เมื่อดอลลาร์เสื่อมคลาย…ออลไทม์ไฮของทองคำและบิตคอยน์

นโยบายของโดนัลด์ ทรัมป์ มีแนวโน้มที่จะสนับสนุนให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในด้านการส่งออก การลงทุน และการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลบวกต่อราคาทองคำและบิตคอยน์
KEY
POINTS
- การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ (De-dollarization) ที่เร็วกว่าคาดการณ์ จากปัจจัยลบต่างๆ เช่น การลดดอกเบี้ยของ FED และวิกฤตหนี้สหรัฐฯ ทำให้ความเชื่อมั่นลดลง และเม็ดเงินไหลเข้าสู่ทองคำและบิตคอยน์ในฐานะสินทรัพย์ทางเลือก
- ธนาคารกลางทั่วโลกกำลังลดการถือครองพันธบัตรสหรัฐฯ และหันมาซื้อทองคำเข้าเป็นทุนสำรองระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เพื่อลดการพึ่งพิงเงินดอลลาร์
- นโยบายของโดนัลด์ ทรัมป์ มีแนวโน้มที่จะสนับสนุนให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในด้านการส่งออก การลงทุน และการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลบวกต่อราคาทองคำและบิตคอยน์
จะไม่พูดก็ไม่ได้ เพราะ ตอนนี้ถือเป็น “Talk of the town” ของทั้งห้องค้าหุ้น โลกโซเชี่ยล และ บรรดานักลงทุนน้อยใหญ่ นั่นคือ การทำจุดสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่องของทั้งราคา ทองคำ (4,000 เหรียญสหรัฐฯ) และ บิตคอยน์ (4,000,000 บาท)
ในบทความนี้ ผมนำสถิติและเหตุผลแบบอ่านง่าย คุยสบาย สไตล์ Gen Z ว่า เพราะอะไร และ เหตุอันใด ทองคำและบิตคอยน์ ที่ขึ้นแล้ว ขึ้นอยู่ และ จะขึ้นต่อไป
ประการแรก De-dollar มาเร็วกว่าที่คาด ไล่ไปตั้งแต่ประเด็น FED เริ่มวงจรการ “ลด” ดอกเบี้ย และ จะ “ลด” ต่อเนื่องไปอีกอย่างน้อย 1-2 ครั้ง ไปจนถึงประเด็นวิกฤตหนี้สหรัฐฯที่มากโขและสะสมมาเรื่อยๆ ตลอดหลายปีนี้ กอปรกับประเด็นเก่าเล่าใหม่ นั่นคือ การ Shutdown ล่าสุดของรัฐบาลสหรัฐฯ
ทั้งหมดทั้งมวลส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นที่มีต่อสหรัฐฯ และ ให้เงินดอลลาร์...อ่อนค่าลง
... เม็ดเงินจึงไหลเข้าทองคำ (สินทรัพย์ปลอดภัย) และ บิตคอยน์ (ตัวแทนสกุลเงินใหม่ หรือ ระบบการเงินใหม่ที่ไม่เชื่อในเรื่องการพิมพ์เงินของรัฐบาล)
ประการที่สอง Central Bank ซื้อแรงกว่าที่คิด สอดคล้องจากประการแรก เมื่อดอลลาร์คลายมนต์ขลัง ความต้องการการถือครองพันธบัตรของสหรัฐฯ (ในรูปของเงินดอลลาร์) ก็ลดลงไปโดยปริยาย ซึ่งส่งผลต่อธนาคารกลางหลายแห่งทั่วโลกที่ต้องมีการซื้อสกุลเงินต่างๆรวมถึงสินทรัพย์ เพื่อสำรองไว้ใน “ทุนสำรองระหว่างประเทศ” ... เราจึงเริ่มเห็นกระแสธนาคารกลางต่างๆขายพันธบัตรสหรัฐฯออกมายังไงล่ะ
แน่นอนครับ เมื่อธนาคารกลางต่างๆทั่วโลก “ขาย” พันธบัตรสหรัฐฯ ก็ต้องซื้ออย่างอื่น ... และใช่ “ซื้อ” ทองคำ ครับ
ตามรูปข้างต้น การถือทองคำ ณ ปัจจุบันของธนาคารกลางทั่วโลก (% ของทุนสำรองระหว่างประเทศ) ได้สูงกว่าพันธบัตรสหรัฐฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1996
ประการสุดท้าย พ่อใหญ่ Trump ต้องการดอลลาร์อ่อนค่า เหตุผลก็ง่ายๆครับ
· ดอลลาร์อ่อน ทำให้ผู้ส่งออกสหรัฐฯ ค้าขายง่ายขึ้น
· ดอลลาร์อ่อน ทำให้การลงทุนจากต่างชาติ (FDI) เข้ามาลงทุนในสหรัฐฯถูกลง
· ดอลลาร์อ่อน สนับสนุนการท่องเที่ยวให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวสหรัฐฯได้ถูกลง
· ดอลลาร์อ่อน สนับสนุนกำไรของบริษัท Magnificent 7 ซึ่งรายได้มาจากแทบทุกมุมโลก
รู้หรือไม่!: ตั้งแต่ต้นปี 2025 … Dollar Index อ่อนคงลงแล้ว 7.7% สวนทางกับการทำ All time high ของ ทองคำ และ บิตคอยน์ ไม่เห็นฝุ่น
สถิติที่น่าสนใจอีกหนึ่งชิ้น คือ Correlation หรือ ค่าสหสัมพันธ์ของ ทองคำ และ บิตคอยน์อยู่ที่ 0.9x … สูงลิบลิ่ว และ สูงมากๆ ในปี 2025 หากพิจารณาจากในรูป
ประจวบเหมาะเสียเหลือเกินจากการ “อ่อนค่า” แรงของดอลลาร์ในปี 2025
รู้หรือไม่!: Trump Media (บริษัท Trump Media & Technology Group (TMTG) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของโซเชียลมีเดีย Truth Social) ประกาศว่า บริษัทได้ถือครอง Bitcoin และหุ้นที่เกี่ยวกับบิตคอยน์แล้วมูลค่ากว่า 2 พันล้านดอลลาร์
น่าสนใจเหลือเกินครับว่าการทำจุดสูงสุดใหม่ของ “ทองคำ” และ “บิตคอยน์” ... เมื่อฟังเหตุผล “สามประการ” รวมถึง สถิติน่าสนใจข้างต้น
บางทีปี 2025 นี่อาจจะแค่เริ่มต้นของยุคใหม่ ยุคทองก็เป็นได้ครับ
*การแสดงความเห็นให้คำแนะนำดังกล่าว ข้าพเจ้าขอเรียนว่า เป็นการกระทำในนามส่วนตัวของข้าพเจ้า เท่านั้น บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด มิได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ใดๆ ทั้งสิ้น







