ราคาทองคำแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ เชื่อเฟดหั่นดอกเบี้ย

ราคาทองคำแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์เมื่อคืน ท่ามกลางการคาดการณ์การลดดอกเบี้ยที่ส่งผลกระทบให้ดอลลาร์อ่อนค่า ขณะที่โลหะเงินแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
รอยเตอร์ รายงานราคาทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ในวันจันทร์ (1 ธ.ค.68) โดยได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการลดอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐ และดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง ขณะที่ราคาโลหะเงินแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ก่อนการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐ
ราคาทองคำตลาดสปอต (Spot Gold) เพิ่มขึ้น 0.3% อยู่ที่ 4,241.27 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ณ เวลา 13:44 น. ตามเวลาฝั่งตะวันออกสหรัฐ (18:44 GMT) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม
สัญญาทองคำล่วงหน้าของสหรัฐ (US Gold Futures) สำหรับการส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 0.5% อยู่ที่ 4,274.80 ดอลลาร์
ราคาโลหะเงินพุ่งขึ้น 3.8% มาอยู่ที่ 58.57 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากแตะระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 58.83 ดอลลาร์ก่อนหน้านี้ โลหะมีค่าสีขาวนี้พุ่งขึ้นกว่า 100% ในปีนี้
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดในรอบสองสัปดาห์ ทำให้ทองคำมีราคาที่เอื้อมถึงได้ง่ายขึ้นสำหรับผู้ถือสกุลเงินอื่นๆ
“สภาพแวดล้อมพื้นฐานของความคาดหวังต่อการลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม ควบคู่กับแรงกดดันเงินเฟ้อที่ยังอยู่เหนือเป้าหมายของเฟด … ยังคงเป็นปัจจัยหนุนพื้นฐานต่อราคาทองคำและเงิน” เดวิด เมเกอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายซื้อขายโลหะของ High Ridge Futures กล่าว
ผู้ค้าเห็นว่าโอกาสในการลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม สูงขึ้นเป็น 87% หลังจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ ที่อ่อนตัวลง และคำกล่าวในเชิงผ่อนคลายนโยบายจากเจ้าหน้าที่เฟด ซึ่งรวมถึงกรรมการผู้ว่าการคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ และประธานเฟดสาขานิวยอร์ก จอห์น วิลเลียมส์
อัตราดอกเบี้ยที่ลดลงมักจะเอื้อต่อสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ย เช่น ทองคำ
นักลงทุนยังให้ความสนใจกับข้อมูลสำคัญของสหรัฐ ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงตัวเลขการจ้างงาน ADP เดือนพฤศจิกายนในวันพุธ และดัชนีการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนกันยายน ที่ล่าช้า ซึ่งจะประกาศในวันศุกร์ PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ
คาดว่าคำกล่าวของประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ ในช่วงบ่ายวันจันทร์นี้ จะให้สัญญาณด้านนโยบายเพิ่มเติม
ขณะเดียวกัน เมเกอร์ กล่าวว่า การคาดการณ์ว่าประธานเฟดคนต่อไปจะมีท่าทีผ่อนคลายทางนโยบายมากกว่าคนก่อนๆ ก็สนับสนุนราคาทองคำ และเงินเช่นกัน
เควิน แฮสเซ็ตต์ ที่ปรึกษาเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า หากได้รับเลือก เขายินดีที่จะดำรงตำแหน่งประธานเฟดคนต่อไป ขณะที่สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่าอาจมีการแต่งตั้งประธานเฟดคนใหม่ก่อนวันคริสต์มาส
“เรายังคงมองว่าทองคำ และเงินอยู่ในแนวโน้มแกว่งตัวออกข้าง หรือไม่ก็ขึ้นต่ออย่างแข็งแกร่ง” เมเกอร์ กล่าว
ในกลุ่มโลหะมีค่าชนิดอื่น แพลทินัมลดลง 0.7% เหลือ 1,660.69 ดอลลาร์ ขณะที่แพลเลเดียมลดลง 2.1% เหลือ 1,431.52 ดอลลาร์
อัปเดตราคาเช้านี้ (2 ธ.ค.68)
บลูมเบิร์ก รายงานว่าราคาโลหะเงินทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยเทรดเดอร์ต่างเก็งกำไรจากอุปทานโลหะชนิดนี้ที่ตึงตัว ส่วนราคาทองคำแทบไม่เปลี่ยนแปลง
โลหะสีขาวซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 57.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 8% ในช่วงสองวันทำการที่ผ่านมา โลหะเงินไหลเข้าลอนดอนในปริมาณสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนตุลาคม เพื่อช่วยบรรเทาภาวะซัพพลายตึงตัว แต่การไหลเข้าตลาดลอนดอนสร้างแรงกดดันต่อตลาดอื่นๆ โดยสินค้าคงคลังของตลาดซื้อขายล่วงหน้าเซี่ยงไฮ้เพิ่งแตะระดับต่ำสุดในรอบทศวรรษ
ราคาเงินแทบไม่เปลี่ยนแปลงที่ 57.8879 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ณ เวลา 7:17 น. ตามเวลาที่สิงคโปร์ ราคาทองคำทรงตัว หลังจากปิดตลาดก่อนหน้านี้ด้วยราคาที่ลดลงเล็กน้อย ดัชนี Bloomberg Dollar Spot ปิดตลาดวันจันทร์ทรงตัว ราคาแพลเลเดียมและแพลทินัมปรับตัวลดลงเล็กน้อย
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







