‘เวอร์ชวลแบงก์’พลิกเกมเศรษฐกิจ ช่วยคนไทยหลุดกับดักหนี้นอกระบบ

‘เวอร์ชวลแบงก์’พลิกเกมเศรษฐกิจ ช่วยคนไทยหลุดกับดักหนี้นอกระบบ

ในยุคโลกการเงินเปลี่ยนเร็วกว่าอารมณ์ตลาด “เวอร์ชวลแบงก์” คือ “พลังพลิกเกมเศรษฐกิจไทย” ให้หลุดพ้นจาก “กับดัก” รายได้ปานกลาง และ เข้าถึงบริการทางการเงินที่จำกัด

KEY

POINTS

  • เวอร์ชวลแบงก์มีเป้าหมายหลักในการช่วยคนไทย โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ให้หลุดพ้นจากกับดักหนี้นอกระบบ ผ่านการเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงบริการทางการเงินในระบบ
  • นำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินรูปแบบใหม่ที่ยืดหยุ่นและเข้าถึงง่าย เช่น สินเชื่อหรือประกันที่สามารถชำระเป็นรายวัน เพื่อตอบโจทย์กลุ่มผู้มีรายได้ไม่แน่นอน
  • ใช้เทคโนโลยี AI และข้อมูลทางเลือก (Alternative Data) ในการวิเคราะห์สินเชื่อ ประกอบกับต้นทุนการดำเนินงานที่ต่ำกว่าธนาคารทั่วไป จึงสามารถให้บริการลูกค้าได้ในวงกว้างและมีประสิทธิภาพ

เวทีสัมมนาใหญ่ “Thailand Economic Outlook 2026: Out of The Trap” โดย “กรุงเทพธุรกิจ” จึงเปิดพื้นที่ให้ผู้นำแห่งโลกการเงินดิจิทัลมาเผยวิสัยทัศน์ในหัวข้อ “Virtual Bank - Game Changer Financial Thailand” ว่าเวอร์ชวลแบงก์จะไม่ใช่แค่ธนาคารในจอ แต่คือเครื่องมือสร้างโอกาสใหม่ให้ประชาชนทุกกลุ่ม และเป็นกุญแจสำคัญสู่เศรษฐกิจที่ยั่งยืนและทั่วถึง

นายปุณณมาศ วิจิตรกุลวงศา Chief Digital Platform Business Officer บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เวอร์ชวลแบงก์มาพร้อมกับ “วิสัยทัศน์การเงินเพื่อสังคมไทย” โดยมีภารกิจลดหนี้นอกระบบและสร้างความยั่งยืน เพราะปัญหาหนี้นอกระบบยังเป็นความท้าทายระดับประเทศ ซึ่งปัจจุบันกว่า 40% ของครัวเรือนไทย ติดหนี้นอกระบบ เป็นหนี้เฉลี่ย 54,000 บาทต่อครัวเรือน ซึ่งสะท้อนถึงครัวเรือนไทย มีการเข้าถึงบริการทางการเงินของสถาบันการเงินที่ยังไม่ทั่วถึง

‘เวอร์ชวลแบงก์’พลิกเกมเศรษฐกิจ ช่วยคนไทยหลุดกับดักหนี้นอกระบบ

ขณะเดียวกัน “กลุ่มเปราะบาง” จำนวนมากขาดวินัยทางการเงิน และไม่มีผลิตภัณฑ์การเงิน หรือขาดการวางแผนการเงินอย่างเหมาะสม แน่นอนเวอร์ชวลแบงก์จะเข้ามาสร้างโอกาสใหม่ให้คนไทยเข้าถึงระบบการเงินมากขึ้น 

ด้วย “จุดแตกต่าง” จากสถาบันการเงินแบบปกติคือ เวอร์ชวลแบงก์สามารถออกแบบผลิตภัณฑ์การเงินใหม่ๆ ที่เข้าถึงง่าย ยืดหยุ่น เช่น การให้สินเชื่อที่เหมาะสมกับคนที่มีรายได้รายวัน เช่น วินมอเตอร์ไซด์ ที่มีรายได้รายวันมีความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ สามารถเข้าถึงความคุ้มครองประกันได้ ด้วยระบบผ่อนชำระจ่ายค่าเบี้ยแบบรายวัน เช่น 10 บาทต่อวัน แทนการจ่ายแบบ 3,000 บาทต่อเดือน รวมถึงสามารถมีระบบการให้รางวัลสำหรับผู้มีวินัยในการชำระหนี้ ด้วยการวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าเพื่อเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เหมาะสม

ขณะเดียว มองการเปลี่ยนพฤติกรรมของคน และการควบคุมความเสี่ยงต่างๆ ทั้งปล่อยสินเชื่อ และการฉ้อฉล นับ “เป็นเรื่องยาก” แต่เราเชื่อมั่นว่า “เทคโนโลยี” เช่น AI และระบบวิเคราะห์ข้อมูลมือถือ สามารถช่วยเปลี่ยนพฤติกรรมมนุษย์ และยังสามารถช่วยตรวจจับพฤติกรรมเสี่ยง ป้องกันสแกมเมอร์ที่ปลอมตัวเป็นสถาบันการเงิน รวมถึงให้ความรู้ทางการเงินแบบเฉพาะบุคคล

สำหรับ โมเดลรายได้สินเชื่อธนาคารกับเวอร์ชวลแบงก์คล้ายคลึงกัน คือ รายได้หลักยังคงมาจากรายได้ดอกเบี้ยสัดส่วน 70-80% และรายได้ค่าธรรมเนียมสัดส่วน 20-30% แต่จุดแตกต่าง คือ เวอร์ชวลแบงก์จะมีต้นทุนต่ำกว่าธนาคารทั่วไปถึง 1 ใน 3 ทำให้สามารถเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น และเวอร์ชวลแบงก์ สามารถวางกลยุทธ์การปล่อยสินเชื่อในยุคเศรษฐกิจโตช้า มุ่งเน้นเลือกเซกเมนต์ลูกค้าที่มีศักยภาพในการชำระหนี้ , เน้นการปล่อยสินเชื่อที่ตอบโจทย์สังคมและธุรกิจอย่างยั่งยืน

"เวอร์ชวลแบงก์ ใช้เทคโนโลยีช่วยคัดกรองและให้ความรู้ลูกค้าเพื่อตอบโจทย์ทั้งด้าน ความปลอดภัย ความรู้ทางการเงิน และการสร้างผลกำไรทางธุรกิจอย่างยั่งยืน"

นายธัญญพงศ์ ธรรมาวรานุคุปต์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด กล่าวว่า วิสัยทัศน์ของเวอร์ชวลแบงก์ ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างความแตกต่างจากธนาคารแบบดั้งเดิม มีพันธกิจหลัก "ในการขยายโอกาสให้ประชาชนที่ยังเข้าไม่ถึงบริการทางการเงินสามารถเข้าถึงสินเชื่อ การลงทุน และการประกันได้มากขึ้น ผ่านเทคโนโลยีดิจิทัลและ AI ที่ทันสมัย" 

สำหรับ “จุดแข็ง” ของเวอร์ชวลแบงก์ คือ ไม่มีต้นทุนสาขาและระบบแบงก์กิ้งแบบเก่า ทำให้สามารถบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ โครงสร้างแบบไมโครเซอร์วิส ช่วยให้สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ได้ภายในหลักสัปดาห์ ไม่ใช่หลักเดือน

พร้อมกับ ใช้ AI มาวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า พัฒนาผลิตภัณฑ์และให้บริการลูกค้า เพิ่มความรวดเร็วและแม่นยำในการตอบสนองความต้องการ ภายใต้โมเดลสินเชื่อที่ใช้ Alternative Data วิเคราะห์พฤติกรรมการใช้จ่าย เช่น การเติมเงินมือถือ จ่ายค่าโทรศัพท์ และชำระเงินผ่านแอปต่าง ๆ เพื่อประเมินความสามารถในการชำระหนี้ได้ลึกและแม่นยำ

เพราะปัจจุบันระบบการเงินไทยยังมีความท้าทายคนไทยกว่า 95-97% มีบัญชีกับสถาบันการเงิน แต่ยังมีช่องว่างในการเข้าถึงบริการทางการเงินที่แท้จริง และมีเพียง 40% คนไทยที่ใช้บริการชำระเงินดิจิทัล เช่น พร้อมเพย์และทรูมันนี่ แต่การเข้าถึงสินเชื่อ การลงทุน และประกันยังต่ำ โดยมีถึง 96% ของคนไทย ไม่มีลงทุนที่สร้างความมั่งคั่งหรือเงินเก็บเพื่อเกษียณ สะท้อนถึงความจำเป็นในการสร้างระบบการเงินที่ครอบคลุมและยั่งยืน

นอกจากนี้ เวอร์ชวลแบงก์มุ่งสร้าง Financial Inclusion เน้นออกแบบผลิตภัณฑ์เหมาะสมกับรายได้และพฤติกรรมของลูกค้า เพราะปัจจุบัน ยังพบลูกค้าวินมอร์เตอร์ไซด์มีรายได้ 7,000-8,000 บาทต่อเดือน แต่ต้องจ่ายเบี้ยประกันถึง 3,000 บาท ซึ่งไม่สอดคล้องกับรายได้ ทำให้การเข้าถึงประกันของคนกลุ่มนี้ยังไม่เกิดขึ้นจริง 

และที่สำคัญด้วยความเสี่ยงทั้งรายได้จากธุรกิจที่ต่ำ และความเสี่ยงในการปล่อยสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นเราพบว่าจากบทเรียนจากธนาคารดิจิทัลทั่วโลกกว่า 90% ล้มเหลว จากต้นทุนระบบสูงและไม่สามารถบริหารความเสี่ยงได้ ดังนั้น เวอร์ชวลแบงก์จึงให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงรอบด้าน จากทั้งในด้านการรับเงินฝาก การกำกับดูแล และการสร้างระบบที่ยั่งยืนด้วยเช่นกัน