ประกันสังคมเพิ่มวงเงิน! ลูกจ้างบาดเจ็บจากงาน รับค่ารักษาได้ถึง 1 ล้านบาท

ประกันสังคมเพิ่มวงเงิน! ลูกจ้างบาดเจ็บจากงาน รับค่ารักษาได้ถึง 1 ล้านบาท

รู้จัก "กองทุนเงินทดแทน" ในระบบประกันสังคม เพื่อรักษาพยาบาลเมื่อลูกจ้างได้รับอันตราย เจ็บป่วย สูญเสียอวัยวะ หรือเสียชีวิต จากการทำงาน วงเงิน สูงสุด 1 ล้านบาท

ในโลกของการทำงาน แม้จะมีมาตรฐานความปลอดภัยในสถานประกอบการที่สูงขึ้นเรื่อยๆ แต่ความ เสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุจากการทำงานก็ยังคงเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะในกลุ่มแรงงานที่ทำงานในสายงานอุตสาหกรรม การก่อสร้าง และงานภาคสนาม ที่อาจต้องเจอกับอันตรายทั้งทางร่างกายและสุขภาพอย่างไม่คาดฝัน

ดังนั้น สำนักงานประกันสังคม จึงได้ออกประกาศปรับเพิ่ม “วงเงินค่ารักษาพยาบาล” ให้กับลูกจ้างที่ได้รับบาดเจ็บจากการทำงาน โดยสามารถได้รับการดูแลรวมสูงสุดไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อราย ซึ่งนับเป็นการพัฒนาเชิงนโยบายที่ตอบสนองต่อค่าครองชีพและค่ารักษาพยาบาลในยุคปัจจุบันได้อย่างแท้จริง

อะไรคือ “กองทุนเงินทดแทน”

กองทุนเงินทดแทน เป็นหนึ่งในสวัสดิการหลักที่อยู่ภายใต้ระบบประกันสังคม ซึ่งนายจ้างจะต้องนำส่งเงินสมทบเข้ากองทุนดังกล่าวทุกเดือน เพื่อใช้จ่ายในกรณีลูกจ้างได้รับ “อันตราย เจ็บป่วย สูญเสียอวัยวะ หรือเสียชีวิต” อันเนื่องมาจากการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุในสถานประกอบการ การเจ็บป่วยจากสารเคมี หรือแม้กระทั่งโรคที่เกิดจากการทำงานสะสม เช่น โรคปอดฝุ่นหิน หรือออฟฟิศซินโดรมในระดับรุนแรง

เมื่อลูกจ้างประสบเหตุ กองทุนจะรับภาระจ่ายค่ารักษาพยาบาล รวมถึงจ่ายเงินทดแทนในกรณีต้องหยุดงานชั่วคราว ทุพพลภาพ หรือเสียชีวิต โดยไม่เกี่ยวข้องกับเงินสมทบจากลูกจ้างเลยแม้แต่น้อย

รายละเอียดการเพิ่มวงเงินล่าสุด

1. วงเงินค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้น

สำนักงานประกันสังคมได้ปรับเพิ่มวงเงินค่ารักษาพยาบาลสำหรับลูกจ้างที่ได้รับอุบัติเหตุหรือบาดเจ็บจากการทำงาน จากเดิม 50,000 บาท เป็น 65,000 บาท ซึ่งครอบคลุมการรักษาในสถานพยาบาลที่สำนักงานฯ กำหนด ทั้งโรงพยาบาลรัฐและเอกชน

2. ค่ารักษาพยาบาลเพิ่มเติม

ในกรณีที่วงเงิน 65,000 บาทยังไม่เพียงพอ และลูกจ้างจำเป็นต้องรักษาต่อเนื่องหรือต้องผ่าตัด นายจ้างสามารถเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลเพิ่มเติมให้ลูกจ้างได้อีก ไม่เกิน 100,000 บาท รวมเป็นวงเงินสูงสุด 165,000 บาท

3. การเบิกจ่ายเพิ่มเติมจากกองทุน

หากวงเงินดังกล่าวยังไม่เพียงพอ กองทุนสามารถอนุมัติการเบิกจ่ายค่ารักษาเพิ่มเติมเป็นลำดับ สามารถอธิบายได้ดังนี้

• เพิ่มได้ถึง 300,000 บาท
• หากยังไม่พอ สามารถยื่นขอวงเงินรวมได้สูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท
• และในกรณีบาดเจ็บรุนแรงต้องรักษาต่อเนื่อง สามารถยื่นขอวงเงินสูงสุดได้ถึง 1,000,000 บาทต่อราย

4. ค่าทดแทนรายได้

หากแพทย์มีคำสั่งให้ลูกจ้างพักรักษาตัวจากการเจ็บป่วยที่เกิดจากการทำงาน จะมีสิทธิได้รับค่าทดแทนรายได้ ร้อยละ 70 ของค่าจ้างรายเดือน โดยไม่เกินฐานเงินเดือน 20,000 บาท หรือคิดเป็นเงินสูงสุด 14,000 บาทต่อเดือน จ่ายได้สูงสุด 1 ปี (12 เดือน)

5. ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพ

สำนักงานประกันสังคม ยังให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายหลังจากการรักษา เช่น

• ค่ากายภาพบำบัดไม่เกิน 200 บาท/วัน
• ค่าฝึกอาชีพ ค่าวัสดุอุปกรณ์ช่วยเหลือ
• วงเงินค่าฟื้นฟูรวมสูงสุดได้ถึง 180,000 บาท ขึ้นอยู่กับความจำเป็นและแผนฟื้นฟูที่แพทย์แนะนำ
6. ค่าทำศพในกรณีเสียชีวิตจากการทำงาน

หากลูกจ้างเสียชีวิตจากอุบัติเหตุหรือโรคที่เกิดจากการทำงาน กองทุนจะจ่าย ค่าทำศพ 50,000 บาท ให้แก่ทายาทหรือผู้มีสิทธิ

เงื่อนไขการใช้สิทธิ

• ลูกจ้างต้องเป็นผู้ประกันตนตาม มาตรา 33 และยังคงทำงานในสถานประกอบการอยู่ในวันที่เกิดเหตุ
• นายจ้างมีหน้าที่แจ้งการประสบอันตรายต่อสำนักงานประกันสังคม ภายใน 15 วัน
• ลูกจ้างต้องมี ใบรับรองแพทย์ และหลักฐานประกอบตามที่สำนักงานฯ กำหนด
• การเบิกจ่ายเพิ่มเติมจะต้องผ่านการพิจารณาและอนุมัติจากคณะกรรมการแพทย์ของสำนักงานประกันสังคม

ผลดีที่เกิดขึ้นจากการเพิ่มวงเงิน

1. ลดภาระค่าใช้จ่ายแก่ลูกจ้าง ที่ได้รับบาดเจ็บจากการทำงานอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะผู้ที่ต้องรักษาตัวระยะยาวหรือเข้ารับการผ่าตัด

2. สร้างแรงจูงใจให้นายจ้างพัฒนาเรื่องความปลอดภัยในการทำงาน เพราะค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นบางส่วนอาจต้องมาจากนายจ้างโดยตรง

3. เสริมความมั่นใจให้แรงงานไทย ว่าเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน จะได้รับการดูแลจากรัฐอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม

4. ตอบรับต้นทุนค่ารักษาที่เพิ่มขึ้นในระบบสาธารณสุขปัจจุบัน อย่างสอดคล้องกับความเป็นจริงทางเศรษฐกิจ

สรุป การขยายวงเงินค่ารักษาพยาบาลในครั้งนี้ ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการพัฒนาระบบประกันสังคมของไทย โดยมีเป้าหมายในการคุ้มครองแรงงานในระบบให้ดียิ่งขึ้น และลดผลกระทบทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดจากอุบัติเหตุในระหว่างทำงาน วงเงินสูงสุดที่ให้ความคุ้มครองถึง 1 ล้านบาท สะท้อนถึงความตั้งใจจริงของภาครัฐและสำนักงานประกันสังคมในการส่งเสริมความมั่นคงในชีวิตและยกระดับสวัสดิการของผู้ใช้แรงงานอย่างเป็นรูปธรรม

ทั้งนี้ ลูกจ้างและนายจ้างควรติดตามข่าวสารและศึกษาสิทธิประโยชน์ให้เข้าใจ เพื่อให้สามารถใช้สิทธิได้อย่างครบถ้วน และดำเนิน การตามขั้นตอนของสำนักงานฯ ได้อย่างถูกต้อง หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนประกันสังคม 1506 หรือสำนักงานประกันสังคมทั่วประเทศ

 

อ่านบทความน่ารู้เกี่ยวกับภาษี เพิ่มเติม คลิกที่นี่
Source : Inflow Accounting