ทองคำทะลุ $4,100 ทำสถิติสูงสุดใหม่ จับตาสงครามการค้า ดอกเบี้ยเฟด

ทองคำทะลุ $4,100 ทำสถิติสูงสุดใหม่ จับตาสงครามการค้า ดอกเบี้ยเฟด

ราคาทองคำ ทะลุ 4,100 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์จากความกังวลสงครามการค้า คาดเฟดลดอัตราดอกเบี้ย นักวิเคราะห์มองขึ้นต่อไปที่ 5,000 ดอลลาร์ปีหน้า

รอยเตอร์  รายงาน ราคาทองคำ ทะลุ 4,100 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เป็นครั้งแรกในวันจันทร์ (13 ต.ค.68 ) ทำสถิติสูงสุดอีกครั้งจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่าง สหรัฐ-จีน ที่กลับมาปะทุขึ้นอีกครั้ง และการคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ขณะที่ราคาโลหะเงินก็พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เช่นกัน

ราคาทองคำตลาดสปอต (Spot Gold) พุ่งขึ้น 2.2% มาอยู่ที่ 4,106.48 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ณ เวลา 13:47 น. ตามเวลาฝั่งตะวันออกสหรัฐ (17:47 GMT) หลังจากแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4,116.77 ดอลลาร์

ราคาทอง ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของสหรัฐ (Gold Futures) ส่งมอบเดือนธันวาคม ปิดตลาดพุ่งขึ้นแรง 3.3% มาอยู่ที่ 4,133 ดอลลาร์

ทองคำ ราคาทะยานขึ้นแล้ว 56% ในปีนี้ และทะลุระดับ 4,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้ว โดยได้รับแรงหนุนจากปัจจัยต่างๆ เช่น ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ และเศรษฐกิจ การคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐ และแรงซื้อจากธนาคารกลางทั่วโลก

“ทองคำอาจยังคงพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง เราอาจเห็นราคาสูงกว่า 5,000 ดอลลาร์สหรัฐ ภายในสิ้นปี 2569” ฟิลลิป สไตรเบิล หัวหน้านักกลยุทธ์การตลาดของบลูไลน์ ฟิวเจอร์ส กล่าว

สไตรเบิล กล่าวเสริมว่า การเข้าซื้อของธนาคารกลางอย่างต่อเนื่อง เงินทุนไหลเข้าจาก กองทุน ETF ที่แข็งแกร่ง ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน และแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงของสหรัฐ ล้วนเป็นปัจจัยสนับสนุนเชิงโครงสร้างให้กับตลาด

ในด้านภูมิรัฐศาสตร์ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ได้จุดชนวนความตึงเครียดทางการค้ากับจีนขึ้นอีกครั้งในวันศุกร์ ยุติการสงบศึกที่ไม่แน่นอนระหว่างสองประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดของโลก

ขณะเดียวกัน นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาส 97% ที่ธนาคารกลางสหรัฐ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25 %ในเดือนตุลาคม และมีโอกาส 100% ในเดือนธันวาคม ที่จะลดดอกเบี้ยอีกครั้ง ทองคำ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ย มีแนวโน้มที่จะทำผลงานได้ดีในสภาพแวดล้อมที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ 

นักวิเคราะห์จากธนาคาร Bank of America และ Societe Generale คาดการณ์ราคาทองคำ จะแตะระดับ 5,000 ดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2569 ขณะที่ Standard Chartered ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาทองคำเฉลี่ยเป็น 4,488 ดอลลาร์สหรัฐ ในปีหน้า

“เรามองว่าการฟื้นตัวครั้งนี้มีความเป็นไปได้สูง แต่การปรับฐานในระยะสั้นน่าจะส่งผลดีต่อแนวโน้มขาขึ้นในระยะยาว” ซูกิ คูเปอร์ หัวหน้าฝ่ายวิจัยสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลกของธนาคาร Standard Chartered กล่าว

ด้าน ราคาโลหะเงิน ตลาดสปอต เพิ่มขึ้น 3.1% มาอยู่ที่ 51.82 ดอลลาร์สหรัฐ แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 52.12 ดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงต้นตลาด โดยได้รับแรงหนุนจากปัจจัยเดียวกันที่สนับสนุนราคาทองคำ และภาวะตึงตัวของตลาด

ตัวชี้วัดทางเทคนิคแสดงให้เห็นว่าทั้งสองอยู่ในภาวะซื้อมากเกินไป โดยดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (RSI) อยู่ที่ 80 สำหรับทองคำ และ 83 สำหรับเงิน

ราคาแพลทินัม พุ่งขึ้น 3.9% สู่ระดับ 1,648.25 ดอลลาร์สหรัฐ 

ราคาแพลเลเดียม พุ่งขึ้น 5.2% สู่ระดับ 1,478.94 ดอลลาร์สหรัฐ

 

อัปเดตราคาเช้านี้ (14 ต.ค.68)

บลูมเบิร์ก รายงานว่า ราคาทองคำตลาดสปอต เพิ่มขึ้น 0.5% อยู่ที่ 4,129.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อเวลา 07:38 น. ตามเวลาที่สิงคโปร์ หลังจากเพิ่มขึ้น 2.3% ในวันจันทร์ ค่าเงินดอลลาร์ นิ่ง โดย ดัชนี Bloomberg Dollar Spot Index ทรงตัวหลังจากเพิ่มขึ้นประมาณ 1% ในสัปดาห์ที่แล้ว ราคาโลหะเงินเพิ่มขึ้น 0.3% ขณะที่ราคาแพลทินัม และแพลเลเดียมพุ่งขึ้น

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์