ความฝันเอฟวัน ‘สตรีทเซอร์กิต’ ในไทย ถนนแบบไหนและลงทุนแค่ไหนถึงใช้แข่งได้

ถอดรหัสความฝันการแข่งรถเอฟวัน(F1) ‘สตรีทเซอร์กิต’(Street circiut) ในไทย ถนนแบบไหนและลงทุนแค่ไหนถึงใช้แข่งได้?
KEY
POINTS
Key points
- ความคืบหน้าล่าสุดเกิดขึ้นมีขึ้นในช่วง 3 เดือนที่แล้ว โดยรัฐบาลประกาศความพร้อมของประเทศไทย ในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรถยนต์ชิงแชมป์โลก FIA Formula One World Champonship (F1) ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
- การแข่งแบบสตรีทเซอร์กิตยังลดงบประมาณในการลงทุนสร้างสนามแข่งรถแห่งใหม่ที่อาจจะไม่ได้ตอบโจทย์หรือรองรับการใช้งานในระยะยาวทั้งๆที่ต้องลงทุนมหาศาล ที่หากไม่ได้ใช้งานก็อาจกลายเป็นสิ่งก่อสร้างที่ไม่เกิดประโยชน์ใดๆ
- การเนรมิตรแทร็กกลางเมืองขึ้นนั้นเป็นรายละเอียดที่ไม่มีการเปิดเผยมากนัก แต่คาดว่าจะต้องใช้งบประมาณ 270 ล้านเหียญ (8,900 ล้านบาท) ซึ่งเป็นหนึ่งในงบประมาณที่สูงที่สุดในการเตรียมงาน
- หนึ่งในตัวอย่างที่ดีที่สุดสำหรับไทยคือสิงคโปร์ ที่จัดการแข่งขันสิงคโปร์ กรังด์ปรีซ์ มาต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2008 (ยกเว้นปีที่มีโควิด-19) และประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ในการเป็นสตรีท เซอร์กิต ที่แข่งขันกันตอนกลางคืน
การแข่งขันรถฟอร์มูลาวัน ในฤดูกาล 2025 กำลังเข้มข้นเมื่อเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของการแข่งขันแล้ว โดยที่แชมป์โลก 4 สมัยซ้อน แม็กซ์ แวร์สเตปเพน จากที Red Bull เริ่มคืนฟอร์มกลับมาคว้าแชมป์ใน 2 สนามหลังสุดได้ จนเริ่มมีคนหวังว่าจะสร้างปาฏิหาริย์แซงหน้า ออสการ์ พิแอสทรี และแลนโด นอร์ริส แห่งทีม McLaren ที่เป็นผู้นำได้
ในอีกด้านเวลาที่ล่วงเลยมาก็หมายถึงการเข้าใกล้ช่วงเวลาสำคัญที่แฟน “เอฟวัน” ในบ้านเราทุกคนฝัน กับการได้เห็นเหล่าสุดยอดนักแข่งระดับโลกมาดวลความเร็วและความสามารถในการขับขี่ระดับเหนือมนุษย์กันบนแผ่นดินไทย
ณ เข็มนาฬิกาเดินไปนี้แม้จะยังไม่มีการยืนยันจากทางด้านสหพันธ์รถยนต์ระหว่างประเทศ (Fédération Internationale de l'Automobile หรือ FIA) ว่าไทยจะได้เป็นเจ้าภาพการ
แข่งขันในปีปฏิทิน 2028 แต่อย่างใด เรื่องนี้มีคำถามที่น่าสนใจมากมาย ซึ่งนอกเหนือจากประเด็นความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองว่าจะมีผลต่อโครงการเสนอตัวเพื่อชิงเจ้าภาพหรือไม่นั้น
อีกสิ่งที่น่าคิดคือหากจะจัดการแข่งขันแบบ “สตรีทเซอร์กิต” (Street circiut) ในไทยจริง ถนนและเส้นทางของเรามีความพร้อมมากน้อยแค่ไหน ถนนที่จะใช้ต้องมีการปรับปรุงขนาดไหน และจะต้องใช้งบประมาณสักเท่าไรถึงจะดีพอ?
Wrap up สรุป F1 ในไทย
ย้ำกันอีกครั้งว่าจนถึงตอนนี้ยังไม่มีการประกาศยืนยันจากทางด้าน FIA ว่าจะมอบสิทธิ์ให้ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพการแข่งขันรถแข่งฟอร์มูลาวันแต่อย่างใด
ความคืบหน้าล่าสุด เกิดขึ้นมีขึ้นในช่วง 3 เดือนที่แล้ว โดยรัฐบาลประกาศความพร้อมของประเทศไทย ในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรถยนต์ชิงแชมป์โลก FIA Formula One World Champonship (F1) ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
โดยที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบในหลักการ ในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพรวมระยะเวลา 5 ปี นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2571-2575 (2028-2032) ใต้กรอบวงเงินงบประมาณกว่า 41,379 ล้านบาท (1.23 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)
พื้นที่สำหรับใช้จัดการแข่งขันจะอยู่บริเวณพื้นที่เขตจตุจักร จากสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ และบริเวณสวนสาธารณะโดยรอบซึ่งได้รับการพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้วว่ามีความเหมาะสมที่จะใช้สำหรับจัดการแข่งขันในแบบ “การแข่งแบบถนน” (Street circuit) ซึ่งเป็น 1 ใน 2 รูปแบบของการจัดการแข่งขันนอกจากการแข่งภายในสนามแข่งรถ (Circuit) จริงๆ
ทั้งนี้ทางด้าน Formula 1 ในฐานะเจ้าของลิขสิทธิ์การแข่งขันได้ประกาศรายชื่อ 24 สนามที่จะแข่งขันสำหรับฤดูกาล 2026 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีชื่อสนามแข่งใหม่อย่างกรุงมาดริด ที่จะมาแทนที่สนามระดับตำนานอย่าง เอมิเลีย โรมานยา กรังด์ปรีซ์ ที่อิโมลา และจะมีการเปลี่ยนแปลงเจ้าภาพการแข่งขันอีกมาก
นอกจากเอมิเลีย โรมานยา กรังด์ปรีซ์ แล้วคาดว่าดัตช์ กรังด์ปรีซ์ จะหลุดจากผังในปี 2026 เช่นกันกับการแข่งที่เมืองบาร์เซโลนา ส่วนรายการเบลเยียม กรังด์ปรีซ์ ที่สปา ซึ่งเป็นสนามระดับตำนานจะเปลี่ยนมาเป็นเจ้าภาพทุก 2 ปีแทน ซึ่งหมายถึงจะไม่ได้เป็นเจ้าภาพในปี 2028 และ 2030
นั่นคือความเป็นได้และความหวังที่เราจะได้เห็นสุดยอดการแข่งรถบนถนนในประเทศไทย
ทำไมต้องเป็นสตรีทเซอร์กิต?
เหตุผลสำหรับการจัดการแข่งแบบสตรีทเซอร์กิตในประเทศไทยนั้นมาจากเหตุผลหลายอย่างด้วยกัน แต่เหตุผลหลักที่สำคัญที่สุดคือการเข้าถึงและการเดินทาง
ในพื้นที่จตุจักรที่ถูกกำหนดให้เป็นพื้นที่สำหรับจัดการแข่งขันนั้นมีระบบการขนส่งมวลชนสาธารณะที่สะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว, รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน และการขนส่งในระบบอื่นๆที่เชื่อมต่อพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งรวมถึงสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์, สถานีขนส่งหมอชิต 2 และสนามบินดอนเมืองที่สามารถเชื่อมเข้าพื้นที่ในตัวเมืองได้ด้วยรถไฟฟ้าสายสีแดง
ไม่นับเรื่องของโรงแรมที่พักในกรุงเทพมหานครที่มีความพร้อมรองรับผู้ชมที่คาดว่าจะเดินทางมาจากทั่วโลกในหลัก “เรือนแสน” ในช่วงเวลาดังกล่าว
การแข่งแบบสตรีทเซอร์กิตยังลดงบประมาณในการลงทุนสร้างสนามแข่งรถแห่งใหม่ที่อาจจะไม่ได้ตอบโจทย์หรือรองรับการใช้งานในระยะยาวทั้งๆที่ต้องลงทุนมหาศาล ที่หากไม่ได้ใช้งานก็อาจกลายเป็นสิ่งก่อสร้างที่ไม่เกิดประโยชน์ใดๆ
จุดนี้ถือว่าตอบโจทย์ในแง่ของการลดความเสี่ยงในการลงทุน นอกจากนี้การแข่งแบบสตรีทเซอร์กิตยังมีข้อดีในเรื่องของวิวทิวทัศน์ที่จะสวยงามกว่าการแข่งแบบสนามแข่งรถแบบปกติและใช้เป็นจุดขายได้ เช่น โมนาโก กรังด์ปรีซ์ หนึ่งในสนามคลาสสิกที่สุดที่แสดงให้เห็นถึงบ้านเมืองที่สวยงามหรือสิงคโปร์ กรังด์ปรีซ์ ที่เป็นการแข่งขันแบบ Night race หรือแข่งแบบกลางคืน
โดยฉากหลังความสวยงามของเมืองไทยคือสิ่งที่คาดหวังว่าจะเป็นแรงกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวต่อไป
แม้จะอยู่บนข้อสงสัยว่าพื้นที่โซนจตุจักรนั้นไม่ได้มีแลนด์มาร์คอะไร ต่างจากพื้นที่กรุงเทพฯชั้นในอย่างเกาะรัตนโกสินทร์ที่เคยวาดฝันกันเอาไว้ก็ตาม
เปลี่ยนถนนให้เป็นแทร็ก
สิ่งที่ชวนคิดต่อคือแล้วถนนที่ใช้สำหรับการแข่งขันนั้นต้องเป็นอย่างไร?
แน่นอนว่าคงไม่ใช่ถนนที่ไม่เรียบ เป็นหลุม เป็นบ่อ มีฝาท่อระบายน้ำอย่างแน่นอน เพราะถนนที่จะได้รับอนุญาตให้ใช้ในการแข่งขันรถแข่งที่เร็วที่สุดในโลกอย่างเอฟวันนั้นต้องเป็นถนนที่ออกแบบมาเพื่อรองรับโดยเฉพาะเท่านั้น
ตามกฎแล้วแล้วถนนที่ใช้เป็น “แทร็ก” ได้จะต้องได้มาตรฐาน Grade 1 ซึ่งเป็นมาตรฐานของ FIA เท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่ามีราคาที่ต้องจ่ายในส่วนของการปรับพื้นผิวถนนไม่น้อย และไม่ได้เป็นงานที่ง่ายแต่อย่างใด โดยวัสดุที่ใช้คือยางมะตอยที่เคลือบส่วนผสมอีกหลายอย่างเพื่อให้เป็นพื้นผิวที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการแข่งขันรถที่ทำความเร็วสูงที่ต้องการพื้นผิวที่ยึดเกาะถนนได้ดีที่สุด
โดยที่ในส่วนของพื้นผิวนั้นยังมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกมากมายที่ทุกอย่างมีผลต่อการแข่งขันได้ทั้งหมด และจะเป็นสิ่งทีมที่ทีมรถแข่งไปจนถึงนักขับเองต้องประเมินว่าในสนามนี้ ด้วยพื้นผิวแบบนี้ อุณหูมิเท่านี้ พวกเขาจะเลือกใช้ยางแบบไหนสำหรับการแข่งขัน
สิ่งที่พึงระวังคือการเนรมิตรถนนสำหรับรถทั่วไปให้เป็นถนนสำหรับการแข่งรถนั้น ต่อให้สร้างมีดีแค่ไหน ดูแลดีอย่างไร แต่หากเปิดให้ให้งานปกติก็มีโอกาสที่สนามจะเกิดความเสียหาย ซึ่งเคยมีกรณีที่นักขับเสียโอกาสเพราะสนามไม่อยู่ในสภาพสมบูรณ์มาแล้วเช่นกัน
ขณะที่สนนราคาสำหรับการเนรมิตรแทร็กกลางเมืองขึ้นนั้นเป็นรายละเอียดที่ไม่มีการเปิดเผยมากนัก แต่คาดว่าจะต้องใช้งบประมาณ 270 ล้านเหียญ (8,900 ล้านบาท) ซึ่งเป็นหนึ่งในงบประมาณที่สูงที่สุดในการเตรียมงาน
นอกจากนี้ยังมีการสร้างสิ่งปลูกสร้างชั่วคราวสำหรับการแข่งขัน เช่น อัฒจันทร์ขนาดใหญ่เพื่อรองรับแฟนเอฟวันหลายหมื่นจนถึงหลักแสนคนที่จะกระจายหลายจุดทั่วสนามที่มีความยาวต่อรอบยาว 3.4 กิโลเมตร, พิตเลน, พิตสต็อป และอื่นๆอีกมากมายที่เป็นค่าใช้จ่ายจำนวนมหาศาลที่เจ้าภาพต้องจ่าย
สิงคโปร์ กรังด์ปรีซ์ ความสำเร็จที่ควรเดินตาม
แต่ถึงจะเป็นการลงทุนมากมายมหาศาลแค่ไหน การแข่งขันรถเอฟวันคือหนึ่งใน “เครื่องมือ” ที่ยอดเยี่ยมสำหรับการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ
หนึ่งในตัวอย่างที่ดีที่สุดสำหรับไทย คือสิงคโปร์ ที่จัดการแข่งขันสิงคโปร์ กรังด์ปรีซ์ มาต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2008 (ยกเว้นปีที่มีโควิด-19) และประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ในการเป็นสตรีท เซอร์กิต ที่แข่งขันกันตอนกลางคืนที่แสดงให้เห็นถึงวิวและแสงสีที่สดสวย โดยมีมารินา เบย์ แซนด์ เป็นฉากหลัง
การแข่งรถเอฟวัน เป็นหนึ่งในเครื่องมือการประชาสัมพันธ์อันทรงพลังที่มีส่วนในการเปลี่ยนภาพลักษณ์ของประเทศสิงคโปร์ จากประเทศของการค้าและการเงินเป็นประเทศปลายทางสำหรับแฟนกีฬาจำนวนมหาศาลที่จะเดินทางมาเพื่อชมการแข่งขันในทุกปี
ตามรายงานแล้วระบุว่าแฟนเอฟวันมาเยือนสิงคโปร์มากถึง 550,000 ราย และมีจำนวนผู้ชมการถ่ายทอดสดมากถึง 1 พันล้านคน
ผลพวงที่ตามมานี้ทำให้สิงคโปร์กลายเป็นประเทศที่ “เซ็กซี่” ขึ้นมาอย่างมากมายในการท่องเที่ยว และยังส่งผลต่อภาคเศรษฐกิจที่ได้รับอานุสงค์จากเม็ดเงินลงทุนมหาศาลที่เข้ามาด้วย ซึ่งในไทยเองก็เริ่มมีการจัดทัวร์ไปดูการแข่งไนต์เรซที่สิงคโปร์กันมาหลายปีแล้ว ในสนนราคาที่จับต้องได้
คำถามถึงไทย
กลับมาที่เมืองไทยอีกครั้ง กับคำถามที่ชวนขบคิดกันต่อ
ไทยกับการเป็นเจ้าภาพรถแข่งเอฟวันในปี 2028 พวกเขาพร้อมกันมากแค่ไหนสำหรับรถแข่งรายกากรนี้ ซึ่งจนถึงตอนนี้ทุกอย่างยังอยู่ในความเงียบงันอยู่ และไม่รู้ว่าเมื่อการเมืองเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรตามหรือไม่
เพียงแต่หวังความเปลี่ยนแปลงใดๆจะไม่ส่งผลกระทบต่อโครงการระดับเมกะโปรเจ็คต์ที่มีหลายฝ่ายพยายามช่วยกันเพื่อดึงเอฟวันมาจัดในไทยให้ได้ เพราะรู้ว่านี่คือหนึ่งในวิธีการที่จะ “ปัก” ไทยไว้บนหมุดหมายของคำว่า Destination ของโลก โดยเฉพาะในยามที่ภาพลักษณ์ของประเทศบอบช้ำอย่างหนักจากหลายเหตุการณ์ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
การจัดเอฟวันมันมีราคาที่ต้องจ่าย แม้กระทั่งการเปลี่ยนถนนให้เป็นแทร็กเองก็ต้องยอมลงทุนมหาศาลเพื่อถนนระยะทางไม่กี่กิโลเมตร แต่ต้องทำให้ดีที่สุดเพราะนี่เป็นงานที่ไกลกว่าระดับประเทศ เพราะเป็นงานระดับโลก เป็นหน้าเป็นตาของประเทศ
ด้วยความหวังเล็กๆว่าหากลุล่วงจนได้จัดการแข่งขันจริงๆ และจะไม่มีเหตุอะไรไม่คาดฝันเกิดขึ้นอีกเมื่อถึงช่วงของการแข่งขัน
นี่คือโอกาสที่ประเมินค่าไม่ได้สำหรับไทย ที่อาจไม่ถึงกับทำให้ลืมตาอ้าปากกันได้อีกครั้ง แต่อย่างน้อยี่สุดก็มีความหวังมากกว่าเมื่อวานแน่นอน
ขอให้ได้จัด ขอให้โดน!
อ้างอิง
- forbes.com/sites/csylt/2017/03/13/the-1-billion-cost-of-hosting-an-f1-race/?sh=63ee5e0f4f79
- raconteur.net/business-of-f1-2016/how-much-does-it-cost-to-stage-a-grand-prix
- bizofspeed.com/p/f1-track-economics-building-modern-circuits
- espn.com/f1/story/_/id/45531327/thailand-approves-123-billion-bid-2028-bangkok-f1-race
- total-motorsport.com/cost-to-host-f1-race/
- flowracers.com/blog/does-f1-race-on-real-roads/
- www.catapult.com/blog/race-strategy-f1-track-surface







