ทองคำกลับมาพุ่งขึ้นใกล้นิวไฮ คาดไปต่อ 4,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 ทองคำกลับมาพุ่งขึ้นใกล้นิวไฮ คาดไปต่อ 4,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ราคาทองคำพุ่งขึ้นแรงทะลุ 4,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง เข้าใกล้จุดสูงสุดตลอดกาล คาดเฟดลดดอกเบี้ย ประกอบกับความไม่แน่นอนในวงกว้าง จับตาการเจรจาการค้าสหรัฐ-จีน

รอยเตอร์  รายงานราคาทองคำพุ่งกลับมาพุ่งขึ้นมากกว่า 2% ในวันจันทร์ (20 ต.ค.68) โดยได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ ( เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม และความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยที่ยังคงมีอยู่ ขณะที่นักลงทุนรอคอยการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนที่กำลังจะมาถึง รวมถึงข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐ ในสัปดาห์นี้

ราคาทองคำตลาดสปอต (Spot Gold) พุ่งขึ้นแรง 2.3% อยู่ที่ 4,346.39 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ณ เวลา 13:47 น. ตามเวลาฝั่งตะวันออกสหรัฐ (17:46 GMT) 

ราคาทองคำตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าส่งมอบเดือนธันวาคมของสหรัฐ (Gold Futures) ปิดตลาดพุ่งขึ้น 3.5% อยู่ที่ 4,359.40 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์

 

ราคาทองคำทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4,378.69 ดอลลาร์สหรัฐในวันศุกร์ แต่ปิดตลาดลดลง 1.8% ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคม หลังจากคำกล่าวของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ช่วยบรรเทาความกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน

เจฟฟรีย์ คริสเตียน หุ้นส่วนผู้จัดการของ CPM Group กล่าวว่า ความกังวลทางการเมือง และเศรษฐกิจกำลังผลักดันให้ราคาปรับตัวสูงขึ้นหลังจากการเทขายอย่างหนักในวันศุกร์

"เราคาดการณ์ว่าราคาจะปรับตัวสูงขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ และอีกหลายเดือนข้างหน้า และเราคงไม่แปลกใจหากราคาจะพุ่งขึ้นถึง 4,500 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อออนซ์ในเร็วๆ นี้" เขากล่าวเสริม

การปิดทำการของรัฐบาลสหรัฐ หรือภาวะชัตดาวน์ ยืดเยื้อเป็นวันที่ 20 ในวันจันทร์ หลังจากที่สมาชิกวุฒิสภาล้มเหลวเป็นครั้งที่ 10 ในสัปดาห์ที่แล้วในการแก้ไขปัญหาทางตัน การปิดทำการยังทำให้การเผยแพร่ข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญล่าช้าออกไป ทำให้นักลงทุน และผู้กำหนดนโยบายต้องขาดข้อมูลก่อนการประชุมนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ ในสัปดาห์หน้า

ข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐ ซึ่งล่าช้าเนื่องจากการปิดทำการ มีกำหนดเผยแพร่ในวันศุกร์

ขณะเดียวกัน นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาส 99% ที่ธนาคารกลางสหรัฐ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้า และจะมีการปรับลดอีกครั้งในเดือนธันวาคม ทองคำ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ย มีแนวโน้มที่จะปรับตัวดีในสภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำ

  • คาดราคาแตะ 5,000 ดอลลาร์ปีหน้า

นักลงทุนยังจับตาดูความคืบหน้าเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ และจีน หลังจากที่ทรัมป์กล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่าจะมีการประชุมตามแผนกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน

“ผมคงไม่แปลกใจเลยที่จะเห็นทองคำพุ่งแตะ 5,000 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อออนซ์ในปีหน้า หากปัญหาทางการเมืองยังคงดำเนินต่อไป และเลวร้ายลง ซึ่งเป็นสิ่งที่เรากำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้” คริสเตียน กล่าว

 

ราคาโลหะเงินตลาดสปอตเพิ่มขึ้น 0.6% มาอยู่ที่ 52.17 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อออนซ์ ราคาโลหะมีค่านี้ร่วงลง 4.4% ในวันศุกร์ หลังจากแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 54.47 ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน

 

ราคาแพลทินัมเพิ่มขึ้น 1.9% มาอยู่ที่ 1,640.90 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ และแพลเลเดียมเพิ่มขึ้น 1.5% มาอยู่ที่ 1,496.59 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์

  • อัปเดตราคาเช้านี้ (21 ต.ค. 68) ปรับขึ้นต่อ

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่าราคาทองคำตลาดสปอตเพิ่มขึ้น 0.2% อยู่ที่ 4,365.68 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อเวลา 7:22 น. ตามเวลาที่สิงคโปร์ ดัชนีบลูมเบิร์กดอลลาร์สปอตทรงตัว โลหะเงินขยับขึ้นเล็กน้อยหลังจากปิดตลาดสูงขึ้น 1% ในวันจันทร์ แพลทินัม และแพลเลเดียมปรับตัวลดลง

บลูมเบิร์ก รายงานว่าราคาทองคำขยับเข้าใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ทำไว้ในการซื้อขายก่อนหน้า เนื่องจากนักลงทุนใช้ประโยชน์จากการเทขายอย่างหนักในช่วงปลายสัปดาห์ที่แล้วเพื่อเข้าซื้อในช่วงขาลง

ทองคำแท่งซื้อขายใกล้ 4,365 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากพุ่งขึ้นมากถึง 3.1% ในการซื้อขายก่อนหน้าสู่ระดับสูงสุดที่ 4,381.52 ดอลลาร์ การเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นแม้ว่าความตึงเครียดทางการค้าจะคลี่คลายลงและโอกาสที่รัฐบาลสหรัฐ จะกลับมาเปิดประเทศอีกครั้ง โดยตัวชี้วัดทางเทคนิค รวมถึงดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ แสดงให้เห็นว่าการพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงที่เริ่มต้นขึ้นในเดือนสิงหาคม อาจร้อนแรงเกินไป

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีปรับตัวลดลง เนื่องจากมีหลักฐานบ่งชี้ว่าน้ำมันดิบส่วนเกินในตลาดได้ช่วยบรรเทาความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อก่อนการประกาศดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนกันยายนในวันศุกร์

ตลาดถูกบังคับให้พึ่งพาตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่หลากหลาย และข้อมูลที่รวบรวมมาเองมากขึ้น เพื่อเติมเต็มช่องว่างที่เกิดจากภาวะปิดทำการของรัฐบาลกลางที่เริ่มขึ้นในวันที่ 1 ตุลาคม โดยทั่วไปแล้ว อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ลดลงจะยิ่งส่งเสริมให้ทองคำที่ไม่มีดอกเบี้ยมีความน่าสนใจมากขึ้น

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์