ราคาทองคำพุ่งแตะ 4,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ เป็นครั้งแรก

ราคาทองคำพุ่งแตะ 4,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ เป็นครั้งแรก

ราคาทองคำพุ่งแตะ 4,000 ดอลลาร์สหรัฐ เป็นครั้งแรกในวันอังคาร นักลงทุนมองหาแหล่งหลบภัยจากเงินดอลลาร์อ่อนค่า ความเสี่ยงทางภูมิรัฐ ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ

ซีเอ็นบีซี รายงานราคาทองคำพุ่งแตะ 4,000 ดอลลาร์สหรัฐ เป็นครั้งแรกในวันอังคาร (8 ต.ค.68) ขณะที่นักลงทุนมองหาแหล่งหลบภัยจากเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง ความผันผวนทางภูมิรัฐศาสตร์ ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ และภาวะเงินเฟ้อสูงที่ยืดเยื้อ

ราคาทองคำตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Gold Futures)

ปิดตลาดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4,004.40 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หลังจากแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4,014.60 ดอลลาร์สหรัฐในการซื้อขายก่อนหน้า

 ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นประมาณ 50% ในปีนี้ ขณะที่ดัชนีดอลลาร์สหรัฐลดลง 10% และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังพลิกโฉมระบบการค้าโลก และคุกคามความเป็นอิสระของธนาคารกลางสหรัฐ

ธนาคารกลาง และนักลงทุนรายย่อยต่างเร่งซื้อทองคำ จีน และประเทศอื่นๆ กำลังกระจายการลงทุนออกจากพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ และลงทุนในทองคำเพิ่ม หลังจากที่วอชิงตันได้กำหนดมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียอย่างรุนแรงกรณีการรุกรานยูเครนในปี 2565 และนักลงทุนรายย่อยกำลังมองหาเครื่องมือป้องกันภาวะเงินเฟ้อสูง

ราคาโลหะมีค่าที่ปรับตัวสูงขึ้นล่าสุดเกิดขึ้นหลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในเดือนกันยายน ของปีนี้ ทำให้ตราสารหนี้ระยะสั้นอย่างตั๋วเงินคลังมีความน่าสนใจน้อยลงสำหรับนักลงทุน ตลาดคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะปรับลดลงอีกสองครั้งจากระดับปัจจุบันที่ 4.00- 4.25% ก่อนสิ้นปี เฟดจะประชุมครั้งต่อไปในอีกสามสัปดาห์ข้างหน้าในวันที่ 29 ตุลาคม 2568

เรย์ ดาลิโอ ผู้ก่อตั้งเฮดจ์ฟันด์ Bridgewater Associates ได้แนะนำเมื่อวันอังคารว่านักลงทุนควรลงทุนใน "ทองคำประมาณ 15% ของพอร์ต" ดาลิโอกล่าวในงาน Greenwich Economic Forum ที่รัฐคอนเนตทิคัต ว่า ตราสารหนี้ "ไม่ใช่แหล่งสะสมความมั่งคั่งที่มีประสิทธิภาพ"

ทองคำเป็น "สินทรัพย์หนึ่งที่ทำกำไรได้ดีเมื่อส่วนต่างๆ ในพอร์ตการลงทุนของคุณตกต่ำ" เขากล่าว

ขณะที่ธนาคารแห่งอเมริกา (Bank of America) แนะนำให้นักลงทุนพิจารณาซื้อทองคำอย่างระมัดระวังเมื่อราคาทองคำพุ่งแตะระดับ 4,000 ดอลลาร์สหรัฐ โดยธนาคารเตือนลูกค้าว่าทองคำกำลังเผชิญกับ "ภาวะหมดแรงของแนวโน้มขาขึ้น" ซึ่งอาจนำไปสู่ "การชะลอตัวลงหรือการปรับฐาน" ในไตรมาสที่สี่

อัปเดตราคาเช้านี้ (8 ต.ค.68)

บลูมเบิร์ก รายงานว่าราคาทองคำตลาดสปอต (Spot Gold) ปรับตัวสูงขึ้น 0.1% มาอยู่ที่ 3,989.11 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อเวลา 6:55 น. ตามเวลาที่สิงคโปร์ โลหะเงินทรงตัวหลังจากลดลง 1.4% ในการซื้อขายก่อนหน้า ส่วนแพลทินัม และแพลเลเดียมแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลง

ราคาทองคำทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากความผันผวนของหุ้นเทคโนโลยีทำให้นักลงทุนมีความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น ขณะที่การขาดข้อมูลที่เกิดจากการปิดหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐ ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มนโยบายการเงินของสหรัฐ

ทองคำแท่งซื้อขายใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันอังคารที่ขึ้นเหนือ 3,991 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาปัจจุบันต่ำกว่าเพียงประมาณ 2 ดอลลาร์ ขณะที่ทองคำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าส่งมอบเดือนธันวาคมในนิวยอร์ก ซึ่งเป็นสัญญาที่มีการซื้อขายมากที่สุด ปรับตัวสูงขึ้นหลังจากทะลุ 4,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในการซื้อขายก่อนหน้า

นักลงทุนกำลังจับตาสัญญาณบ่งชี้ว่าความคึกคักที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์อาจพุ่งสูงถึงระดับที่สูงเกินไป หลังจากมีรายงานว่าอัตรากำไรขั้นต้นด้านคลาวด์ของ Oracle Corp ต่ำกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ ความกังวลที่เกิดขึ้นใหม่เกี่ยวกับมูลค่าหุ้นเทคโนโลยีที่ตึงตัวกำลังเพิ่มความน่าดึงดูดใจให้กับโลหะมีค่าในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย โดยการปิดหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วทำให้การรายงานข้อมูลสำคัญล่าช้าออกไป และทำให้แนวโน้มการลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด คลุมเครือ

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์