‘รัฐบาล’ ตั้งวอร์รูม สกัดเงินเทา ‘คลัง’ ประสาน ‘แบงก์ชาติ - ปปง.- ก.ล.ต.’โยงเส้นทางเงิน

“นายกฯ อนุทิน” นำทีมรัฐมนตรีเศรษฐกิจ พบสมาคมธนาคารไทยครั้งแรกรอบ 58 ปี ขอความร่วมมือแก้หนี้ครัวเรือนหนี้เอสเอ็มอี เร่งอัดฉีดสภาพคล่องธุรกิจ มอบโจทย์ “คลัง” สกัดเงินเทา ประสาน ธปท.- ปปง.- ก.ล.ต.เร่งด่วนโยงเส้นทางเงิน เปิดแผนฟื้นเศรษฐกิจไทย “Quick Big Win” สร้างความยั่งยืน และศรัทธาจากนานาชาติ
KEY
POINTS
- รัฐบาล โดยกระทรวงการคลัง ได้จัดตั้งทีมทำงานเฉพาะกิจ (วอร์รูม) เพื่อเร่งแก้ไขปัญหา "เงินเทา" อย่างเร่งด่วนตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี
- เร่งผนึก ธปท. (ปปง.) ก.ล.ต. พร้อมเชื่อมโยงข้อมูล Connect the dots คลายปมเงินเทา
- พร้อมเดินหน้านโยบาย “quick big win” ฟื้นเศรษฐกิจ
- ขอแบงก์เร่งปล่อยสภาพคล่องสู่ระบบเพิ่ม หวังช่วยเอสเอ็มอี-ผู้ประกอบการไทยเข้าถึงสินเชื่อเพิ่ม
ทั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกรอบ 58 ปี หรือรอบประวัติศาสตร์ที่นายกรัฐมนตรีมาพบสมาคมธนาคารไทยเป็นทางการ เพื่อขอความร่วมมือแก้ปัญหาเศรษฐกิจรากหญ้า ตั้งแต่หนี้ครัวเรือน หนี้เอสเอ็มอี จนถึงการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบ พร้อมกำหนด Quick Big Win เร่งฟื้นเศรษฐกิจให้ทันการแข่งขันระดับภูมิภาค และตลาดโลก
นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังหารือว่า การหารือกับสมาคมธนาคารไทยมีเรื่องที่รัฐบาลห่วงใย และขอรับการสนับสนุนจากทางสมาคมธนาคารไทย ประเด็นหลักที่รวมถึงปัญหาหนี้สินประชาชน หนี้เอสเอ็มอี และหนี้ครัวเรือน
ทั้งนี้ รัฐบาลขอความร่วมมือจากสมาคมธนาคารไทยผ่อนปรนหรือเร่งดำเนินการเพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาหนี้ และขอให้เร่งเพื่อให้มีสภาพคล่อง (liquidity) เข้าตลาด สำหรับลูกค้าที่ยังมีศักยภาพการผลิตสินค้าให้เข้าสู่ตลาดได้
โดย ในด้าน “สภาพคล่อง” ได้ขอความร่วมมือภาคธนาคารให้พยายามอัดฉีดเงินเข้าระบบมากขึ้น ไม่เช่นนั้นหากเงินเก่าติดอยู่ แล้วเงินใหม่ไม่เข้าไป เงินเก่าจะหายไปด้วย ซึ่งเป็นหน้าที่ของธนาคารที่ต้องประเมินความเสี่ยง
ขณะเดียวกันผู้ประกอบการเองก็ต้องปรับตัว และจะอยู่เหมือนเดิมไม่ได้เพราะต้องแข่งขันตลอด โดยผู้ประกอบการหลายคนยึดติดรูปแบบเดิมแต่คู่แข่งรอบบ้านพัฒนาขึ้น ดังนั้น ต้องพัฒนาเพิ่มมูลค่า และประสิทธิภาพการผลิตสินค้าต้องดีขึ้น และต้นทุนต้องต่ำลง ซึ่งภาครัฐเองก็ต้องหาช่องทางในการที่ผู้ประกอบการจะสามารถจำหน่ายสินค้าให้มากที่สุด
ทั้งนี้ ได้หารือ นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ว่าไทยยึดติดกับประเทศคู่ค้าที่ใหญ่ที่สุดเพียงประเทศเดียวไม่ได้ ดังนั้นต้องกระจายสินค้าไทย โดยใช้ศักยภาพการผลิต และรัฐบาลจะเร่งสนับสนุนผู้ประกอบการ ซึ่งสินค้าที่ประทับแบรนด์ไทยแลนด์ที่จะต้องได้รับการยอมรับ และได้รับความเชื่อถือ
- ผลักดันธนาคารไทยสู่ผู้นำในภูมิภาคอีกครั้ง
รวมถึงการรับฟังความเห็นสมาคมธนาคารไทยที่กังวลการแข่งขันกับอาเซียน และตลาดโลก ซึ่งจะทำอย่างไรให้ระบบการธนาคารที่เคยเป็นผู้นำกลับคืนมาอีกครั้ง รวมถึงแข่งขันกับตลาดโลกที่มีพื้นฐานการประกอบธุรกิจที่เปลี่ยนแปลง และมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น ซึ่งทีมเศรษฐกิจรัฐบาลมีประสบการณ์ทางการเงินมาค่อนข้างมากจะนำสิ่งที่หารือวันนี้เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติให้เร็วที่สุด
นอกจากนี้ รัฐบาลจะเร่งศักยภาพของไทยผ่านการมูลค่าในเซกเตอร์สำคัญ เช่น การท่องเที่ยว และบริการ รวมถึง Medical Wellness ภาคเกษตรกรรม ทั้งผู้ผลิต ผู้แปรรูป และเกษตรกรที่จะดูแลราคาพืชผลการเกษตร รวมถึงอุตสาหกรรมยานยนต์ และอุตสาหกรรมไฮเทคที่ไทยยังมีพื้นที่มากเพียงพอที่จะรองรับการขยายตัว
- นโยบายรัฐบาลเน้นความมั่นคง-ศก.
สำหรับความคืบหน้าร่างนโยบายรัฐบาลเสร็จแล้ว และจากการหารือกับภาคเอกชนทั้งสมาคมธนาคารไทย หอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และประชาชน จึงนำมาปรับให้ตรงความต้องการทุกภาคส่วนมากที่สุด ซึ่งนโยบายประกอบด้วยความมั่นคง สังคม เศรษฐกิจ ความเป็นอยู่ประชาชน และแผนการทำงานของรัฐบาล
ทั้งนี้การทำงานของรัฐบาลให้สัญญากับทุกภาคส่วนว่า 4 เดือนจะยุบสภา ดังนั้นการออกกฎหมายใหม่คงไม่ทันเพราะปิดสมัยประชุมสิ้นเดือนต.ค.2568
ดังนั้นรัฐบาลจะใช้กฎหมายที่มีให้มากที่สุด ส่วนเรื่องอาชญากรรมที่เข้ามาทำลายเศรษฐกิจหรือผิดกฎหมายจะใช้กฎหมายที่มีไม่ว่าในประเทศหรือข้ามชาติที่จะใช้ตรงนี้อย่างเคร่งครัด
ส่วนการจะไปร่วมประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UN) หรือไม่อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าประธานรัฐสภาให้แถลงนโยบายวันใด ซึ่งเมื่อเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ วันที่ 24 ก.ย.2568 จะประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อหารือเรื่องนี้ และหารือคณะกรรมการกฤษฎีกาและกระทรวงต่างประเทศเพื่อให้เกิดความชัดเจนเกี่ยวกับสถานะรัฐบาลในการเข้าร่วมประชุม UN หรือไม่ ซึ่งต้องทำให้ประเด็นชัดเจน
- ตั้งทีมแก้ ‘บาทแข็งค่า-คลายปม ‘เงินเทา’
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กรณีความกังวลเงินบาทแข็งค่า และ “เงินเทา” ตามนโยบายนายกฯ ต้องเร่งสร้างความชัดเจนเรื่องนี้เร่งด่วน และได้ประสานงานกระทรวงการคลัง ให้เชื่อมข้อมูล
รวมทั้งสมาคมธนาคารไทยฉายภาพให้เห็นต้นเหตุ และพบว่าค่าเงินมีหลายส่วนเกี่ยวข้องค่อนข้างมาก ทั้งเกี่ยวกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.), สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) รวมถึงสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้ประสานงานกับปลัดกระทรวงการคลัง เพื่อจัดตั้งทีมทำงานร่วมกัน เพื่อทำงานร่วมกันและเพื่อตอบโจทย์ Connect the dots เพื่อเชื่อมโยงให้เห็นว่าเงินมาจากส่วนใดเพื่อแก้ปัญหาให้ตรงจุดและจะดำเนินการทันที
นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า ประเด็นค่าเงินบาท และเงินเทาได้รายงานนายกฯ โดยต้องเร่งเชื่อมโยงข้อมูล เพราะการขับเคลื่อนเงินทุนถูกผ่านหลายรูปแบบทั้งตลาดเงินตลาดทุน ตลาดอัตราแลกเปลี่ยนที่เป็นทั้งระบบธนาคาร และไม่ใช่ระบบธนาคาร
รวมถึงการเคลื่อนย้ายกิจกรรมที่เป็น Physical ทั้งหมดนี้อยู่ระหว่างการเร่งเชื่อมโยงข้อมูล ซึ่งเข้าใจว่า ธปท.และ ปปง.เร่งดำเนินการ
- เร่งฟื้น ศก.ไทยเน้นผลระยะสั้นแต่ได้ผลยั่งยืน
นายเอกนิติ กล่าวว่า สิ่งที่หารือร่วมกับสมาคมธนาคารไทยในประเด็นหลัก คือ แนวทางการฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยเพราะมีปัญหาเศรษฐกิจค่อนข้างมาก และมีปัญหาเชิงโครงสร้างสูง สิ่งที่ตกลงร่วมกันตามนโยบายของนายกฯ คือ จะฟื้นเศรษฐกิจไทยอย่างไรให้เร็วแต่เป็นการฟื้นฟูแบบยั่งยืนด้วย โดยเน้นให้ผลระยะสั้นแต่มีผลระยะยาว
ทั้งนี้ รัฐบาลให้ความสำคัญกับการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจให้ยั่งยืน เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน และแก้ปัญหาเก่าที่สะสมมานาน เช่น หนี้ครัวเรือนที่จะทำงานร่วมกับสมาคมธนาคารไทย
รวมถึงปัญหาสภาพคล่องเอสเอ็มอี ซึ่งต้องการให้ไปถึงผู้ประกอบการมากขึ้น แต่ไม่ใช่เพียงแค่ปัญหาระยะสั้นด้านสภาพคล่องเท่านั้น แต่ต้องเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อให้ SMEs สู่โลกยุคใหม่ ให้เขาแข่งขันได้ และเก่งขึ้นผ่านการพัฒนาทักษะเพิ่มขึ้น
นายผยง ศรีวณิช กล่าวว่า การหารือครั้งนี้ครอบคลุมประเด็นสำคัญทั้งหนี้ครัวเรือน การแข่งขันภาคอุตสาหกรรม และนโยบายเศรษฐกิจ โดยสมาคมธนาคารไทยฝากให้พิจารณาหนี้ครัวเรือนที่เป็นปัญหาแกนหลักประเทศ รวมทั้งรัฐบาลกำหนดแผนปฏิบัติการแบบ “quick big win” ภายใน 4 เดือนที่จะประกาศยุบสภาเพื่อเร่งแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม
สำหรับสภาพคล่องของธนาคารในปัจจุบันไม่ถือว่ามีปัญหา แต่การไหลของเงินไปยังจุดที่ต้องการยังไม่เพียงพอ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องเร่งดำเนินการร่วมกับรัฐบาล ขณะเดียวกันต้องรอให้รัฐบาลแถลงนโยบายต่อรัฐสภาเพื่อความชัดเจนในการดำเนินงานมากขึ้น
ทั้งนี้การพบปะครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ในรอบ 58 ปีที่นายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาพบสมาคมธนาคารไทยพร้อมคณะรัฐมนตรีทีมเศรษฐกิจ เพื่อมีการแลกเปลี่ยนข้อมูล และแนวทางการแก้ไขปัญหาภาคประชาชน และการจ้างงานอย่างชัดเจน
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







