ราคาทองคำโลก พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขึ้นเกือบ 2%

ราคาทองคำโลก พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันจันทร์ ขึ้นเกือบ 2% ขณะที่นักลงทุนจับตาการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง ธนาคารกลางทั่วโลกยังเข้าซื้อต่อเนื่อง
รอยเตอร์ รายงาน ราคาทองคำโลก พุ่งขึ้นเกือบ 2% สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันจันทร์ (22 ก.ย.68) โดยได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐต่อไป และความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยที่ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องท่ามกลางความไม่แน่นอนทางการเมือง
นักลงทุนกำลังจับตาการแถลงนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) และข้อมูลอัตราเงินเฟ้อที่สำคัญอย่างใกล้ชิด
ราคาทองคำสปอต (Spot Gold) พุ่งขึ้น 1.7% สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3,747.08 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ณ เวลา 14:06 น. ตามเวลาฝั่งตะวันออกสหรัฐ (18:06 GMT)
ราคาทองคำ ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของสหรัฐ (Gold Futures) ส่งมอบเดือนธันวาคม ปิดตลาดสูงขึ้น 1.9% ที่ 3,775.10 ดอลลาร์สหรัฐ
กระทรวงกลาโหมรัสเซีย กล่าวว่า กองกำลังของรัสเซียได้เข้าควบคุมพื้นที่การตั้งถิ่นฐานที่เมืองคาลีนีฟสเก ในเขตดนีปรอเปตรอฟสก์ของยูเครนแล้ว
สตีเฟน มิแรน กรรมการผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ กล่าวว่า ธนาคารกลางควรปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างรุนแรงเพื่อลดความเสี่ยงต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นการปรับลดครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธันวาคม และส่งสัญญาณถึงความเต็มใจที่จะผ่อนคลายนโยบายลงอีก
“ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องท่ามกลางสถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงผันผวน รวมถึงสงครามรัสเซีย-ยูเครน การลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และอาจมีการลดอัตราดอกเบี้ยอีกภายในสิ้นปี” ก็เป็นปัจจัยหนุนราคาเช่นกัน จิม ไวคอฟฟ์ นักวิเคราะห์อาวุโสของ Kitco Metals กล่าว
ตลาดจับตาเงินเฟ้อพื้นฐาน Core PCE
นักลงทุนกำลังจับตาดูการกล่าวสุนทรพจน์ของกรรมการเฟดหลายคนในสัปดาห์นี้ รวมถึงคำกล่าวของประธานเจอโรม พาวเวลล์ ในวันอังคาร เพื่อส่งสัญญาณใหม่ๆ เกี่ยวกับแนวทางนโยบายการเงินของธนาคารกลาง ข้อมูลดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลพื้นฐาน (Core PCE) ของสหรัฐ ในวันศุกร์ก็เป็นประเด็นสำคัญเช่นกัน
ขณะเดียวกัน หลังสิ้นฤดูกาลการซื้อทองคำซบเซาในสหราชอาณาจักร ความต้องการของธนาคารกลางทั่วโลกก็ฟื้นตัวขึ้นมาอยู่ที่ 63 ตัน ซึ่งเท่ากับค่าเฉลี่ยหลังปี 2022 และยิ่งเพิ่มความเชื่อมั่นในการลงทุน ทั้งนี้ธนาคารโซซิเยเต้ เจเนราล ระบุในรายงานเมื่อวันจันทร์
- ราคาโลหะเงิน ตลาดสปอตพุ่งขึ้น 2.1% มาอยู่ที่ 43.99 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 14 ปี
- ราคาแพลทินัม พุ่งขึ้น 1% มาอยู่ที่ 1,418.61 ดอลลาร์
- ราคาแพลเลเดียม ขยับขึ้น 3.3% มาอยู่ที่ 1,186.71 ดอลลาร์
“โลหะเงินอาจยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้อีก เนื่องจากนักลงทุนกำลังจับตามองราคาทองคำที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ ด้วยอัตราส่วนทองคำต่อเงิน (Gold-Silver ratio) ในปัจจุบันที่อยู่ที่ประมาณ 86 ซึ่งยังคงสูงกว่าค่าเฉลี่ยห้าปีที่ 82 เงินจึงยังมีโอกาสที่จะไล่ตามโลหะมีค่าที่มีชื่อเสียงกว่า” ฮัน ตัน หัวหน้านักวิเคราะห์ตลาดของ Nemo.money กล่าว
"เงินอาจยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นใหม่เมื่อผู้ลงทุนเริ่มมองข้ามราคาทองคำที่ทำสถิติสูงสุด ด้วยอัตราส่วนทองคำ-เงินที่ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 86 ซึ่งยังคงสูงกว่าค่าเฉลี่ยห้าปีที่ 82 เงินอาจมีพื้นที่ให้ปรับตัวตามทองคำซึ่งเป็นโลหะมีค่าอีกชนิดหนึ่งที่มีชื่อเสียงมากกว่าได้" Han Tan หัวหน้านักวิเคราะห์ตลาดที่ Nemo.money กล่าว
อัปเดตราคาทองคำเช้านี้
บลูมเบิร์ก รายงานล่าสุดว่าราคาทองคำตลาดสปอตแทบไม่เปลี่ยนแปลง อยู่ที่ 3,747.42 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ณ เวลา 7:42 น. ตามเวลาที่สิงคโปร์ ด้านค่าเงินดอลลาร์นิ่ง โดยดัชนี Bloomberg Dollar Spot ทรงตัว เงินทรงตัว ขณะที่แพลทินัม และแพลเลเดียมปรับตัวสูงขึ้น
ราคาทองคำแท่ง ปรับตัวสูงขึ้นแตะ 3,749.27 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในเอเชียในวันอังคาร (23 ก.ย.68) หลังจากปรับตัวสูงขึ้นในสองวันทำการก่อนหน้า ซึ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ นักลงทุนแห่เข้าซื้อกองทุนรวมดัชนี (ETF) โดยสัดส่วนการถือครองเพิ่มขึ้นเร็วที่สุดในรอบกว่า 3 ปีในวันศุกร์ หลังจากที่ราคาปรับตัวลดลงเล็กน้อยในสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ ลดความคาดหวังเกี่ยวกับการผ่อนคลายนโยบายการเงินอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ธนาคารกลางลดอัตราดอกเบี้ยในวันพุธ โดยทั่วไปแล้ว อัตราดอกเบี้ยที่ลดลงจะส่งผลดีต่อโลหะมีค่าที่ไม่มีดอกเบี้ย
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์






