ปี 2570 กติกาภาษีใหม่! คนไทยทุกคนเลี่ยงไม่ได้...ต้องยื่นภาษี

ปี 2570 กติกาภาษีใหม่! คนไทยทุกคนเลี่ยงไม่ได้...ต้องยื่นภาษี

เตรียมตัวให้พร้อมกับกติกาภาษีใหม่ ปี 2570 ตามนโยบายปฏิรูประบบภาษี ที่รัฐบาลออกกฎบังคับให้คนไทยทุกคนต้อง "ยื่นภาษี" ไม่ว่าคุณจะมีรายได้มากหรือน้อยก็ตาม

หลายปีที่ผ่านมา เรื่อง "การยื่นภาษี" มักถูกมองว่าเป็นหน้าที่ของคนที่มีรายได้เกินเกณฑ์เท่านั้น หลายคนที่ได้เงินเดือนน้อย หรือรายได้ไม่ถึงเกณฑ์ ก็อาจไม่เคยคิดจะไปยุ่งกับการยื่นแบบภาษีสักเท่าไร

แต่เมื่อก้าวเข้าสู่ปี 2570 กติกาภาษีใหม่ได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง รัฐบาลได้ออกกฎที่บังคับให้คนไทยทุกคนต้องยื่นภาษี ไม่ว่าคุณจะมีรายได้มากหรือน้อยก็ตาม

นี่ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่กระทบประชาชนทั้งประเทศ และกลายเป็นประเด็นที่หลายคนกำลังจับตา

การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้เกิดขึ้นแบบไร้เหตุผล แต่เป็นผลจากแนวทางปฏิรูประบบภาษี ที่รัฐบาลตั้งใจทำให้เกิดความโปร่งใส มีฐานข้อมูลการเงินของประชาชนที่ครบถ้วน และยังช่วยปิดช่องว่างของคนที่เคยหลบเลี่ยงภาษีในอดีตถึงแม้ฟังดูเหมือนเพิ่มภาระ แต่ในอีกมุมหนึ่งกฎใหม่นี้อาจสร้างประโยชน์กับเราไม่น้อย

ทำไมถึงต้องยื่นภาษี “ทุกคน”

หลายคนสงสัยว่า เหตุใดภาครัฐถึงต้องการให้ทุกคนยื่นภาษี ทั้งที่บางคนมีรายได้เพียงเล็กน้อย คำตอบก็คือ การยื่นภาษีไม่จำเป็นต้องหมายความว่าคุณจะต้อง "จ่ายเงินเพิ่ม" เสมอไป แต่การยื่นคือการ แสดงข้อมูลทางการเงิน ว่าคุณมีรายได้เท่าไร มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง ซึ่งข้อมูลนี้จะถูกใช้ในการประเมินว่า คุณอยู่ในกลุ่มที่ต้องเสียภาษีจริงๆ หรือไม่

ในอดีตคนที่มีรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์อาจไม่ต้องยื่น ทำให้รัฐไม่รู้ว่าพวกเขามีรายได้จริงๆ เท่าไร ระบบใหม่จึงบังคับให้ทุกคนเข้ามาอยู่ในฐานข้อมูลเดียวกัน เพื่อความโปร่งใสและเพื่อให้รัฐสามารถวางแผนจัดเก็บภาษีอย่างเป็นธรรมมากขึ้น

ผลกระทบที่จะเกิดกับประชาชน

กลุ่มที่มีรายได้ไม่ถึงเกณฑ์เสียภาษี

แม้จะต้องยื่นแต่ไม่จำเป็นต้องเสียเงินเพิ่ม เพราะเมื่อกรอกข้อมูลแล้วระบบจะคำนวณให้อัตโนมัติ หากรายได้ยังไม่ถึงเกณฑ์ ก็เพียงแค่ยื่นแบบและถือว่าทำหน้าที่ครบถ้วน

กลุ่มพนักงานเงินเดือน

ที่ผ่านมาหลายบริษัทหักภาษี ณ ที่จ่ายให้อยู่แล้ว พนักงานบางคนจึงคิดว่าตัวเองไม่จำเป็นต้องยื่น แต่จริงๆ การยื่นภาษีอาจทำให้คุณได้เงินคืน เช่น เงินประกันชีวิต เบี้ยสุขภาพ หรือดอกเบี้ยบ้านที่สามารถนำมาลดหย่อน หากไม่ยื่นก็จะพลาดสิทธิ์ตรงนี้ไป

กลุ่มฟรีแลนซ์และผู้ประกอบการรายย่อย

ถือว่าได้รับผลกระทบมากที่สุดเพราะต้องเปิดเผยรายได้ที่แท้จริง ซึ่งที่ผ่านมาอาจไม่ได้ยื่นหรือยื่นไม่ครบ กติกาใหม่ทำให้เลี่ยงไม่ได้อีกต่อไป

กลุ่มเกษตรกรและผู้มีอาชีพอิสระในต่างจังหวัด

แม้จะเป็นกลุ่มที่รายได้ไม่สม่ำเสมอ แต่ก็ยังต้องยื่นหากรายได้ต่ำก็ไม่ต้องจ่าย แต่ยังต้องแสดงตัวตนในระบบ

ข้อดีที่หลายคนมองข้าม

แม้ตอนแรกจะรู้สึกว่าเป็นภาระ แต่จริงๆ แล้วการยื่นภาษีให้ครบทุกคนมีข้อดีหลายอย่าง เช่น

  • สิทธิในการขอคืนภาษี ใครที่ถูกหักภาษีเกินความเป็นจริง สามารถขอคืนได้เต็มจำนวน หากไม่ยื่นก็จะเสียสิทธิ์ทันที
  • ใช้เป็นหลักฐานทางการเงิน การยื่นภาษีต่อเนื่องช่วยให้มีเอกสารยืนยันรายได้ ซึ่งมีประโยชน์เวลาไปขอสินเชื่อ กู้ซื้อบ้าน รถ หรือแม้แต่ทำธุรกิจ
  • ความเป็นธรรม ระบบใหม่ช่วยให้รัฐตรวจสอบได้ง่ายขึ้นว่าใครเสียภาษีตามจริง ใครพยายามหลบเลี่ยง คนที่มีรายได้สูงก็ไม่สามารถเลี่ยงได้เหมือนที่ผ่านมา
  • ข้อมูลเพื่อสวัสดิการรัฐ เมื่อรัฐมีข้อมูลรายได้ประชาชนชัดเจน ก็สามารถออกนโยบายช่วยเหลือกลุ่มรายได้น้อยได้ตรงจุดมากขึ้น

ความท้าทายและสิ่งที่ต้องเตรียมตัว

เมื่อกติกาใหม่เริ่มบังคับใช้ในปี 2570 ประชาชนจะต้องปรับตัวให้ทัน โดยสิ่งที่ควรทำคือ

  • เก็บหลักฐานรายได้และค่าใช้จ่าย เช่น สลิปเงินเดือน ใบเสร็จรับเงิน หรือเอกสารธุรกรรม เพื่อใช้เป็นหลักฐานตอนยื่น
  • ทำความเข้าใจเรื่องค่าลดหย่อน เช่น เบี้ยประกันสุขภาพ เงินลงทุน RMF/SSF ดอกเบี้ยบ้าน หรือค่าเลี้ยงดูบิดามารดา สิ่งเหล่านี้ช่วยลดภาษีได้
  • ใช้ระบบยื่นออนไลน์ กรมสรรพากรได้พัฒนาระบบอิเล็กทรอนิกส์ให้ใช้ง่ายขึ้น การยื่นออนไลน์สะดวกกว่าการไปยื่นเอกสารที่สำนักงานมาก
  • หากไม่มั่นใจ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เช่น นักบัญชี หรือที่ปรึกษาภาษี เพื่อป้องกันการกรอกข้อมูลผิดพลาด

สรุป ปี 2570 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของระบบภาษีไทย เมื่อกติกาใหม่บังคับให้ทุกคนต้องยื่นภาษี ไม่ว่าจะมีรายได้มากหรือน้อยก็ตาม แม้ในสายตาหลายคนจะมองว่าเป็นภาระ แต่หากมองให้ลึกจริงๆ กฎนี้ช่วยสร้างความโปร่งใส ทำให้ระบบการจัดเก็บภาษีเป็นธรรม และยังเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงสิทธิประโยชน์ทางการเงินที่อาจมองข้ามไปได้

 

อ่านบทความน่ารู้เกี่ยวกับภาษี เพิ่มเติม คลิกที่นี่
Source : Inflow Accounting