ราคาทองคำร่วง ตามหุ้น หลังรัฐบาลสหรัฐ กลับมาเปิดทำการอีกครั้ง

ราคาทองคำร่วงลง 1% ในวันพฤหัสบดี ลดจากระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ ท่ามกลางแรงเทขายสินทรัพย์อื่นทั้ง หุ้น พันธบัตร คริปโทเคอร์เรนซี หลังรัฐบาลสหรัฐ กลับมาเปิดทำการอีกครั้ง
รอยเตอร์ รายงานราคาทองคำร่วงลง 1% ในวันพฤหัสบดี (13 พ.ย.68) ปรับตัวลงจากระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ในช่วงต้นตลาด ท่ามกลางแรงเทขายในตลาดสินทรัพย์ทั่วไปทั้งหุ้น พันธบัตร คริปโทเคอร์เรนซี ดอลลาร์ หลังรัฐบาลสหรัฐ กลับมาเปิดทำการอีกครั้ง
ราคาทองคำตลาดสปอต (Spot Gold) ร่วงลง 1.1% มาอยู่ที่ 4,151.86 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ณ เวลา 14:16 น. ตามเวลาฝั่งตะวันออกสหรัฐ (19:16 GMT) ในส่วนอื่นๆ ราคาโลหะเงินสปอตร่วงลง 2.3% มาอยู่ที่ 52.18 ดอลลาร์ หลังจากขึ้นไปแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม ก่อนหน้านี้
ราคาทองคำล่วงหน้าของสหรัฐ ส่งมอบเดือนธันวาคม (US Gold Futures) ปิดตลาดลดลง 0.5% มาอยู่ที่ 4,194.50 ดอลลาร์
รัฐบาลสหรัฐ จะกลับมาดำเนินงานอีกครั้งหลังจากปิดทำการนานถึง 43 วัน ภายใต้ข้อตกลงที่ให้เงินงบประมาณสนับสนุนการดำเนินงานของรัฐบาลกลางจนถึงวันที่ 30 มกราคม
“โลหะมีค่ากำลังเผชิญกับการเทขายอย่างหนัก โดยหุ้น พันธบัตร ดอลลาร์ และคริปโทเคอร์เรนซี ต่างตกอยู่ภายใต้แรงกดดัน และราคาลดลง” ไท หว่อง เทรดเดอร์โลหะอิสระ กล่าว
“มันเป็นการซื้อตามข่าวลือ แล้วขายทิ้งหลังจากที่รัฐบาลสหรัฐ เปิดทำการอีกครั้ง”
ก่อนหน้านี้ในช่วงการซื้อขาย ราคาทองคำแตะระดับสูงสุดที่ 4,244.94 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม 2568
เฟดอาจจะไม่ลดดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.
ในช่วงแรก ตลาดทองคำ และโลหะเงินปรับตัวสูงขึ้นจากการคาดการณ์ว่าข้อมูลเศรษฐกิจที่เผยแพร่หลังจากช่วงปิดประเทศสิ้นสุดลงจะเผยให้เห็นความอ่อนแอของตลาดแรงงานสหรัฐ และผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อยหนึ่งครั้งในเดือนธันวาคม จิม ไวคอฟฟ์ นักวิเคราะห์อาวุโสของ Kitco Metals กล่าว
อย่างไรก็ตาม จากการอ้างถึงความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อ และสัญญาณของเสถียรภาพในตลาดแรงงานหลังจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐ สองครั้งในปีนี้ ทำให้ผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ หลายคนเริ่มส่งสัญญาณถึงความไม่เต็มใจในการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม
ขณะที่ผลสำรวจภาคเอกชนชี้ให้เห็นถึงความอ่อนแอของตลาดแรงงาน
แม้ว่าธนาคารกลางสหรัฐ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเมื่อเดือนที่แล้ว แต่ประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ ได้เตือนว่า ไม่มีการรับประกันการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมในปีนี้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะขาดข้อมูล
อัตราดอกเบี้ยที่ลดลงมักเป็นผลดีต่อทองคำ ซึ่งไม่ได้ให้ผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ย และมักถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงเวลาที่มีความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ
ราคาแพลทินัมร่วงลง 2.8% อยู่ที่ 1,569.65 ดอลลาร์สหรัฐ และแพลเลเดียมลดลง 3.7% อยู่ที่ 1,419.75 ดอลลาร์สหรัฐ
อัปเดตราคาเช้านี้ (14 พ.ย.68)
บลูมเบิร์ก รายงานว่า ราคาทองคำทรงตัวหลังร่วงลงครั้งแรกในรอบ 5 วัน ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการลดอัตราดอกเบี้ย
ราคาทองคำตลาดสปอตขยับขึ้น 0.2% มาอยู่ที่ 4,178.03 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ณ เวลา 7:17 น. ตามเวลาสิงคโปร์ ดัชนี Bloomberg Dollar Spot Index ปิดตลาดในแดนลบในช่วงก่อนหน้า โดยโลหะเงิน แพลทินัม และแพลเลเดียมปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
ราคาทองคำเปิดตลาดทรงตัวหลังจากร่วงลงครั้งแรกในรอบ 5 วัน ท่ามกลางความคาดหวังว่าการลดอัตราดอกเบี้ยจะเกิดขึ้นหลังจากที่รัฐบาลสหรัฐ กลับมาจากภาวะชัตดาวน์
ราคาทองคำแท่งซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 4,175 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในวันศุกร์ หลังจากปิดตลาดลดลง 0.6% ในการซื้อขายก่อนหน้า เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ ยังไม่แสดงความเชื่อมั่นใดๆ ต่อการลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง
ในขณะนี้ นักลงทุนยังไม่มั่นใจว่าข้อมูลอย่างเป็นทางการที่ค้างอยู่จำนวนมากเมื่อวอชิงตันกลับมาจากภาวะชัตดาวน์ที่ยาวนานที่สุด จะแสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอเพียงพอที่จะทำให้การปรับลดอัตราดอกเบี้ยเกิดขึ้น นักค้าตลาดสวอปคาดการณ์ว่า มีโอกาสประมาณ 50% ที่ทองคำจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม ลดลงจาก 72% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นมักจะส่งผลเสียต่อทองคำ เนื่องจากทองคำไม่มีดอกเบี้ย
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







