‘กำไรธนาคารพาณิชย์’ ต่ำสุดรอบ 2ปี ’รายได้-ดอกเบี้ยขาลง’ ฉุด

ธปท. เผยไตรมาส 3 ปี 68 “กำไรแบงก์” อยู่ที่ 6.6 หมื่นล้าน ลดลง 6.9% จาก “สินเชื่อ-อัตราดอกเบี้ย” หดตัว แม้เสถียรภาพแบงก์ยังแกร่ง แต่สะท้อนแรงกดดันเชิงโครงสร้างรายได้ระบบธนาคารชัดเจน
นายสมชาย เลิศลาภวศิน ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า เมื่อพิจารณาตัวเลขผลกำไรสุทธิของระบบธนาคารพาณิชย์ไทย ในไตรมาส 3 กำไรสุทธิโดยรวม อยู่ที่ 66,000 ล้านบาท ลดลง 6.9% หากเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน
และพบว่าระดับกำไรดังกล่าวยังเป็นระดับที่ต่ำที่สุดในรอบหลายปี โดยน่าจะเป็นระดับต่ำสุดในช่วง 4-5 ปี ซึ่งสอดคล้องกับการชะลอตัวของ “รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ” และ “ภาวะสินเชื่อที่หดตัว” ต่อเนื่อง
โดยผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2568 ไม่เพียงลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ยังลดลงจากไตรมาส 2 อย่างมีนัยสำคัญ สะท้อนแรงกดดันเชิงโครงสร้างของรายได้ในระบบธนาคารที่เริ่มเห็นชัดขึ้น
“กำไรที่ลดลงมากในไตรมาส 3 หากเทียบกับไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งมาจากรายการพิเศษโดยเฉพาะเงินปันผลที่ธนาคารหลายแห่งรับรู้ในไตรมาส 2 ทำให้กำไรของไตรมาส 2 สูงผิดปกติ”
ทั้งนี้ กำไรที่ลดลงยังสอดคล้องกับ ROA (Return on Asset) คือ ผลตอบแทนจากสินทรัพย์ และ ROE (Return on Equity) ผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้นที่ปรับลดลงต่อเนื่อง และต่ำที่สุดนับจากปี 2565 โดยปัจจุบัน ROA อยู่ที่ 1.08% ลดลงอย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้า
แม้ไทยเคยมี ROA ใกล้เคียงระดับนี้ในปี 2565 ที่ 1.01% แต่ในปีนี้ การลดลงของ ROA สะท้อนถึงความสามารถในการทำกำไรจากสินทรัพย์ที่ถดถอยต่อเนื่อง
เช่นเดียวกัน ROE อยู่ที่ 7.73% ที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ก่อนปี 2565 เช่นเดียวกันเหล่านี้ส่วนหนึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสามารถทำกำไรของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่ลดลง ซึ่งส่วนนี้ขึ้นอยู่กับการบริหารทุนของธนาคารแต่ละแห่งจะแตกต่างกัน
หากธนาคารต้องการให้ ROE ดีขึ้น สามารถทำได้ผ่านการลดฐานทุน เช่น การทำ Treasury Stock หรือ ซื้อหุ้นคืนซึ่งจะทำให้ตัวหารในการคำนวณ ROE ลดลง ส่งผลให้ตัวเลข ROE สูงขึ้นโดยอัตโนมัติ
แต่ในภาพใหญ่ ROE ที่ลดลงของระบบธนาคารลดลงจากแรงกดดันด้านรายได้เช่นกัน
"การประเมินว่ากำไรของธนาคารจะยังคงอยู่ในระดับต่ำต่อไปในปีหน้า หรือจะฟื้นตัวนั้นตอบยากมากเพราะผลกำไรเป็นผลลัพธ์ปลายทางที่ขึ้นอยู่กับทั้ง รายได้ และ ต้นทุน ซึ่งธนาคารต้องบริหารทั้งสองด้านควบคู่กัน และสิ่งที่ธนาคารต้องบริหารมีทั้ง บริหารต้นทุนแม้รายได้ดอกเบี้ยยังถูกกดดันจากสินเชื่อหดตัว และดอกเบี้ยลดลง แต่ในอีกด้านหนึ่ง ธนาคารก็มีการลงทุนด้านเทคโนโลยีอย่างมากในช่วง 3-5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นต้นทุนคงที่จำนวนสูง ทำให้ประสิทธิภาพของการควบคุมค่าใช้จ่ายขึ้นอยู่กับการบริหารต้นทุนคงที่เหล่านี้ด้วย"
ส่วนภาพรวมระบบธนาคารพาณิชย์จะมีความมั่นคงและมีเสถียรภาพ โดยมีเงินกองทุน และเงินสำรองและสภาพคล่องอยู่ระดับสูงต่อเนื่อง
สำหรับแนวโน้มสินเชื่อในระยะข้างหน้า ขึ้นอยู่กับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า รวมถึงยังต้องติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ ที่ช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนในระยะข้างหน้า โดยจะต้องติดตามการส่งผลนโยบายรัฐบาลว่าช่วยส่งผ่านไปยังระบบเศรษฐกิจได้มากน้อยแค่ไหนด้วย







