‘ชาติศิริ’ เตือน ‘ธุรกิจแบงก์’ ปรับตัว รับแรงกระเพื่อม ‘เทคโนโลยีดิสรัป’

‘ชาติศิริ’ เตือน ‘ธุรกิจแบงก์’ ปรับตัว รับแรงกระเพื่อม ‘เทคโนโลยีดิสรัป’

"ชาติศิริ" นายแบงก์ "ธนาคารกรุงเทพ" เตือนโลกธุรกิจ และภาคการเงินกำลังเผชิญการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ จากการเข้ามาของ "เทคโนโลยี" ความท้าทายจากต่างประเทศ ส่งผลองค์กรทุกขนาดต้องปรับตัวเพื่อความอยู่ "รอด" ชี้ "ดิจิทัล-เทคโนโลยี" เป็นแกนหลักสร้างความได้เปรียบการแข่งขัน ด้านแบงก์กรุงเทพเร่งยกระดับพนักงาน-ปรับองค์กรใหม่

KEY

POINTS

  • ชาติศิริ ชี้ เทคโนโลยีไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นปัจจัยกำหนดทิศทางธุรกิจ เพื่อรับมือพฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนไป
  • การยกระดับทักษะบุคลากรให้ทำงานร่วมกับเทคโนโลยีสมัยเป็นสิ่งจำเป็น ควบคู่การใช้   AI เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และรักษาขีดความสามารถในการแข่งขัน
  • ชี้ธุรกิจธนาคารในอนาคต จะเปลี่ยนจากธนาคารดั่งเดิมสู่แบงก์ที่ให้บริการเฉพาะรายบุคคล-ปรับการให้บริการตามดาต้า 
  • ย้ำ ธุรกิจต้องเผชิญการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างห่วงโซ่อุปทานโลก ชี้ เทคโนโลยีจะเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความแตกต่าง และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน

ปัจจุบันภาคธนาคาร-ภาคการเงิน ต่างกำลังเผชิญการเปลี่ยนแปลง และเผชิญความท้าทายรอบด้าน โดยเฉพาะจาก “เทคโนโลยี” ที่เข้ามาดิสรัปชัน ที่ส่งผลให้พฤติกรรมลูกค้า ส่งผลให้เกิดการปรับโครงสร้างการลงทุนทั่วโลก

ดังนั้น การอยู่รอดได้นั้น จำเป็นต้องปรับตัวทั้งบุคลากร การให้บริการ กลยุทธ์การบริหาร เพื่อสร้างความยั่งยืน และรักษาความสามารถในการแข่งขันให้มากขึ้น

นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL กล่าวในงานสัมมนาที่จัดโดย “สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย หรือ TMA” ภายใต้ธีม FUTURE FORUM 2025 | THE GREAT TRANSFORMATION ถึงการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่กำลังเกิดขึ้นในโลกธุรกิจ และภาคธนาคาร ที่ต่างกำลังขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ จากการมาของดิจิทัล และเทคโนโลยีที่เห็นชัดเจนมากขึ้น

ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และการเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่บางส่วนของธุรกิจ แต่เป็นสิ่งที่บริษัทขนาดใหญ่ก็กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงในลักษณะเดียวกัน

ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงพลวัตของโลก ที่ทำให้องค์กรทุกขนาดต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอด และความสำเร็จในบริบทนี้

โดยมองว่าหัวใจสำคัญของความสำเร็จคือ การเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลของเทคโนโลยี ที่เป็นพลังขับเคลื่อนกระแสหลักในขณะนี้

การเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลไม่ได้เป็นเพียงทางเลือก แต่เป็นปัจจัยกำหนดทิศทางของการดำเนินธุรกิจ และกลยุทธ์ในปัจจุบัน ทำให้องค์กรต้องนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เป็นแกนหลักในการขับเคลื่อน และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน

ทั้งนี้ ในมุมของการพัฒนาบุคลากรในยุคเทคโนโลยีเพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง สำหรับธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกำลังยกระดับบุคลากร โดยเฉพาะมีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี

โดยเฉพาะ AI อย่างแพร่หลายมากขึ้น โดยเฉพาะการนำ AI มาประยุกต์ใช้อย่างไรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานเพิ่มขึ้น ดังนั้นพนักงานต้องมีความรู้ และทักษะที่จำเป็นในการทำงานร่วมกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน และความเหมาะสมกับความต้องการของตลาด

ขณะที่ มองว่าปัจจุบันภาคธนาคารกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ จากการขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี โดยเฉพาะการชำระเงินดิจิทัลได้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงมากมาย โดยในปัจจุบันการทำธุรกรรมกว่า 90% ของธุรกรรมต่างๆ สามารถทำได้ผ่านโมบายแบงกิ้ง

ส่งผลให้การเผชิญหน้ามีน้อยลงมาก และมีเพียงไม่กี่กรณีเท่านั้นที่จำเป็นต้องมีการดำเนินการผ่านสาขา

โดยโจทย์ของธนาคารขณะนี้คือ การมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าของเราอย่างไร จะใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่มีอยู่มากมาย ได้อย่างไรอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้เราสามารถปรับแต่งบริการให้ตรงตามความต้องการเฉพาะบุคคล และคาดการณ์ความต้องการของลูกค้าได้ล่วงหน้า สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นส่วนสำคัญที่เราต้องลงมือทำมากขึ้น

จากแบงก์ดั่งเดิมสู่ธนาคารที่เน้นให้บริการเฉพาะบุคคล

ดังนั้น เทคโนโลยีเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่จะขับเคลื่อนปัจจัยเหล่านี้ สะท้อนให้เห็นถึงการปรับเปลี่ยนโมเดลการให้บริการของธนาคารจากเดิมสู่การบริการที่เน้นความเป็นส่วนตัว และการใช้ข้อมูลหรือดาต้าเป็นหลัก

ทั้งนี้ มองว่าการเปลี่ยนแปลงในการปรับโครงสร้างห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก ทำให้เกิดแนวโน้มชัดเจนของการย้ายการลงทุนจำนวนมากไปจีน แต่ในปัจจุบันเห็นการลงทุนเคลื่อนย้ายไปยังประเทศอินเดีย และล่าสุดเห็นการลงทุนที่ย้ายเข้าสู่สหรัฐ

“คาดว่าภายในระยะเวลา 5 ปี ถึง 10 ปีนับจากนี้ เราจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของประเภทการลงทุนที่เกิดขึ้น ดังนั้น ภายใต้สถานการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นที่บริษัทต่างๆ จะต้องสร้างความแตกต่าง หรือสร้างจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ เพื่อให้สามารถอยู่รอด และเติบโตได้ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของภูมิทัศน์การลงทุน และห่วงโซ่อุปทานโลก”

นอกจากเรื่องการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล และการปรับโครงสร้างห่วงโซ่อุปทานแล้ว ยังต้องให้ความสำคัญกับความยั่งยืนที่สำคัญอย่างมาก โดยปัจจุบันเริ่มเห็นเทคโนโลยีเข้ามาเป็นภาคส่วนที่ขับเคลื่อนความยั่งยืนมากขึ้น นั่นหมายความว่า การนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้เพื่อเป้าหมายด้านความยั่งยืน

ควบคู่ไปกับการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ จะเป็นกุญแจสำคัญในการเผชิญหน้ากับความท้าทายในปัจจุบัน และอนาคต

อย่างไรก็ตาม มองการมาของเทคโนโลยี ถือเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ได้ซึ่ง ESG หรือ Environmental, Social, and Governance และหากนำเทคโนโลยีมาใช้ได้อย่างเหมาะสม จะสามารถสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันให้กับหลายบริษัท และกลยุทธ์ที่นำไปสู่ความได้เปรียบทางธุรกิจอย่างยั่งยืน

ธุรกิจธนาคารอยู่ท่ามกลางความท้าทาย

ชาติศิริ กล่าวต่อว่า ภาพรวมธุรกิจธนาคารยังคงมีความท้าทาย เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายในระดับโลก ซึ่งภาครัฐ และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ดำเนินการรักษาเสถียรภาพ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน

ซึ่งในส่วนของธนาคารกรุงเทพพยายามช่วยเหลือดูแลลูกค้า และผู้ประกอบการอย่างใกล้ชิด และช่วยลูกค้าปรับตัว และวางแผนธุรกิจ เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน โดยใช้เครือข่ายสาขาที่มีอยู่ทั้งใน และต่างประเทศในการขยายธุรกิจ โดยรวมการปล่อยสินเชื่อจะพยายามทำให้ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งธนาคารยังให้ความสำคัญกับสินเชื่อต่างประเทศ

ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ธนาคารยังไม่ได้เห็นการเพิ่มขึ้นของเอ็นพีแอลที่มีความผิดปกติแต่อย่างใด ทั้งในส่วนของลูกค้ารายใหญ่ และธุรกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) และยังอยู่ในวิสัยการบริหารจัดการได้ และดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด

โดยธนาคารยังไม่ได้มีแผนการตัดขายหนี้เอ็นพีแอลให้กับบริษัท บริหารสินทรัพย์ (AMC) แต่อย่างใด

แบงก์กรุงเทพเดินหน้าปรับองค์กร

ขณะที่ผลกระทบจากแนวโน้มดอกเบี้ยขาลงต่อส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ของธนาคารนั้น ยอมรับว่า มีผลกระทบบ้าง แต่เชื่อว่าสามารถบริหารจัดการได้ โดยธนาคารพยายามหารายได้จากแหล่งอื่นมาชดเชย เช่น รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย (Fee Income) เป็นต้น อย่างไรก็ดี มองว่า แนวโน้มดอกเบี้ยขาลงน่าจะช่วยลูกค้าในการลดภาระหนี้ได้มากขึ้นด้วย

สำหรับการเปลี่ยนแปลงของธนาคารในการลดขนาดองค์กรนั้น เป็นสิ่งที่ธนาคารกรุงเทพมีการปรับเปลี่ยนตลอด โดยการนำเทคโนโลยี และจุดแข็งของเครือข่ายช่วยเหลือลูกค้าในการขยายธุรกิจ รวมถึงเจ้าหน้าที่สามารถให้ข้อมูลต่างๆ ให้บริการลูกค้าได้มีประสิทธิภาพ ดังนั้น แนวโน้มพนักงาน และสาขา มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

นายชาติศิริ ยังให้ความเห็นเกี่ยวกับหน้าตาคณะรัฐบาลใหม่ว่า จากรายชื่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยเฉพาะทีมเศรษฐกิจที่มีออกมานั้น ถือเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถที่จะนำเสนอแนวนโยบายที่จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการ เพื่อให้เศรษฐกิจสามารถเดินหน้าต่อไปได้

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์