‘บลจ.วรรณ’ แนะสร้างสมดุลพอร์ต ผ่านการลงทุน ‘สินทรัพย์ทางเลือก’

‘บลจ.วรรณ’ แนะสร้างสมดุลพอร์ต ผ่านการลงทุน ‘สินทรัพย์ทางเลือก’

“บลจ.วรรณ” แนะนำ “สินทรัพย์ทางเลือก” รับมือความผันผวนของตลาด จากปัจจัยความไม่แน่นอนของ “เศรษฐกิจโลก” หลังสงครามการค้าสหรัฐ-จีน มีแนวโน้มปะทุรอบใหม่ ประกอบกับ Valuation ของตลาดทุนที่ “ตึงตัว” มากขึ้น สะท้อนความเสี่ยงตลาด “ขาลง” ระยะสั้น

นายพจน์ หะริณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนวรรณ จำกัด (บลจ.วรรณ) เปิดเผยว่า แนวโน้มเศรษฐกิจโลกในระยะข้างหน้ายังคงเผชิญความไม่แน่นอนสูง ในภาพรวม “เศรษฐกิจโลก” มีแนวโน้มชะลอตัวลง ภายหลังการบังคับใช้มาตรการขึ้นภาษีศุลกากรของสหรัฐ การแข่งขันด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่เร่งตัวในหลายภูมิภาคจากการลงทุนด้านวิจัย และพัฒนาอย่างมหาศาล ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนห่วงโซ่อุปทานและสร้างโอกาสในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องในระยะยาว 

ขณะที่ การแข่งขันด้าน AI ที่กำลังกระจายตัวไปในหลายภูมิภาคผ่านการลงทุนวิจัยและพัฒนานวัตกรรม “มูลค่ามหาศาล” ยังเป็นแรงขับเคลื่อนหลักต่อเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง ประกอบกับการผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารกลางหลักทั่วโลกยังเป็นปัจจัยบวกที่ช่วยประคับประคองเศรษฐกิจและสภาพคล่องในระบบการเงิน 

ทั้งนี้ ความผันผวนจากปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์และการเมืองทั่วโลกยังเป็นสิ่งที่ไม่อาจมองข้าม ไม่ว่าจะเป็นความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐ และจีน รวมถึงสถานการณ์การเมืองในฝรั่งเศสและญี่ปุ่นที่ขาดเสถียรภาพ การเลือกตั้งใหม่ของไทยหลังรัฐบาลเฉพาะกิจครบวาระ รวมถึงการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐ ในช่วงปลายปี 2026 ที่จะส่งผลต่อทิศทางนโยบายเศรษฐกิจในระยะถัดไป

ใน “ด้านตลาดทุน” หลายสินทรัพย์จะปรับตัวขึ้นทำระดับสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ Valuation โดยรวมอยู่ในระดับค่อนข้าง “ตึงตัว” และสูงกว่าค่าเฉลี่ยในระยะยาวอย่างมีนัยยะ ซึ่งคาดว่าได้สะท้อนปัจจัยบวกไปแล้วในระดับหนึ่ง ซึ่งอาจทำให้ความเสี่ยง “ด้านราคา” ของการลงทุนมีมากขึ้น หากมีปัจจัยกดดันใหม่ ดังนั้น นักลงทุนควรติดตามพัฒนาการผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินความสอดคล้องระหว่างปัจจัยพื้นฐานกับระดับราคาที่ปรับตัวขึ้นมา

‘บลจ.วรรณ’ แนะสร้างสมดุลพอร์ต ผ่านการลงทุน ‘สินทรัพย์ทางเลือก’

จากข้อมูลสถิติตั้งแต่เดือน ม.ค. 2557 ถึงก.ย. 2568 พบว่า “ตลาดหุ้นโลก” ในดัชนี MSCI ACWI มีความสัมพันธ์เชิงบวก (positive correlation) กับ “ตราสารหนี้โลก” ในดัชนี JPM Global Aggregate Bond ที่ +0.56 และกับ “ราคาทองคำ” ในระดับ +0.12 สะท้อนให้เห็นว่าการเคลื่อนไหวของสินทรัพย์หลักมีแนวโน้มไปในทิศทางเดียวกันมากขึ้นเมื่อเทียบกับอดีต เมื่อ “สินทรัพย์เสี่ยงสูง” อย่าง “หุ้น” ปรับตัวลง สินทรัพย์อื่นๆ อย่างตราสารหนี้จึงมีแนวโน้มปรับตัวลงตามด้วย

จากมุมมองดังกล่าวข้างต้น บลจ.วรรณ มองพอร์ตการลงทุนที่สามารถสร้างสมดุลได้ดี ควรกระจายการลงทุนไปยัง “สินทรัพย์ทางเลือกนอกกลุ่มดั้งเดิม” (unconventional assets) อาทิ digital asset, private asset, litigation finance และ/หรือ insurance-linked product อย่าง Life Settlement ซึ่งเป็นการลงทุนในกรมธรรม์ประกันชีวิตในตลาดรองของสหรัฐ Life Settlement เป็นธุรกรรมทางการเงินประเภทหนึ่งที่ช่วยเพิ่มทางเลือกให้กับบุคคลเจ้าของกรมธรรม์ประกันชีวิตที่จ่ายเบี้ยประกันไประยะหนึ่งแล้วและไม่ต้องการชำระเบี้ยอีกต่อไป สามารถขายกรมธรรม์ของตนให้แก่ตัวกลางทางการเงินที่รับซื้อเพื่อได้มูลค่าที่สูงกว่าการเวนคืนกับบริษัทประกันผู้ออกกรมธรรม์ แต่จะต่ำกว่าผลประโยชน์ที่จะได้รับจากกรมธรรม์ 

โดยที่บุคคลผู้เอาประกันจะโอนชื่อรับผลประโยชน์ให้แก่ตัวกลางที่รับซื้อกรมธรรม์ และตัวกลางผู้รับซื้อมีภาระจ่ายเบี้ยประกันตามกรมธรรม์ต่อ โดยเป็นผู้รับผลประโยชน์ตามเงื่อนไขกรมธรรม์ดังกล่าวแทน ผลตอบแทนจากการลงทุน Life Settlement ขึ้นอยู่กับปัจจัยเชิงสถิติของอายุขัยเป็นหลัก จึงไม่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยด้านเศรษฐกิจมหภาคเหมือนสินทรัพย์ดั้งเดิม ซึ่งเป็นตัวช่วยสำคัญในช่วงที่เศรษฐกิจโลกมีความไม่แน่นอนสูงแบบนี้ สินทรัพย์ทางเลือกนอกตลาดเหล่านี้มีจุดเด่นสำคัญ คือ ไม่ผันผวนตามวัฏจักรเศรษฐกิจไม่มี Market timing” มีการกระจายความเสี่ยงที่แตกต่างจากสินทรัพย์ทั่วไปในตลาดช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดีระยะยาว แลกกับสภาพคล่องที่จำกัดและลักษณะการลงทุนที่ค่อนข้างเฉพาะตัว

นายพจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า บลจ.วรรณ แนะนำกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือกประมาณ 5%-20% ของพอร์ตทั้งหมด โดยควรจัดสรรเงินบางส่วนลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือกนอกตลาดด้วย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการกระจายความเสี่ยงและสร้างเสถียรภาพของผลตอบแทนในระยะยาว จากสถิติในอดีตพบว่า พอร์ตการลงทุนที่มีการลงทุนสินทรัพย์ทางเลือกนอกตลาด อย่าง Life settlement ควบคู่ไปกับการลงทุนในสินทรัพย์ดั้งเดิมอย่างหุ้น ตราสารหนี้ และสินค้าโภคภัณฑ์ในสัดส่วนเท่าๆกัน สามารถช่วยเพิ่มผลตอบแทนเฉลี่ยและลดความผันผวนของพอร์ต ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนต่อความเสี่ยง (Sharpe Ratio) ของพอร์ตโดยรวมสูงกว่าพอร์ตที่ลงทุนเฉพาะในสินทรัพย์ดั้งเดิมถึงกว่าเท่าตัว

“ในยุคปัจจุบัน สินทรัพย์ทางเลือกไม่ใช่เพียง “ทางเลือก” อีกต่อไป แต่เป็นส่วนสำคัญที่ควรมีอยู่ในพอร์ตการลงทุน เพื่อช่วยรับมือกับความไม่แน่นอนที่เพิ่มสูงขึ้นของตลาดโลก ทั้งจากปัจจัยเศรษฐกิจ ภูมิรัฐศาสตร์ และความผันผวนทางการเงินที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดทุนทั่วโลกมีการปรับตัวร้อนแรง นักลงทุนจึงควรให้ความสำคัญกับการกระจายพอร์ตอย่างสมดุล โดยไม่ต้องคำนึงถึงจังหวะตลาด เพื่อสร้างความยั่งยืนของผลตอบแทนในระยะยาว”