พลวัตบัญชี BOP และความคลาดเคลื่อนสุทธิในรอบ 10 ปี: ข้อเท็จจริงและปริศนาที่รอการปลดล็อก

นักวิชาการด้านเศรษฐกิจมหภาคและการเงิน ให้มุมมองต่อพลวัตบัญชีดุลการชำระเงิน (BOP)และค่าความคลาดเคลื่อนสุทธิ (NEOs) ของไทยในระยะหลังนี้ ซึ่งเป็นประเด็นที่กำลังถกเถียงกัน
ผู้เขียนมีประสบการณ์กว่า 10 ปี ทำงานด้านบัญชีดุลการชำระเงินของไทย รวมถึงบัญชีเงินทุน บัญชีเงินสำรองระหว่างประเทศและหนี้ต่างประเทศ ทั้งแนวราบและแนวลึก จัดทำสถิติ
วิเคราะห์และให้ข้อเสนอแนะทางนโยบาย แลกเปลี่ยนความรู้กับเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศ และเคยเป็นผู้ร่วมอภิปรายและผู้บรรยายในการประชุม/หลักสูตรฝึกอบรมดุลการชำระเงินและเงินทุนเคลื่อนย้ายที่จัดโดย SEACEN Centre[1]
จึงขอให้มุมมองต่อพลวัตบัญชี BOPและค่าความคลาดเคลื่อนสุทธิ (NEOs) ของไทยในระยะหลังนี้ ซึ่งเป็นประเด็นที่กำลังถกเถียงกัน
เนื่องจากบัญชี BOP ซับซ้อนและมีประเด็นเกี่ยวข้องมาก เช่น การค้าโลกที่ผลิตแยกส่วนในห่วงโซ่อุปทานเสี่ยงการปลอมแปลงถิ่นกำเนิดสินค้าและ FinTech บทความจึงมี 3 ตอน
1. บัญชีดุลการชำระเงิน (BOP): กระจกสะท้อนภาพการแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศทั้งภาคเศรษฐกิจจริงและภาคการเงิน
บัญชีดุลการชำระเงิน (Balance of Payments: BOP) คือรายงานสถิติของธุรกรรมทั้งหมดของเศรษฐกิจหนึ่งกับโลกส่วนที่เหลือ (The rest of the world) ที่สรุปอย่างเป็นระบบในช่วงเวลาที่กำหนดไว้
บันทึกธุรกรรมเศรษฐกิจเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงความเป็นเจ้าของระหว่าง “ผู้อยู่อาศัยในประเทศ (Residents)” กับ “ผู้อยู่อาศัยในต่างประเทศ (Non-residents)”
แบ่งเป็น 2 ส่วนหลัก คือ
(1) บัญชีเดินสะพัด (Current Account: CA) บันทึกธุรกรรมภาคเศรษฐกิจจริง เช่น การส่งออก-นำเข้าสินค้าและบริการ รายได้จากการลงทุน และการเงินโอนข้ามประเทศ
(2) บัญชีเงินทุน (Capital and Financial Account: CFA) บันทึกธุรกรรมการเงินที่เปลี่ยนแปลงสิทธิและสินทรัพย์ทางการเงินระหว่างประเทศ เช่น FDI การซื้อขายหลักทรัพย์ และการกู้ยืมเงินระหว่างประเทศ เพื่อแสดงภาพรวมว่าประเทศมีการแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจกับต่างประเทศอย่างไร (Eurostat)[2]
บัญชี BOP ใช้ระบบบัญชีแบบลงบัญชีคู่ ทุกธุรกรรมจะถูกบันทึกทั้งด้านเดบิตและเครดิต เช่น หากประเทศส่งออกสินค้าเป็นเครดิตในบัญชีเดินสะพัด และบันทึกการเพิ่มขึ้น (เดบิต) ของสินทรัพย์ (เงินตราต่างประเทศ)
ในบัญชีเงินทุน เขียนเป็นสมการดังนี้ BOP = CA + CFA = 0 โดยหากบันทึกครบถ้วนยอดดุลรวมควรเป็นศูนย์ แต่ในทางปฏิบัติมักไม่เป็นเช่นนั้น (Eurostat)[3]
ในหลักทั่วไป การรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจจะพิจารณาตัวแปรเศรษฐกิจหลัก เช่น การคาดการณ์เงินเฟ้อระยะยาว การคลังของรัฐบาลกลาง และช่องว่างการผลิต
ทั้งนี้ หากประเทศอยู่ภายใต้ระบบอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ สถิติบัญชี BOP จะมีบทบาทสำคัญในการดูแลเสถียรภาพค่าเงิน เช่น การขาดดุลบัญชี CA ขนาดใหญ่ต้องได้รับการชดเชยด้วยบัญชี CFA ที่เกินดุลขนาดใหญ่ด้วย ที่อาจยากต่อการจัดการ และเป็นความเสี่ยงต่อระบบอัตราแลกเปลี่ยนคงที่
งานศึกษาของ Riksbank (2003)[4] ชี้ว่าตั้งแต่สวีเดนยกเลิกการควบคุมปริวรรตเงินตราสกุลเงินโครนาในปี 1989 มาเป็นระบบอัตราแลกเปลี่ยนลอยตัว
ส่งผลให้สถิติ BOP ทวีความสำคัญในการใช้วิเคราะห์ภาพเศรษฐกิจ เนื่องจากพฤติกรรมการออมและลงทุนของชาวสวีเดนเปลี่ยนแปลงไป หันไปลงทุนในต่างประเทศมากขึ้นจากอัตราเงินเฟ้อที่ต่ำในช่วงทศวรรษ 1990s
ส่งผลอย่างมากต่อกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายระหว่างประเทศ รวมถึงความเข้าใจการจัดสรรการออมสุทธิของประเทศ
สถิติ BOP ยังสำคัญต่อการวิเคราะห์ในภาคส่วนอื่นๆ[4] จึงต้องมีคุณภาพและเป็นที่น่าเชื่อถือ ดังนี้
(1) เป็นองค์ประกอบหนึ่งของ GDP ด้านรายจ่ายในภาคต่างประเทศ ได้แก่มูลค่าการส่งออกสินค้าและบริการสุทธิ และรายได้อื่นๆ (จากดุลบัญชีเดินสะพัด)
(2) เป็นสถิติพื้นฐานของ “FDI” และในทางกลับกันคือ “Outward Direct investment” ของประเทศ
(3) ในกรณีของสวีเดนใช้เป็นข้อมูลวิเคราะห์ผลกระทบและการเคลื่อนไหวของค่าเงินโครนาในระยะสั้น
2. ค่าความคลาดเคลื่อนสุทธิของบัญชี BOP คืออะไร?
ค่าความคลาดเคลื่อนสุทธิ (Net Errors and Omissions: NEOs)[5] ตามนิยาม IMF BPM6 คือ ความคลาดเคลื่อนจากการจัดเก็บสถิติ “คำนวณจากความแตกต่างของ BOP กับผลรวมของดุลบัญชีเดินสะพัดและดุลบัญชีเงินทุน” มาจากหลายสาเหตุ เช่น การบันทึกข้อมูลผิดพลาด การไม่ครอบคลุมของข้อมูล หรือความล่าช้าการรายงานธุรกรรม
ในทางปฎิบัติ เขียนสมการได้ดังนี้ NEOs = BOP – (CA + CFA); เมื่อ BOP คือ การเปลี่ยนแปลงของยอดคงค้างสินเทรัพย์ฐานะเงินสำรองระหว่างประเทศที่เกิดจากธุรกรรมเท่านั้น ไม่รวมผลการตีราคาและอัตราแลกเปลี่ยน
3. พลวัตบัญชี BOP และ NEOs ในรอบ 10 ปี เป็นอย่างไร?
จากความรู้ข้างต้น ผนวกการวิเคราะห์ข้อมูลตาราง BOP[6] แบบละเอียดแจกแจง (251 บรรทัด) และตารางฐานะการลงทุนระหว่างประเทศ (IIP)[7] (75 บรรทัด) อย่างหลังจากการสำรวจทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลที่ประกอบธุรกิจในไทยทั่วประเทศ [8],[9] สามารถวิเคราะห์กิจกรรมทางเศรษฐกิจการค้าและการลงทุนกับต่างประเทศของไทยในช่วง 10 ปี 2015-2024 (รูป F1) ได้ 3 ข้อหลักคือ
(3.1) ความสามารถการหารายได้จากภาคต่างประเทศ (CA) ของไทยมีแนวโน้มชะลอลงมาก (พท. สีน้ำเงิน) จากเฉลี่ยปีละ 36.4 bil USD ในช่วง 2015-2019 ก่อนโควิด เหลือเพียงเฉลี่ย 2.4 bil USD ในช่วง 2020-2024 ทั้งจากโรคระบาดโควิด การชะลอตัวเศรษฐกิจโลก สงครามการค้าและปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ โดยปกติภาคส่งออกและภาคบริการโดยเฉพาะท่องเที่ยวจะสร้างผลกระทบเชิงบวกทางอ้อมต่อภาคเศรษฐกิจอื่นๆ ผ่านตัวคูณทางเศรษฐกิจด้วย
(3.2) เงินทุนเคลื่อนย้ายระหว่างประเทศสุทธิของไทยขาดดุลต่อเนื่อง (พท. สีฟ้า) ไหลออกสุทธิเฉลี่ย 15.4 Bil USD ในช่วง 5 ปี 2015-2019 และไหลออกสุทธิลดลงครึ่งหนึ่งเฉลี่ย 7.8 Bil USD ช่วง 5 ปีหลัง 2020-2024 เนื่องจากเนื้อที่บทความจำกัด ผู้เขียนขอยกตัวอย่างที่พบความไม่สอดคล้องของมูลค่าการลงทุนโดยตรง คือ
มูลค่าการลงทุนโดยตรงของไทยในต่างประเทศ (TDI) ในช่วง 10 ปี 2015-2024 เติบโตขึ้นมาก (เงินทุนไหลออกสุทธิ) อยู่ที่ 126.5 Bil USD (คิดเป็น 80% ของ FDI) เกือบเท่ากับมูลค่าต่างชาติลงทุนโดยตรงในไทย (FDI) (เงินทุนไหลเข้าสุทธิ) 157.4 Bil USD โดยคำนวณจากการเปลี่ยนแปลงยอดคงค้างในบัญชีฐานะการลงทุนระหว่างประเทศของไทย
หากคำนวณจากยอด flows สะสมจากบัญชี BOP จะได้มูลค่า TDI สูงกว่า FDI อยู่ 1.6 เท่า โดยที่ TDI ที่คำนวณจากทั้งสองวิธีมีมูลค่าใกล้เคียงกัน อาจแตกต่างกันบ้างจากผลการตีราคาและอัตราแลกเปลี่ยน
สันนิษฐานได้ว่า “การบันทึกข้อมูล FDI ด้าน Flows ของ BOP ต่ำกว่าข้อมูลที่คำนวณจากยอดคงค้างตาราง IIP ซึ่งได้จากการสำรวจ” อย่างไรก็ดี ข้อเท็จจริงเชิงประจักษ์นี้ชี้ว่าธุรกิจไทยไปแสวงหาโอกาสเติบโตในตลาดต่างประเทศมากขึ้น ขณะที่อุตสาหกรรมการผลิตในประเทศไม่สามารถดึงดูดนักลงทุนต่างชาติได้มากเช่นในอดีต (โปรดติดตามตอน 2)
Disclaimer: ข้อคิดเห็นที่ปรากฏในบทความนี้เป็นความเห็นของผู้เขียน และการกล่าว คัด หรืออ้างอิงข้อมูลบางส่วนตามสมควรในบทความนี้ จะต้องกระทำโดยถูกต้องและอ้างอิงถึงผู้เขียนโดยชัดแจ้ง
Endnotes:
[1] The South East Asian Central Banks (SEACEN) Research and Training Centre, Kuala Lumpur, Malaysia
[2] Eurostat, Balance of Payment Statistics – Background
Balance of payment statistics - background - Statistics Explained - Eurostat
[3] Eurostat, Balance of Payments - International transactions (BPM6) (bop_6)
Balance of payments - International transactions (BPM6) (bop_6)
[4] Gunner Blomberg, Lars Forss and Ingvar Karlsson (2003), Errors and Omissions in the Balance of Payments Statistics – a Problem?, Sveriges Riksbank Economic Review, 2003:2
[5] ธนาคารแห่งประเทศไทย, คำอธิบายข้อมูลตาราง EC_XT_046 ตารางดุลการชำระเงิน (สรุป)
[6] ข้อมูลตาราง EC_XT_049 ดุลการชำระเงิน (ดอลลาร์ สรอ.) รายไตรมาส
EC_XT_049 ดุลการชำระเงิน (ดอลลาร์ สรอ.) 1/
[7] ข้อมูลตาราง EC_XT_033_S2 บัญชีฐานะการลงทุนระหว่างประเทศของไทย จำแนกตามประเภทเงินทุน (ดอลลาร์ สรอ.)
EC_XT_033_S2 บัญชีฐานะการลงทุนระหว่างประเทศของไทย จำแนกตามประเภทเงินทุน (ดอลลาร์ สรอ.)
[8] ธนาคารแห่งประเทศไทย (2023), คู่มือการตอบแบบสำรวจ แบบสำรวจ 46 :ข้อมูลฐานะการลงทุนระหว่างประเทศ ฝ่ายบริหารข้อมูลและดาต้าอนาไลติกส์ ธนาคารแห่งประเทศไทย, ต.ค.
[9] ธนาคารแห่งประเทศไทย (2014), สถิติภาคต่างประเทศของไทย: อ่านได้ ใช้เป็น ตอนที่ 1 ฐานะการลงทุนระหว่างประเทศของไทย (IIP), ส่วนสถิติภาคต่างประเทศ ฝ่ายสถิติและข้อสนเทศ, พ.ค.







