวลาฝั่งตะวันออกสหรัฐ (19:17 น. GMT) และปิดสัปดาห์บวก 1.1% สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำของสหรัฐ (US Gold Futures) ปิดเพิ่มขึ้น 0.5% ที่ 4,387.3 ดอลลาร์

ไมเคิล มาทูเซก หัวหน้าค้าเทรดของ U.S. Global Investors กล่าวว่า “(ทองและเงิน) มีความสัมพันธ์กันสูงและปกติแล้วทองจะเป็นผู้นำ แต่ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมาเราเห็นว่าเงินเป็นฝ่ายนำ ดังนั้นเมื่อส่วนต่างกว้างมาก ผู้เล่นก็จะเริ่มหันมาซื้อทองเพื่อให้ส่วนต่างแคบลงในระยะสั้น”

ปีนี้ราคาเงินทะยานขึ้น 132% แซงหน้าทองคำที่ปรับขึ้น 65% จากแรงซื้อเพื่อลงทุนที่แข็งแกร่งและข้อจำกัดด้านอุปทาน

ฟิลลิป สไตรเบิล หัวหน้านักกลยุทธ์ตลาดของ Blue Line Futures กล่าวว่า “กระแสเงินไหลเข้ากองทุนอีทีเอฟ เงิน ยังเป็นธีมหลัก รวมถึงการเก็งกำไรจากนักลงทุนรายย่อยบางส่วนด้วย”

ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคยิ่งหนุนความหวังต่อการลดดอกเบี้ย โดยดัชนีราคาผู้บริโภคสหรัฐเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้น 2.7% เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาด 3.1%

อีกด้านหนึ่ง กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานเมื่อต้นสัปดาห์ว่า อัตราว่างงานเพิ่มขึ้นเป็น 4.6% ในเดือนพฤศจิกายน สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2021

สไตรเบิลเสริมว่า “เราเห็นทั้งตัวเลขเงินเฟ้อลดลง และรายงานตลาดแรงงานที่อ่อนตัวลงตอกย้ำว่าเฟดควรเดินหน้าผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อไป  นี่คือหนึ่งในตัวขับเคลื่อนหลัก อีกด้านคือความไม่แน่นอนอย่างมากว่าธนาคารกลางจะดำเนินนโยบายต่อไปอย่างไร”

ตามข้อมูลของ LSEG ผู้ค้ายังคงเดิมพันว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยอย่างน้อยสองครั้ง ครั้งละ 0.25% ในปีหน้า

ด้านราคาแพลทินัมเพิ่มขึ้น 3.1% สู่ 1,975.51 ดอลลาร์ หลังจากทำจุดสูงสุดในรอบกว่า 17 ปีเมื่อวันพฤหัสบดี ขณะที่แพลเลเดียมขยับขึ้น 0.8% สู่ 1,709.75 ดอลลาร์ หลังจากแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบสามปีในการซื้อขายระหว่างวัน โดยทั้งสองโลหะปิดสัปดาห์ในแดนบวกเช่นกัน