ราคาทองคำขยับขึ้น จากชัตดาวน์สหรัฐยืดเยื้อ ภาษีศุลกากรอึมครึม

ราคาทองคำขยับขึ้น จากชัตดาวน์สหรัฐยืดเยื้อ ภาษีศุลกากรอึมครึม

ราคาทองคำโลกขยังขึ้นในวันพฤหัสบดี หลังการปิดทำการของสหรัฐยาวนานทำสถิติใหม่ และความไม่แน่นอนด้านภาษีศุลกากร หนุนความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย

รอยเตอร์ รายงานราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยในวันพฤหัสบดี (6 พ.ย. 2568) 

โดยได้รับแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง และความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยที่กลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง จากความกังวลเกี่ยวกับการปิดทำการของรัฐบาลสหรัฐฯ หรือภาวะชัตดาวน์ที่ยาวนาน และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับความถูกต้องตามกฎหมายของภาษีศุลกากร

ราคาทองคำตลาดสปอต (Spot Gold) เพิ่มขึ้น 0.2% อยู่ที่ 3,989.91 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ เมื่อเวลา 13:40 น. ตามเวลาฝั่งตะวันออกของสหรัฐ (18:40 GMT) สัญญาทองคำล่วงหน้าส่งมอบเดือนธันวาคมของสหรัฐฯ (US Gold Futures) ปิดตลาดแทบไม่เปลี่ยนแปลงที่ 3,991 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง 0.3% หลังจากแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือนในการซื้อขายก่อนหน้า ทำให้ทองคำมีราคาที่ถูกลงสำหรับผู้ถือสกุลเงินอื่นๆ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ซึ่งตลาดใช้อ้างอิง ลดลง 1.3%

จากสถานการณ์การปิดหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ และความสงสัยของผู้พิพากษาศาลสูงสุดสหรัฐฯ เกี่ยวกับความถูกต้องตามกฎหมายของมาตรการเก็บภาษีครั้งใหญ่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ “ตอนนี้เราเห็นการกลับมาอีกครั้งของการซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย” ปีเตอร์ แกรนท์ รองประธานและนักกลยุทธ์โลหะอาวุโสแห่ง Zaner Metals กล่าว “ทองคำดูมีแนวโน้มปิดปีได้ค่อนข้างดี ... ผมคิดว่าเป้าหมายราคาทองสิ้นปีในช่วง 4,300 ถึง 4,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์ถือว่าเหมาะสม”

ทองคำถือเป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงในช่วงเวลาที่มีความไม่แน่นอน และยังได้รับประโยชน์ในสภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำ เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ย

ธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่สองในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยตลาดคาดการณ์ว่ามีโอกาสถึง 67% ที่อาจมีการปรับลดอีกครั้งในเดือนธันวาคมนี้

เจ้าหน้าที่เฟดหลายคนมีกำหนดจะกล่าวสุนทรพจน์ในช่วงต่อไปของวัน ซึ่งอาจให้แนวทางเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายการเงินในอนาคต

รายงาน ADP เมื่อวันพุธระบุว่า นายจ้างเอกชนในสหรัฐฯ เพิ่มการจ้างงาน 42,000 ตำแหน่งในเดือนตุลาคม มากกว่าที่รอยเตอร์คาดการณ์ไว้ที่ 28,000 ตำแหน่ง

เอสพี แองเจิล ได้กล่าวในบันทึกว่า “เราจะรู้สึกแปลกใจหากราคาทองคำยังคงแกว่งอยู่ที่ราว 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่เงินทุนเก็งกำไรทยอยถอนออกไป โดยการซื้อทองของธนาคารกลางยังคงเป็นแรงหนุนหลักในทิศทางบวกต่อไป”

 

  • อัปเดตราคาเช้านี้ (7 พ.ย.68)

บลูมเบิร์ก รายงานราคาทองคำสปอตปรับขึ้น 0.3% มาอยู่ที่ 3,990.15 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อเวลา 8:43 น. ตามเวลาที่ประเทศสิงคโปร์ ดัชนี Bloomberg Dollar Spot แทบไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนราคาโลหะเงินปรับขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่สาม ราคาแพลทินัมขยับขึ้นเล็กน้อย ขณะที่แพลเลเดียมทรงตัว

ราคาทองคำยังคงทรงตัวในขณะที่นักลงทุนชั่งน้ำหนักระหว่างข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ ที่อ่อนแอกว่าคาด กับถ้อยแถลงของกรรมการธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งทำให้ความคาดหวังในการลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมลดน้อยลง

ราคาทองคำซื้อขายใกล้ 3,987 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในวันศุกร์ หลังจากลดการลดลงในช่วงก่อนหน้าและปิดตลาดโดยแทบไม่เปลี่ยนแปลง อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปรับตัวลดลงมากที่สุดในรอบประมาณหนึ่งเดือน หลังบริษัทจัดหางาน Challenger, Gray & Christmas Inc เปิดเผยข้อมูลว่า เดือนตุลาคมมีการปลดพนักงานมากที่สุดในรอบกว่า 20 ปี

แม้ว่าข้อมูลการจ้างงานที่อ่อนแอมักจะสนับสนุนแนวโน้มการลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม ซึ่งถือเป็นปัจจัยบวกต่อทองคำ แต่ประธานธนาคารกลางสาขาชิคาโก นายออสตัน กูลส์บี ระบุว่า การไม่มีข้อมูลเงินเฟ้ออย่างเป็นทางการในช่วงที่รัฐบาลสหรัฐฯ ปิดทำการ ทำให้เขา “ยิ่งรู้สึกไม่สบายใจ” เกี่ยวกับการลดต้นทุนการกู้ยืมครั้งต่อไป

ราคาทองคำกำลังมุ่งหน้าสู่การปรับลดลงรายสัปดาห์เล็กน้อย ซึ่งจะเป็นการร่วงลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สามติดต่อกัน ยาวนานที่สุดในปีนี้ อย่างไรก็ดี แม้ราคาทองคำจะปรับตัวลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เหนือ 4,380 ดอลลาร์ต่อออนซ์เมื่อเดือนที่แล้ว แต่ราคาทองคำยังคงเพิ่มขึ้นมากกว่า 50% ในปีนี้ และมีแนวโน้มจะทำผลงานรายปีดีที่สุดตั้งแต่ปี 1979