ราคาทองคำร่วงแรง หลังดอลลาร์แข็งค่า จับตาข้อมูลจ้างงานสหรัฐ

ราคาทองคำร่วงแรง หลังดอลลาร์แข็งค่า จับตาข้อมูลจ้างงานสหรัฐ

ราคาทองคำตลาดโลกร่วงลงมากกว่า 1% วันอังคาร หลังดอลลาร์แข็งค่าขึ้นสูงสุดในรอบสามเดือน ขณะที่ตลาดรอข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐ เพื่อใช้ประเมินทิศทางดอกเบี้ยเฟด

รอยเตอร์ รายงานราคาทองคำร่วงลงกว่า 1% ในวันอังคาร (4 พ.ย.68) เนื่องจากดอลลาร์แข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน ขณะที่นักลงทุนกำลังรอข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ เพื่อรับทราบแนวทางการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

ราคาทองคำตลาดสปอตร่วงลง 1.5% มาอยู่ที่ 3,940.75 ดอลลาร์สหรัฐ ณ เวลา 14:15 น. ตามเวลาฝั่งตะวันออกสหรัฐ (19:15 GMT) 

สัญญาทองคำล่วงหน้าสำหรับการส่งมอบเดือนธันวาคมของสหรัฐ (US Gold Futures) ปรับตัวลดลง 1.3% ปิดที่ 3,960.50 ดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีดอลลาร์สหรัฐซื้อขายในระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน ทำให้ทองคำมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือสกุลเงินอื่นๆ

“เมื่อดอลลาร์ทำสถิติใหม่ เราก็เห็นว่าเป็นแรงกดดันต่อราคาทองคำ... ความแข็งแกร่งของดอลลาร์ และแรงกดดันในตลาดทองคำส่วนหนึ่งมาจากความเป็นไปได้ที่น้อยลงที่เฟด จะลดดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม” เดวิด เมเกอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายซื้อขายโลหะของ High Ridge Futures กล่าว

แม้ว่าธนาคารกลางสหรัฐ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่ประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ ระบุว่าการลดต้นทุนการกู้ยืมอาจเป็นครั้งสุดท้ายของปีนี้ ขณะนี้ นักลงทุนมองว่ามีโอกาส 71% ที่จะลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเฟดวันที่ 9-10 ธันวาคม เมื่อเทียบกับ 90% ในสัปดาห์ก่อนหน้า จากเครื่องมือ ติดตามเฟด FedWatch ของ CME Group

ทองคำที่ไม่ให้ผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยมักมีราคาสูงขึ้นในสภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำ และในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจมีความไม่แน่นอน

เนื่องจากการปิดทำการของรัฐบาลสหรัฐ มีแนวโน้มที่จะยาวนานที่สุดเท่าที่เคยมีมา ส่งผลให้การเปิดเผยข้อมูลของรัฐบาลถูกระงับ นักลงทุนจึงให้ความสนใจกับรายงานเศรษฐกิจที่ไม่เป็นทางการมากขึ้น ซึ่งรวมถึงรายงานการจ้างงานระดับชาติของ ADP รายงานของ ADP ประจำเดือนตุลาคม มีกำหนดเผยแพร่ในวันพุธ

คำกล่าวของเจ้าหน้าที่เฟดได้เน้นย้ำถึงมุมมองที่แตกต่างกันเกี่ยวกับวิธีแก้ไขปัญหาช่องว่างข้อมูลในปัจจุบัน

ราคาทองคำปรับฐาน

ราคาทองคำแท่งซึ่งเพิ่มขึ้น 53% ในปีนี้ ได้ลดลงมากกว่า 9% จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ทำไว้เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม

“ราคาทองคำกำลังสูญเสียความร้อนแรงบางส่วน ขณะที่ยังสะท้อนความกังวลเกี่ยวกับอิสรภาพของเฟด รวมถึงความเป็นไปได้ของภาวะเงินเฟ้อสูง และเศรษฐกิจถดถอย รวมถึงความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ และความตึงเครียดระหว่างประเทศ การปรับฐานที่เกิดขึ้นนั้นถือเป็นการแก้ไขที่จำเป็นอย่างยิ่ง” โรนา โอคอนเนลล์ นักวิเคราะห์จาก StoneX กล่าวในบันทึก

ขณะที่ราคาโลหะเงิน ก็ร่วงลง 1.5% มาอยู่ที่ 47.32 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แพลทินัมร่วงลง 1.8% มาอยู่ที่ 1,538.05 ดอลลาร์ และแพลเลเดียมร่วงแรง 3.1% มาอยู่ที่ 1,400.30 ดอลลาร์

อัปเดตราคาเช้านี้ (5 พ.ย.68)

บลูมเบิร์กรายงานว่า ราคาทองคำแทบไม่เปลี่ยนแปลง อยู่ที่ 3,936.66 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อเวลา 8:28 น. ตามเวลาที่สิงคโปร์ ดัชนีบลูมเบิร์กดอลลาร์สปอตทรงตัว โลหะเงินทรงตัว ขณะที่แพลเลเดียม และแพลทินัม ร่วงลง

ราคาทองคำปรับตัวลดลงมากที่สุดในรอบกว่าหนึ่งสัปดาห์ หลังจากดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ส่งผลให้ความต้องการลดลง

ราคาทองคำแท่งสปอตทรงตัวใกล้ 3,937 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากร่วงลงเกือบ 2% ในการซื้อขายก่อนหน้า ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวสูงขึ้นเป็นวันที่ห้าในวันอังคาร ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม เนื่องจากนักลงทุนกลับมาทบทวนความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนหน้า

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์