ราคาทองคำใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จ้างงานสหรัฐอ่อนแอ

ราคาทองคำโลกทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันอังคาร ตลาดกังวลเกี่ยวกับการปิดทำการของรัฐบาลสหรัฐ ข้อมูลการจ้างงานที่อ่อนแอ คาดจะส่งผลให้เฟดลดดอกเบี้ย
รอยเตอร์ รายงานราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นในวันอังคาร (30 ก.ย.68) สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้รับแรงหนุนจากความกังวลเกี่ยวกับการปิดทำการของรัฐบาลสหรัฐ หรือ ชัตดาวน์ ที่กำลังจะเกิดขึ้น ขณะที่ข้อมูลการจ้างงานที่อ่อนแอช่วยหนุนการคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ราคาทองคำตลาดสปอต (Spot Gold) เพิ่มขึ้น 0.3% สู่ระดับ 3,843.43 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ณ เวลา 13:51 น. ตามเวลาฝั่งตะวันออกสหรัฐ (17:50 GMT) ฟื้นตัวจากการร่วงลงก่อนหน้านี้ในชั่วโมงทำการของสหรัฐ ราคาแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3,871.45 ดอลลาร์สหรัฐในการซื้อขายที่ตลาดเอเชีย
ราคาทองคำล่วงหน้าของสหรัฐ (Gold Futures) ส่งมอบเดือนธันวาคม ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 0.5% สู่ระดับ 3,873.20 ดอลลาร์สหรัฐ
“ทองคำกำลังแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งอย่างน่าทึ่งอีกครั้ง โดยสามารถฟื้นตัวจากการลดลงในช่วงต้นได้อย่างง่ายดาย หลังจากข้อมูลจ้างงาน JOLT ของสหรัฐ ที่ไม่น่าประทับใจ ซึ่งจะไม่ขัดขวางการลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในอีก 1 เดือนข้างหน้า” ไท หว่อง เทรดเดอร์โลหะอิสระ กล่าว
“การปิดทำการบางส่วนของรัฐบาลสหรัฐ ที่กำลังจะมาถึงยิ่งเพิ่มความไม่แน่นอน และยิ่งกระตุ้นให้เกิดการ 'ซื้อทองคำ'”
จำนวนตำแหน่งงานว่างในสหรัฐ เพิ่มขึ้นเล็กน้อยในเดือนสิงหาคม ขณะที่การจ้างงานลดลง ซึ่งสอดคล้องกับสภาวะตลาดแรงงานที่อ่อนตัวลง ซึ่งอาจทำให้เฟดสามารถปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้อีกครั้งในเดือนหน้า
เครื่องมือติดตามเฟด FedWatch ของ CME Group ระบุว่า ขณะนี้ เทรดเดอร์กำลังประเมินโอกาส 97% ที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ ในเดือนตุลาคม ทองคำที่ไม่ให้ผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยมีแนวโน้มที่จะเติบโตได้ดีในช่วงเวลาที่มีความไม่แน่นอน และอัตราดอกเบี้ยต่ำ
ราคาทองคำแท่งพุ่งขึ้น 11.5% ในเดือนกันยายน ที่ผ่านมา และกำลังอยู่ในเส้นทางที่จะเป็นเดือนที่ทองขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2554 โดยเพิ่มขึ้น 16.4% ในไตรมาส 3 นี้
วอชิงตันเตรียมรับมือกับการปิดทำการของรัฐบาลที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันอังคารนี้ โดยพรรครีพับลิกัน และเดโมแครตยังคงไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ก่อนถึงเส้นตายการจัดสรรงบประมาณเที่ยงคืน
“การปิดทำการใดๆ ที่กินเวลานานจะส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา และกระตุ้นให้ธนาคารกลางสหรัฐ ผ่อนคลายนโยบาย ซึ่งน่าจะเป็นผลดีต่อทองคำ” เมเลค กล่าวเสริม
กระทรวงแรงงานสหรัฐ กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า สำนักงานสถิติแห่งชาติจะระงับการเผยแพร่ข้อมูล ซึ่งรวมถึงรายงานการจ้างงานรายเดือนที่ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดในวันศุกร์ หากเกิดการปิดทำการของรัฐบาลบางส่วน
ส่วนอื่นๆ ราคาโลหะเงินตลาดสปอตลดลง 1.1% มาอยู่ที่ 46.42 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่เพิ่มขึ้น 17% ในเดือนนี้ ราคาแพลทินัมร่วงลง 2.7% อยู่ที่ 1,576.75 ดอลลาร์สหรัฐ และแพลเลเดียมร่วงลง 1.5% อยู่ที่ 1,249.37 ดอลลาร์สหรัฐ
ข้อมูลชี้ตลาดแรงงานชะลอตัวต่อเนื่อง
ด้านซีเอ็นเอ็น รายงานว่า ข้อมูลการจ้างงานของรัฐบาลกลางที่เผยแพร่ในสัปดาห์นี้ ซึ่งอาจเป็นข้อมูลสุดท้าย หากรัฐบาลปิดทำการ รายงานฉบับใหม่เมื่อวันอังคาร แสดงให้เห็นว่าจำนวนตำแหน่งงานว่างยังคงอยู่ในระดับต่ำในปีนี้ ซึ่งเป็นสัญญาณว่าโอกาสการหางานของชาวอเมริกันยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง
ผลสำรวจตำแหน่งงานว่าง และการหมุนเวียนของแรงงาน (Job Openings and Labor Turnover Survey: JOLT) เมื่อวันอังคารแสดงให้เห็นว่าจำนวนตำแหน่งงานว่างเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 7.23 ล้านตำแหน่ง ณ สิ้นเดือนสิงหาคม จาก 7.21 ล้านตำแหน่งที่ปรับเพิ่มขึ้น ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแรงงานระบุว่า ตำแหน่งงานว่างคิดเป็นสัดส่วนของการจ้างงานทั้งหมดอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี
ข้อมูลของสำนักงานสถิติแรงงานยังยืนยันอีกว่า ตลาดแรงงานของสหรัฐ ซบเซาลงอย่างต่อเนื่อง หากไม่รวมการระบาดใหญ่ในช่วงต้นปี 2563 อัตราการจ้างงานในเดือนสิงหาคม ลดลงเหลือ 3.2% ซึ่งเท่ากับอัตราต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2556 ตามข้อมูลจากสำนักงานสถิติแรงงาน
“นั่นเป็นระดับที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่ยุคเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ ซึ่งอัตราการว่างงานอยู่ที่ 7% หรือสูงกว่า ยกเว้นเดือนเมษายน 2020” เฮเธอร์ ลอง หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของสหกรณ์เครดิตยูเนียนกองทัพเรือสหรัฐ (Navy Federal Credit Union) เขียนไว้ในบันทึกเมื่อวันอังคาร “ตลาดแรงงานหยุดชะงักมาเกือบปีแล้ว และดูเหมือนว่าสถานการณ์จะแย่ลงสำหรับผู้หางาน ชาวอเมริกันรู้สึกติดอยู่ในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ ขาดโอกาสในการทำงานหรือความหวังที่จะซื้อบ้าน เรื่องนี้จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลง”
ข้อมูลของรัฐบาลกลางเสี่ยงที่จะหายไป
รายงานประจำเดือนนี้มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นในสัปดาห์นี้ และมาในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจกำลังเผชิญความไม่แน่นอน หากรัฐบาลกลางปิดทำการในเวลาเที่ยงคืน การเผยแพร่ข้อมูลตลาดแรงงานที่สำคัญ เช่น รายงานการจ้างงานในวันศุกร์ อาจล่าช้าออกไป
อัปเดตราคาทองคำเช้านี้ (1 ต.ค.68)
บลูมเบิร์ก รายงานว่าราคาทองคำตลาดสปอตเพิ่มขึ้น 0.2% อยู่ที่ 3,865.15 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อเวลา 8:17 น. ตามเวลาสิงคโปร์ หลังจากปิดตลาดสูงขึ้น 0.7% ในวันอังคาร ค่าเงินดอลลาร์แทบไม่เปลี่ยนแปลง โดยดัชนี Bloomberg Dollar Spot ทรงตัว เงินเพิ่มขึ้น 0.2% อยู่ที่ 46.7344 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากลดลง 0.6% ในการซื้อขายก่อนหน้า แพลทินัมปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย ขณะที่แพลเลเดียมแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ราคาทองคำแท่งพุ่งขึ้นมากกว่า 47% ในปีนี้ ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นประจำปีครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 1979 การปรับตัวขึ้นนี้ได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อของธนาคารกลางทั่วโลก และการถือครองเพิ่มขึ้นของกองทุน ETF ทองคำ ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ กลับมาปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง เงินทุนไหลเข้ารายเดือนของ ETF ในเดือนกันยายน ถือเป็นปริมาณสูงสุดในรอบสามปี ตามข้อมูลที่รวบรวมโดยสำนักข่าว Bloomberg
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







