ราคาทองคำพุ่งขึ้นเหนือ 4,200 ดอลลาร์/ออนซ์ รอรับสหรัฐเปิดทำการ

ราคาทองคำพุ่งขึ้นเหนือ 4,200 ดอลลาร์/ออนซ์  รอรับสหรัฐเปิดทำการ

ราคาทองคำโลกพุ่งขึ้น 2% วันพุธ จากความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการเปิดประเทศของรัฐบาลสหรัฐ ดันให้ราคายืนเหนือ 4,200 ดอลลาร์/ออนซ์ โลหะมีค่าอื่นๆ ขึ้นยกแผง บอนด์ยีลด์ร่วง

รอยเตอร์  รายงานราคาทองคำพุ่งขึ้น 2% ในวันพุธ (12 พ.ย.68)  หรือเมื่อคืนที่ผ่านมาตามเวลาประเทศไทย ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ลดลงก่อนที่สภาผู้แทนราษฎรจะลงมติเปิดประเทศอีกครั้ง ซึ่งอาจเป็นการกระตุ้นการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจ และหนุนการคาดการณ์การลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในเดือนธันวาคม

ราคาทองคำตลาดสปอต (Spot Gold) พุ่งขึ้น 2% มาอยู่ที่ 4,208.98 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม ณ เวลา 13:46 น. ตามเวลาฝั่งตะวันออกของสหรัฐ (18:46 GMT)

ราคาทองคำล่วงหน้าของสหรัฐ สำหรับการส่งมอบเดือนธันวาคม (US Gold Futures) ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 2.4% มาอยู่ที่ 4,213.60 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ อายุ 10 ปี ซึ่งเป็นเกณฑ์มาตรฐานร่วงลง 1% สู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 5 พฤศจิกายน 2568

“รัฐบาลสหรัฐกำลังเปิดประเทศ และตลาดคาดการณ์ว่าจะมีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจ ซึ่งมีแนวโน้มสูงที่จะบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐ อ่อนแอลง” บาร์ต เมเลก หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์ของ TD Securities กล่าว พร้อมเสริมว่าผู้ค้าอาจเพิ่มสถานะซื้อ (Long Position) และปิดสถานะขาย (Short Position) บางส่วน

สภาผู้แทนราษฎรซึ่งพรรครีพับลิกันควบคุมอยู่ มีกำหนดลงมติในช่วงบ่ายวันนี้เกี่ยวกับข้อตกลงยุติการปิดหน่วยงานรัฐบาลที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ

การปิดหน่วยงานรัฐบาล หรือภาวะชัตดาวน์นาน 42 วันส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และส่งผลให้ข้อมูลของรัฐบาลถูกระงับ ทำให้ผู้กำหนดนโยบาย และตลาดต้องพึ่งพาตัวชี้วัดจากภาคเอกชนเพื่อประเมินภาวะเศรษฐกิจ

ด้านราคาโลหะเงินตลาดสปอตพุ่งขึ้นแรง 4.6% มาอยู่ที่ 53.58 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม 2568

“ขณะนี้มีความกังวลอย่างมาก โดยเฉพาะในโลหะเงินว่าปริมาณอุปทานอยู่ในระดับต่ำมาก สิ่งที่คุณเห็นในขณะนี้ในตลาดทองคำคือ ผลกระทบจากตลาดโลหะเงินในเช้าวันนี้” บ็อบ ฮาเบอร์คอร์น นักกลยุทธ์ตลาดฟิวเจอร์สของ RJO กล่าว

ขณะเดียวกัน ข้อมูลการจ้างงานรายสัปดาห์ของ ADP เมื่อวันอังคารแสดงให้เห็นว่านายจ้างภาคเอกชนลดตำแหน่งงานเฉลี่ย 11,250 ตำแหน่งต่อสัปดาห์ในช่วงสี่สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 25 ตุลาคม ซึ่งส่งสัญญาณถึงความอ่อนแออย่างต่อเนื่องในตลาดแรงงาน

ขณะนี้ ผู้ค้ามองว่ามีโอกาส 65% ที่จะลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมเฟดในเดือนธันวาคม ตามเครื่องมือติดตามเฟด Fed Watch ของ CME Group

ทองคำที่ไม่ให้ผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยมีแนวโน้มที่จะปรับตัวดีในสภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำ และในช่วงเวลาที่มีความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ

โลหะมีค่าอื่นๆ ปรับขึ้นเช่นกัน โดยราคาแพลทินัม เพิ่มขึ้น 2% อยู่ที่ 1,616.80 ดอลลาร์ และแพลเลเดียมเพิ่มขึ้น 2.5% อยู่ที่ 1,480.58 ดอลลาร์

  • อัปเดตราคาเช้านี้ (13 พ.ย.68)

บลูมเบิร์ก รายงานราคาทองคำตลาดสปอตลดลง 0.1% มาอยู่ที่ 4,192.82 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ณ เวลา 7:56 น. ตามเวลาสิงคโปร์ ดัชนีบลูมเบิร์กดอลลาร์สปอตทรงตัว ราคาโลหะเงินทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ราคาแพลทินัมลดลง และแพลเลเดียมแทบไม่เปลี่ยนแปลง

ราคาทองคำทรงตัวหลังจากเพิ่มขึ้นเกือบ 2% ในการซื้อขายก่อนหน้า เนื่องจากนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ ที่ไม่แน่นอน ซึ่งประกอบกับการขาดข้อมูลที่น่าเชื่อถือ

ราคาทองคำแท่งซื้อขายต่ำกว่า 4,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เล็กน้อยในวันพฤหัสบดี หลังฟื้นตัวต่อเนื่องมาสี่วัน ซึ่งเป็นการฟื้นตัวที่ยาวนานที่สุดในรอบเดือน แม้ว่าสมาชิกสภานิติบัญญัติสหรัฐ คาดว่าจะยุติการปิดทำการของรัฐบาลที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ แต่ทำเนียบขาวได้เตือนว่ารายงานการจ้างงาน และอัตราเงินเฟ้ออย่างเป็นทางการประจำเดือนตุลาคม อาจจะไม่ถูกเผยแพร่

ข้อมูลที่ขาดหายไปตลอดช่วงการปิดทำการทำให้นักลงทุนลังเลหรือพึ่งพาสถิติจากภาคเอกชนเพื่อตรวจสอบภาวะเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นเกือบ 5% ในสัปดาห์นี้ ส่วนหนึ่งมาจากการคาดการณ์ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมหลังจากที่วอชิงตันกลับมาทำงาน ซึ่งถือเป็นผลดีต่อทองคำ 

อย่างไรก็ตาม ผู้กำหนดนโยบายมีความเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับความจำเป็นในการลดต้นทุนการกู้ยืมเพิ่มเติม ราฟาเอล บอสทิค ประธานธนาคารกลางสหรัฐ สาขาแอตแลนตา และซูซาน คอลลินส์ ประธานธนาคารกลางบอสตัน ต่างกล่าวว่าพวกเขาสนับสนุนให้คงอัตราดอกเบี้ยไว้เพื่อลดอัตราเงินเฟ้อ

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์