ราคาทองคำร่วง ตัวเลขจ้างงานสหรัฐดีเกินคาด ลดโอกาสดอกเบี้ยลง

ราคาทองคำร่วง ตัวเลขจ้างงานสหรัฐดีเกินคาด ลดโอกาสดอกเบี้ยลง

ราคาทองคำร่วงลงเมื่อคืนที่ผ่านมา หลังข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ฉุดโอกาสการลดดอกเบี้ยเดือนธ.ค.ให้น้อยลง กรรมการเฟดหลายคนคัดค้านการลดดอกเบี้ยเพิ่ม

รอยเตอร์  รายงานราคาทองคำร่วงลงในวันพฤหัสบดี (20 พ.ย.68) เนื่องจากนักลงทุนกำลังประเมินรายงานการจ้างงานของสหรัฐ ประจำเดือนกันยายน ซึ่งแสดงให้เห็นตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ไว้ และทำให้โอกาสการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม ลดน้อยลง

ราคาทองคำตลาดสปอต (Spot Gold) ลดลง 0.6% มาอยู่ที่ 4,058.29 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ เมื่อเวลา 13:45 น. ตามเวลาฝั่งตะวันออกสหรัฐ (18:45 GMT) สัญญาทองคำล่วงหน้าของสหรัฐ (US Gold Futures) ส่งมอบเดือนธันวาคมปิดตลาดลดลง 0.6% มาอยู่ที่ 4,060 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ ทำให้ทองคำที่ตั้งราคาเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ มีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ซื้อจากต่างประเทศ

รายงานของกระทรวงแรงงานที่ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด ซึ่งล่าช้าเนื่องจากรัฐบาลปิดทำการ แสดงให้เห็นว่าการจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือนกันยายนเพิ่มขึ้น 119,000 ตำแหน่ง มากกว่าสองเท่าของที่คาดการณ์ไว้ที่ 50,000 ตำแหน่ง

“ข้อมูล นี้ยืนยันสิ่งที่เฟดได้หารือกันในเดือนตุลาคม นั่นคือ ตลาดงานที่ชะลอตัวแต่มีเสถียรภาพ การลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม ดูเหมือนจะไม่น่าจะเกิดขึ้นได้อีกต่อไป” ปีเตอร์ แกรนท์ รองประธาน และนักกลยุทธ์อาวุโสด้านโลหะของ Zaner Metals กล่าว

 

ขณะนี้ เทรดเดอร์มองว่ามีโอกาสเกือบ 40% ที่จะลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า ทองคำ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ย มีแนวโน้มที่จะปรับตัวดีในสภาพแวดล้อมที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ

เนื่องจากการปิดทำการ สำนักงานสถิติแรงงาน จึงได้ยกเลิกการเผยแพร่รายงานประจำเดือนตุลาคม และจะรวมรายงานดังกล่าวเข้ากับตัวเลขของเดือนพฤศจิกายนแทน รายงานรวมจะเผยแพร่ในวันที่ 16 ธันวาคม หลังการประชุมครั้งต่อไปของเฟด

ขณะเดียวกัน รายงานการประชุมของเฟดเมื่อเดือนตุลาคมเผยให้เห็นเมื่อวันพุธว่าผู้กำหนดนโยบายได้ลดอัตราดอกเบี้ยลง แม้จะมีคำเตือนว่าการดำเนินการดังกล่าวอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะเงินเฟ้อ และบั่นทอนความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อธนาคารกลาง

ทองคำ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยแบบดั้งเดิม พุ่งขึ้น 55% ในปีนี้ โดยแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4,381.22 ดอลลาร์สหรัฐ เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม

แม้จะมีการปรับฐานราคาเมื่อเร็วๆ นี้ แต่ธนาคาร UBS ก็ได้ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายทองคำกลางปี 2569 ขึ้นอีก 300 ดอลลาร์สหรัฐ เป็น 4,500 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อออนซ์ เนื่องจากคาดการณ์ว่าสหรัฐ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงมีอยู่ และความต้องการที่แข็งแกร่งของธนาคารกลาง และกองทุนรวมดัชนี

ในบรรดาโลหะอื่นๆ เงินตลาดสปอตร่วงลง 1.7% มาอยู่ที่ 50.47 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อออนซ์ แพลทินัมร่วงลงแรง 2.3% มาอยู่ที่ 1,510.70 ดอลลาร์สหรัฐ และแพลเลเดียมลดลง 0.1% มาอยู่ที่ 1,379 ดอลลาร์สหรัฐ

อัปเดตราคาเช้านี้ (21 พ.ย.68)

บลูมเบิร์ก รายงานว่าทองคำขยับขึ้น 0.1% มาอยู่ที่ 4,082.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อเวลา 7:18 น. ตามเวลาที่สิงคโปร์ ดัชนี Bloomberg Dollar Spot เพิ่มขึ้น 0.1% ในการซื้อขายก่อนหน้า ราคาโลหะเงินและแพลทินัมทรงตัว ในขณะที่แพลเลเดียมเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

ราคาทองคำทรงตัวหลังจากรายงานการจ้างงานสหรัฐ ที่ออกมาผสมผสาน ซึ่งแทบไม่มีแรงจูงใจใหม่ๆ ให้ธนาคารกลางสหรัฐ ลดอัตราดอกเบี้ย

ทองคำแท่งซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 4,080 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากปรับตัวลดลงเล็กน้อยในการซื้อขายก่อนหน้า รายงานแรงงานฉบับล่าสุดก่อนการประชุมเฟดในวันที่ 9-10 ธันวาคม แสดงให้เห็นว่าการเติบโตของการจ้างงานสหรัฐ สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเดือนกันยายน แต่อัตราการว่างงานกลับพุ่งสูงขึ้น

เจ้าหน้าที่เฟดหลายคนมีแนวโน้มที่จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ ขณะที่เทรดเดอร์สวอปมองว่ามีโอกาสน้อยกว่า 50% ที่จะลดลงในเดือนหน้า 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์