ราคาทองคำโลกทรงตัว ผู้ค้าเพิ่มคาดการณ์เฟดลดดอกเบี้ยเดือนหน้า

รอยเตอร์  รายงานราคาทองคำโลกทรงตัวในวันศุกร์ (21พ.ย.68) หลังจากร่วงลงกว่า 1% ในช่วงต้นตลาด เนื่องจากนักลงทุนเพิ่มการคาดการณ์การลดอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ในเดือนธันวาคม หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) แถลงนโยบายผ่อนคลายทางการเงิน

ราคาทองคำตลาดสปอต (Spot Gold) ทรงตัวที่ 4,086.57 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ณ เวลา 13:48 น. ตามเวลาฝั่งตะวันออกสหรัฐ (18:48 GMT) หลังจากร่วงลงมากกว่า 1% ในช่วงต้นตลาด ราคาทองคำแท่งคาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.1% ในรอบสัปดาห์นี้

ราคาทองคำล่วงหน้าส่งมอบเดือนธันวาคมของสหรัฐฯ (US Gold Futures) ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 0.5% ที่ 4,079.5 ดอลลาร์ต่อออนซ์

นายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขานิวยอร์ก กล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจลดดอกเบี้ยลงได้ในระยะใกล้นี้ โดยไม่กระทบต่อเป้าหมายเงินเฟ้อของเฟด

จิม ไวคอฟฟ์ นักวิเคราะห์อาวุโสจาก Kitco Metals กล่าวว่า "ความคิดเห็นเหล่านี้ "สนับสนุนอย่างแน่นอน... มันทำให้ตลาดทองคำมีแรงซื้อในช่วงเช้าวันนี้"

ขณะนี้ เทรดเดอร์มองว่ามีโอกาส 74% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไป เทียบกับ 40% ก่อนหน้านี้

รายงานการจ้างงานที่ล่าช้าแสดงให้เห็นภาพรวมของตลาดแรงงานที่ผสมผสานกัน โดยการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 119,000 ตำแหน่งในเดือนตุลาคม สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 50,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราการว่างงานพุ่งสูงสุดในรอบ 4 ปี

ทองคำ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ย มีแนวโน้มที่จะปรับตัวดีในสภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำ

ขณะเดียวกัน สมาชิกเฟดคนอื่นๆ ยังคงแสดงท่าทีแข็งกร้าว โดยลอรี โลแกน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ สาขาดัลลัส เรียกร้องให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ "สักพัก"

เทรดเดอร์ยังคงจับตาดูตลาดหุ้นสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด เนื่องจาก "หากตลาดหุ้นฟื้นตัวแข็งแกร่งขึ้นในวันนี้ ก็น่าจะกดดันราคาทองคำให้ปรับตัวลดลง เนื่องจากความต้องการเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในตลาด" ไวคอฟฟ์กล่าวเสริม

ดัชนีหลักของวอลล์สตรีทปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากเทรดเดอร์เพิ่มการคาดการณ์เกี่ยวกับการลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดในเดือนหน้า หลังจากคำแถลงของผู้กำหนดนโยบาย 

ขณะเดียวกัน ความต้องการทองคำแท่งในตลาดสำคัญๆ ในเอเชียยังคงอ่อนแอในสัปดาห์นี้ เนื่องจากความผันผวนของอัตราดอกเบี้ยเป็นอุปสรรคต่อการซื้อของผู้ซื้อ

ในตลาดอื่นๆ ราคาโลหะเงิน ลดลง 0.4% มาอยู่ที่ 50.39 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แพลทินัมเพิ่มขึ้น 0.1% มาอยู่ที่ 1,512.67 ดอลลาร์ และแพลเลเดียมเพิ่มขึ้น 0.2% มาอยู่ที่ 1,380 ดอลลาร์