‘เศรษฐพุฒิ’ เปิดใจ อำลา ‘ผู้ว่าแบงก์ชาติ’ งานหิน คือ ข่าวปลอมใน Line ความสุข คือ จดหมายกำลังใจ

“เศรษฐพุฒิ” ผู้ว่าการฯแบงก์ชาติ เปิดใจอำลาตำแหน่ง เผยบทเรียนหินที่สุดคือการต่อสู้กับ “ข้อมูลบิดเบือนใน Line” ที่สร้างความปวดหัวอย่างหนัก แต่สิ่งที่เติมพลังใจให้เขายืนหยัดได้ คือ “จดหมายลายมือจากประชาชน” ที่สะท้อนว่ามาตรการของ ธปท. ช่วยผู้คนพ้นวิกฤติ
ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวเปิดใจถึงความท้าทายในการบริหารนโยบายและการรับมือกับกระแสสังคม
เขายอมรับว่าการทำงานเต็มไปด้วยความเหนื่อยยากและมีหลายเรื่องที่ทำให้หนักใจอย่างยิ่ง แต่ในขณะเดียวกันก็มีความภูมิใจต่อเจตนาที่ได้ทำ อีกทั้งยังได้กำลังใจที่ดีจากความทุ่มเทของทีมงาน
- สงครามข้อมูล: “Line” คือสิ่งที่ปวดหัวที่สุด
ผู้ว่าการฯ ยอมรับว่า อุปสรรคที่ทำให้การทำงาน "ยากเย็นมาก" คือการเผชิญกับข้อมูลข่าวสารที่ไม่ถูกต้อง มีการบิดเบือน และถูก "ปั่น" สิ่งที่สร้างความปวดหัวมากที่สุด คือข้อมูลที่เผยแพร่ผ่านแอปพลิเคชัน Line
มีผู้คนเขียนข้อความที่ไม่รู้ความหมาย ส่งต่อกันใน Line ทำให้เกิดความสับสนไปทั่ว และเมื่อต้องตอบคำถามที่มาจากข้อความเหล่านั้น ก็ทำได้ยากมาก เนื่องจากข้อความมักมีทั้งส่วนที่ผิดและส่วนที่ถูก ปนเปกันอยู่ ที่สำคัญคือ การเขียนเพื่ออธิบายให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องนั้น ยากกว่าการเขียนเรื่องที่ผิด ๆ ที่มันเขียนง่าย ๆ เยอะมาก
ความเหนื่อยล้าในการทำงานครั้งนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบแค่ตัวเขาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงคนรอบข้างที่ต้อง "ซัฟเฟอร์" (เดือดร้อน) ด้วย ทำให้เขาต้องขอร้องว่า "อย่าไปอ่าน" เพราะเป็นข้อความที่บิดเบือน
- ยืนหยัดในเจตนาที่ดี แม้จะถูกตำหนิ
ดร.เศรษฐพุฒิ กล่าวอย่างหนักแน่นถึงหลักการในการทำงานว่า สิ่งที่ทำให้ภูมิใจคือ เจตนาของคนที่ทำงานในองค์กรค่อนข้างดี และทุกคนทุ่มเทอย่างตรงไปตรงมา การตัดสินใจของ ธปท. ไม่ได้มาจากการคิดถึงผลประโยชน์ส่วนตัว หรือการมีวาระซ่อนเร้น (agenda)
“บางครั้งเราก็รู้ว่าจะถูกตำหนิ แต่เราเชื่อว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เช่น การไม่ทำเพราะกลัวถูกด่า(การคงดอกเบี้ย) หรือทำเพราะอยากให้ดูดี(ลดดอกเบี้ย) จะเป็นการ "สร้างปัญหาให้กับผู้ว่าคนต่อไปในระยะยาว"
- ความสุขที่เกิดจากผลลัพธ์ "ที่ไม่เห็น"
ดร.เศรษฐพุฒิ ย้ำว่าหน้าที่เฉพาะของงานธปท. ส่วนใหญ่มักเป็นการ ป้องกันไม่ให้สถานการณ์เลวร้ายกว่าเดิม ซึ่งหากทำหน้าที่ได้ถูกต้อง ผลของการป้องกันวิกฤตนั้นจะกลายเป็นสิ่งที่ "ไม่เห็น" แต่ถ้าหากเกิดความผิดพลาด (พลาด) ทุกคนจะเห็นทันที
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่นำมาซึ่งความสุขและความภูมิใจที่สุดในช่วง 5 ปี คือการเห็นผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม เขายกตัวอย่างความสุขที่ชัดเจน เช่น
- 1. การได้รับคำขอบคุณโดยตรงจากประชาชน
- 2. มาตรการช่วยเหลือหนี้ เช่น พักทรัพย์พักหนี้ ซึ่งมีครั้งหนึ่งที่เขาลงพื้นที่ภาคใต้ มีประชาชนมาขอบคุณ เพราะมาตรการนี้ทำให้ครอบครัวและธุรกิจของพวกเขายังคงอยู่รอดจนถึงทุกวันนี้
- 3. จดหมายที่เขียนด้วยลายมือจากชาวบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรการ Responsible Lending ในเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งทำให้พวกเขาสามารถไปขอปรับโครงสร้างหนี้ได้
“ผมเก็บจดหมายลายมือขอบคุณเหล่านี้ไว้เป็น "แฟ้มกำลังใจ" ทางหน้าห้องทำงาน เวลาที่รู้สึกท้อก็จะหยิบขึ้นมาอ่านเป็นกำลังใจ"
- วิธีบริหารจัดการความเครียด
เมื่อถูกถามถึงวิธีการจัดการความเครียด ท่านระบุว่าเมื่อเกิดความเครียด สิ่งที่ช่วยได้คือการออกกำลังกาย หรือการไปเดินที่สวน
เขากล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า ประสบการณ์ที่เคยเผชิญกับวิกฤตในปี 2540 ถือเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับตัวเขา เพราะทำให้พร้อมที่จะทำอะไรที่ไม่เป็นที่นิยม (ไม่ popular) เพื่อช่วยเหลือในช่วงที่ประเทศมีปัญหาหนัก
นอกจากนี้ เขายังได้กล่าวขอบคุณสื่อมวลชนที่ให้ความเข้าใจที่ถูกต้อง พร้อมทั้งขออภัยหากมีการชี้แจงหรือสื่อสารใด ๆ ที่อาจทำให้ภาพเกิดความคลาดเคลื่อนไป เพราะหากสื่อไม่ช่วยให้ข้อมูลที่ถูกต้อง งานของ ธปท. จะหนักกว่านี้อีกมาก







