ราคาทองคำพุ่งสูงระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ $4,227 เช้านี้

ราคาทองคำพุ่งสูงระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ $4,227 เช้านี้

ราคาทองคำทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเช้านี้ เนื่องจากความขัดแย้งสหรัฐ-จีนที่ทวีความรุนแรงขึ้น และการคาดการณ์เฟด จะลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมจนถึงสิ้นปี

บลูมเบิร์ก รายงานราคาทองคำยังคงพุ่งต่อสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ใหม่เช้าวันพฤหัสบดี (16 ต.ค.68) เหนือ 4,227 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ-จีน ปะทุอีกรอบและการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะผ่อนคลายนโยบายการเงินจนถึงสิ้นปี หนุนความต้องการทองคำซึ่งถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย

ราคาทองคำแท่งปรับตัวสูงขึ้นประมาณ 5% ในสัปดาห์นี้ และแตะระดับสูงสุดเหนือ 4,227 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในเช้าวันพฤหัสบดี ท่ามกลางการดีดตัวขึ้นอย่างรุนแรงนับตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคม ทองคำแตะที่ระดับ 4,218.29 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในวันพุธ จากการพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคมอย่างต่อเนื่อง แรงซื้อได้แผ่ขยายไปยังโลหะมีค่าอื่นๆ โดยโลหะเงินพุ่งขึ้น 3.1% ในวันพฤหัสบดี เนื่องจากปริมาณซัพพลายโลหะมีค่าในตลาดลอนดอนยังคงจำกัด

นักลงทุนต่างพากันเดิมพันเรียกร้องให้สหรัฐฯ ลดอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อยหนึ่งครั้งภายในสิ้นปี ขณะที่ประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ ได้ส่งสัญญาณในสัปดาห์นี้ว่าธนาคารกลางกำลังดำเนินการลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.25%ในปลายเดือนนี้ ต้นทุนการกู้ยืมที่ลดลงมีแนวโน้มที่จะส่งผลดีต่อโลหะมีค่า เนื่องจากโลหะมีค่าไม่ให้ผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ย

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศว่าสหรัฐฯ กำลังเผชิญสงครามการค้ากับจีน ก่อให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความเสียหายระยะยาวต่อเศรษฐกิจโลก ซึ่งอาจเพิ่มมูลค่าทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สก็อตต์ เบสเซนต์ เสนอให้ชะลอการขึ้นภาษีนำเข้าเพิ่มเติมออกไปอีก

การปิดทำการของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่กำลังดำเนินอยู่ยังช่วยหนุนราคาทองคำแท่ง เช่นเดียวกับภาวะที่เรียกว่า Debasement Trade ซึ่งนักลงทุนถอนการลงทุนจากพันธบัตรรัฐบาลและสกุลเงินต่างๆเพื่อป้องกันตนเองจากการขาดดุลงบประมาณที่พุ่งสูง การซื้ออย่างกระตือรือร้นของธนาคารกลางเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่หนุนราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นประมาณ 60% ในปีนี้

ราคาทองคำที่พุ่งสูงขึ้นส่วนใหญ่ “เกิดจากการซื้อขายทองคำกายภาพ และหากพิจารณาจากธนาคารกลาง พวกเขากำลังออกไปซื้อในปริมาณมหาศาล” ซาอัด ราฮิม หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Trafigura Group กล่าว ความกังวลเกี่ยวกับความยั่งยืนของหนี้สินและแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงทำให้นักลงทุน “มองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย” เขากล่าว

อัปเดตราคาเช้านี้

ราคาทองคำแท่ง (Spot Gold) ปรับตัวสูงขึ้น 0.3% สู่ระดับ 4,218.74 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อเวลา 8:48 น. ตามเวลาที่สิงคโปร์ ดอลลาร์อ่อนค่าต่อ โดยดัชนี Bloomberg Dollar Spot Index ลดลง 0.2% ร่วงลงเป็นวันที่สาม ราคาแพลทินัมทรงตัว ขณะที่ราคาแพลเลเดียมปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย

 ขณะเดียวกัน ตลาดโลหะเงินได้รับผลกระทบจากการขาดสภาพคล่องในลอนดอน ทำให้เกิดการล่าโลหะชนิดนี้ทั่วโลก และผลักดันให้ราคาอ้างอิงพุ่งสูงขึ้นเหนือราคาฟิวเจอร์ในนิวยอร์ก ราคาแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เหนือ 53 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในสัปดาห์นี้ และแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงในวันพฤหัสบดี