จับตากระแส FOMO ดัน 'ราคาทองคำ' พุ่ง 4,200 ดอลลาร์/ออนซ์ ก่อนสิ้นปี

ทองคำ วันนี้ ทำนิวไฮใหม่ บวก 1% แตะ 3,925 ดอลลาร์/ออนซ์ จาก 3 ปัจจัยหนุน จับตากระแส FOMO ดัน ราคาทองคำ ทะยาน 4,200 ก่อนสิ้นปี
ทองคำ วันนี้ ที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นกว่า 50% ในปีนี้ กำลังจุดกระแส FOMO กลัวการพลาดโอกาสในการทำกำไร และความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ ทำให้ ราคาทองคำ ในตลาดโลกพุ่งทะลุระดับ 3,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เป็นการทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันนี้ (6 ต.ค.68)
ราคาทองคำตลาดโลก (Spot Gold) พุ่งขึ้น 1% แตะที่ 3,925.91 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ณ เวลาประมาณ 13.00 น.ตามเวลาไทย
ราคาทองคำฟิวเจอร์ สหรัฐ ก็ปรับขึ้น 1.1% แตะที่ 3,951.60 ดอลลาร์
3 ปัจจัยหนุน 'ราคาทอง' ไปต่อ
วรุต รุ่งขำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จํากัด มองว่า 2 ปัจจัยที่ทำให้ราคาทองปรับตัวเพิ่มขึ้นมาจากโมเมนตัมเชิงบวก ผลจากการเลือกตั้งพรรค LDP ของญี่ปุ่นที่คาดว่า “ซานาเอะ ทาคาอิจิ” จะเปลี่ยนทิศทางนโยบาย โดยเฉพาะตลาดพันธบัตรรัฐบาล และการปิดหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐที่ยืดเยื้อออกไป ขณะเดียวกันวาณิชธนกิจก็ปรับเป้าราคาทองคำ
“ทิม วอเทอร์” หัวหน้านักวิเคราะห์ของ KCM ชี้ว่าการเลือกตั้งพรรค LDP ทำให้ “เงินเยน” ของญี่ปุ่นอ่อนค่าลงมากที่สุดในรอบ 5 เดือนเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ทำให้นักลงทุนมีสินทรัพย์ปลอดภัยให้เลือกน้อยลง ขณะเดียวกันการปิดหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐที่ยืดเยื้อ ได้สร้างความไม่แน่นอนให้กับเศรษฐกิจสหรัฐ ทำให้ทองคำเป็นทางเลือกที่นักลงทุนเลือกใช้
นอกจากนี้ สภาทองคำโลก รายงานว่าเงินทุนที่ไหลเข้ากองทุน ETF ในช่วง 4 สัปดาห์ที่ผ่านมากว่า 13,600 ล้านดอลลาร์ และทั้งปี 2568 มีเงินทุนไหลเข้า กองทุนทองคำ ETF สุทธิมากกว่า 60,000 ล้านดอลลาร์ ทำให้ปริมาณทองคำที่กองทุน ETF ถือครองเพิ่มขึ้นสูงกว่า 3,800 ตัน ซึ่งใกล้กับปริมาณที่มีการเทขายทองคำในช่วงโควิด-19
UBS ปรับเป้า 4,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ธนาคาร UBS ได้ปรับเพิ่มการคาดการณ์ราคา ทองคำ และ เงิน อีกครั้งอย่างมีนัยสำคัญ โดยให้เหตุผลว่าได้รับแรงหนุนจากความต้องการของนักลงทุน ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจในภาพรวม รวมถึงแรงกดดันทางการคลัง และประเด็นภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงอยู่
UBS คาดการณ์ราคาทองคำ จะไปถึงระดับ 4,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มจากมุมมองก่อนหน้าที่คาดว่าจะถึงเพียง 3,800 ดอลลาร์ภายในสิ้นปี 2568 และ 3,900 ดอลลาร์ภายในกลางปี 2569
3 ปัจจัยสนับสนุนในมุมมองของ UBS ระบุว่ามีความต้องการจากธนาคารกลาง และ ETF ธนาคารกลางยังคงเข้าซื้ออย่างต่อเนื่อง และความต้องการในกองทุนทองคำก็เพิ่มขึ้น, ความไม่สมดุลทางการคลัง จากปัญหาด้านงบประมาณ และหนี้สินของรัฐบาลในหลายประเทศยังคงสร้างแรงกดดัน และความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ ท่ามกลางความตึงเครียดทั่วโลกยังคงผลักดันให้นักลงทุนต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย
ราคาทองคำปรับขึ้นไปแล้วถึง 49% ในปีนี้ หลังจากที่เพิ่มขึ้น 27% ในปี 2567 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการเข้าซื้ออย่างแข็งแกร่งของธนาคารกลางทั่วโลก, ความต้องการกองทุนทองคำ ETF เพิ่มขึ้น, ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง และนักลงทุนรายย่อยให้ความสนใจลงทุนทองคำในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยง ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้า และภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น
อ้างอิง Reuters
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







