เที่ยวดีมีคืน! รู้ไหมว่า เที่ยวปลายปี ใช้สิทธิคืนภาษีได้ด้วย

ส่องรายละเอียดโครงการเที่ยวดีมีคืน 2568 นำค่าใช้จ่ายบางส่วนจากการท่องเที่ยวมาลดหย่อนภาษีได้จริง ได้เที่ยว แล้วยังช่วยคืนภาษีตอนยื่นปลายปีได้อีกต่อด้วย
ช่วงปลายปีแบบนี้ หลายคนเริ่มวางแผนท่องเที่ยวพักผ่อนหลังจากเหน็ดเหนื่อยมาทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นทริปทะเล ภูเขา หรือเที่ยวเมืองเก่าก็ล้วนแต่ช่วยชาร์จพลังให้ชีวิตกลับมาสดใสอีกครั้ง แต่รู้ไหมว่า…การเที่ยวของคุณ อาจช่วยลดภาษีได้ด้วย!
ใช่แล้วค่ะ รัฐบาลมีมาตรการสนับสนุน “การท่องเที่ยวภายในประเทศ” ที่เปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถนำค่าใช้จ่ายบางส่วนจากการท่องเที่ยวมาลดหย่อนภาษีได้จริง
เรียกได้ว่า เที่ยวก็ได้พักผ่อน แถมยังช่วยคืนภาษีตอนยื่นปลายปีอีกต่อ ถือเป็นของขวัญชิ้นพิเศษที่คนทำงานไม่ควรมองข้ามเลยทีเดียว
รัฐกระตุ้นท่องเที่ยว...คนไทยได้ประโยชน์สองต่อ
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ภาครัฐมักออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงปลายปี โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว เพราะนอกจากจะช่วยกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นแล้ว ยังทำให้ประชาชนกล้าใช้จ่ายมากขึ้น หนึ่งในโครงการยอดนิยมที่หลายคนคุ้นชื่อคือ “เที่ยวเมืองไทย ใช้จ่ายได้คืน” หรือโครงการที่คล้ายกัน เช่น “ช้อปดีมีคืน” ที่เปิดโอกาสให้นำค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในประเทศไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้
แม้รายละเอียดของแต่ละปีอาจเปลี่ยนไปตามนโยบายของรัฐบาล อย่างเช่นปีนี้ใช้ชื่อโครงการเป็น “เที่ยวดีมีคืน” ซึ่งโดยหลักแล้วแนวคิดยังคงเดิมคือสนับสนุนให้คนไทยออกไปจับจ่ายภายในประเทศ ทั้งกิน เที่ยว และซื้อของจากผู้ประกอบการไทย
ประเภทค่าใช้จ่ายแบบไหนที่นำมาลดหย่อนได้บ้าง
โดยทั่วไป มาตรการท่องเที่ยวเพื่อคืนภาษี จะกำหนดให้ประชาชนสามารถนำค่าใช้จ่ายภายในประเทศมาใช้ลดหย่อนได้ เช่น
1. ค่าที่พักโรงแรมหรือรีสอร์ตที่จดทะเบียนกับกรมการท่องเที่ยว ต้องเป็นที่พักที่มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจอย่างถูกต้อง เช่น โรงแรม รีสอร์ต หรือโฮมสเตย์ที่ขึ้นทะเบียนแล้ว ซึ่งชื่อผู้จองต้องตรงกับผู้ขอลดหย่อนภาษีด้วย
2. ค่าอาหาร หรือร้านในพื้นที่ท่องเที่ยว ที่มีการจด Vat แล้ว บางปีรัฐบาลอนุญาตให้นำค่าใช้จ่ายในหมวดอาหาร หรือสินค้าท้องถิ่นที่มีใบเสร็จภาษีเต็มรูปแบบ (ใบกำกับภาษีเต็มรูป) มาลดหย่อนได้ด้วย
ทั้งนี้ ควรเก็บหลักฐานให้ครบ เช่น ใบเสร็จรับเงิน ใบกำกับภาษี หรือหลักฐานการโอนเงินผ่านบัญชี เพราะเอกสารเหล่านี้เป็นสิ่งที่กรมสรรพากรใช้ตรวจสอบสิทธิ์จริง
ช่วงเวลาที่ใช้สิทธิได้
มาตรการลักษณะนี้มักเปิดให้ใช้จ่ายในช่วง ไตรมาสสุดท้ายของปี ซึ่งในปีนี้เปิดใช้ได้ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม – 15 ธันวาคม 2568 และสามารถนำหลักฐานไปยื่นตอนทำภาษีในปีถัดไป
ดังนั้นหากใครกำลังวางแผนเที่ยวปลายปี ก็อย่าลืมตรวจสอบข่าวจากกรมสรรพากรหรือกระทรวงการคลัง เพื่อดูว่าปีนี้เปิดโครงการใดอยู่บ้าง
เคล็ดลับคือ ให้จองที่พักหรือทัวร์ในช่วงเวลาที่มาตรการมีผลเท่านั้น เพราะหากจ่ายก่อนหรือหลังช่วงเวลาที่กำหนด จะไม่สามารถนำมาลดหย่อนได้
เที่ยวอย่างฉลาด ได้ทั้งสุข ได้ทั้งประหยัด
นอกจากเรื่องภาษี การวางแผนเที่ยวปลายปีให้คุ้มยังมีอีกหลายจุดที่ควรคำนึงถึง เช่น
- จองล่วงหน้าแต่เนิ่นๆ เพื่อได้ราคาที่พักและตั๋วเดินทางที่ถูกกว่า
- เลือกจุดหมายที่ไม่แออัดมาก เช่น เมืองรองหรืออำเภอเล็กๆ ที่ยังคงความธรรมชาติ และช่วยกระจายรายได้ให้ชุมชน
- ใช้จ่ายแบบมีสติ แม้จะใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ แต่ก็ควรเลือกใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็นจริง ๆ เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด
รู้ไว้ก่อนยื่นภาษี
หลายคนมักพลาดสิทธิ์เพราะ “ลืมเก็บใบกำกับภาษี” หรือไม่ทราบว่าร้านที่ใช้จ่ายไม่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จึงไม่สามารถนำมาใช้ลดหย่อนได้ ดังนั้นก่อนชำระเงิน ควรถามร้านหรือผู้ประกอบการให้แน่ใจว่าออก ใบกำกับภาษีเต็มรูป ได้หรือไม่
อีกเรื่องที่สำคัญคือ ใบเสร็จและชื่อผู้ชำระเงินต้องตรงกับผู้ยื่นภาษีเท่านั้น
สรุป...เที่ยวให้คุ้ม อย่าลืมใช้สิทธิ์ภาษีให้ครบ
การเที่ยวปลายปีไม่ได้เป็นแค่การพักผ่อน แต่ยังเป็นโอกาสดีในการบริหารภาษีให้คุ้มค่า ด้วย ถ้าวางแผนดี เก็บหลักฐานครบ และเลือกใช้จ่ายกับผู้ประกอบการที่ถูกต้องตามกฎหมาย จะได้ทั้งความสุขจากการเดินทาง และประโยชน์จากการลดหย่อนภาษีในเวลาเดียวกัน
ดังนั้นก่อนเก็บกระเป๋าออกเดินทางปีนี้ ลองเพิ่มอีกหนึ่งขั้นตอนง่ายๆ ตรวจดูว่าสิทธิ์ “เที่ยวแล้วลดหย่อนภาษี” ยังเปิดอยู่หรือไม่ แล้วเก็บใบเสร็จทุกใบไว้ให้ครบ เท่านี้การเที่ยวของคุณก็จะกลายเป็น “ทริปแห่งความคุ้มค่า” ที่ทั้งช่วยเศรษฐกิจไทย และช่วยเงินในกระเป๋าคุณไปพร้อมกัน
อ่านบทความน่ารู้เกี่ยวกับภาษี เพิ่มเติม คลิกที่นี่
Source : Inflow Accounting







