เปิดบันทึก ผู้สมัครผู้ว่าการธปท. หวัง เปลี่ยน‘ธปท.‘ สู่ “ผู้ออกแบบระบบเศรษฐกิจการเงิน”

เปิดบันทึก ผู้สมัครผู้ว่าการธปท.  หวัง เปลี่ยน‘ธปท.‘ สู่ “ผู้ออกแบบระบบเศรษฐกิจการเงิน”

“สมประวิณ” เปิดบันทึก แนวทางบริหารธปท. ตั้งแต่เริ่มสมัครชิงผู้ว่าการฯ แบงก์ชาติ ชี้อยากทำในสิ่งที่เชื่อว่าจะช่วยให้เศรษฐกิจไทยดีขึ้นในเชิงโครงสร้าง

"สมประวิณ มันประเสริฐ" นักเศรษฐศาสตร์ชั้นนำของไทย อดีตผู้สมัครผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ผ่านมา โพสต์เฟซบุ๊ก เปิดบันทึกการสมัครผู้ว่าการธปท.

จากการ ‘เริ่มทำ’ สู่พลังการเปลี่ยนเศรษฐกิจไทย: บันทึกจากการสมัครผู้ว่าการ ธปท. 

ปี 2568 ผมตัดสินใจสมัครเข้ารับการสรรหาเป็นผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ไม่ใช่เพราะ “อยากเป็น” แต่เพราะ “อยากทำ” – ทำในสิ่งที่เชื่อว่าจะช่วยให้เศรษฐกิจไทยดีขึ้นในเชิงโครงสร้าง

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ผมได้ติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจไทยอย่างใกล้ชิด และสรุปได้อย่างไม่มีข้อสงสัยว่า เรากำลังติดกับดักการเติบโตต่ำ ความเหลื่อมล้ำที่รุนแรง และความไม่ทั่วถึงในการเข้าถึงโอกาสทางเศรษฐกิจ ความท้าทายเหล่านี้ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยเครื่องมือชุดเดิมที่เน้นแต่เสถียรภาพโดยละเลยประสิทธิภาพและความทั่วถึง

 

 

 

ในฐานะนักเศรษฐศาสตร์มหภาคที่มีประสบการณ์ทำงานในภาคการเงิน ผมเชื่อว่า “ระบบเศรษฐกิจการเงิน” คือกลไกสำคัญในการจัดสรรทรัพยากรของประเทศ แต่ในปัจจุบันกลไกนี้ยังทำงานได้อย่างไม่เต็มประสิทธิภาพ เพราะถูกจำกัดด้วยโครงสร้างสถาบัน ข้อมูลไม่สมบูรณ์ กลไกจูงใจที่บิดเบี้ยว และพื้นที่เชิงนโยบายที่ไม่เปิดกว้างพอให้เกิดนวัตกรรมหรือของใหม่

ด้วยเหตุนี้ ผมจึงตัดสินใจลาออกจาก SCB อย่างเป็นทางการตั้งแต่ 31 มีนาคม เพื่อทุ่มเวลาทั้งหมดไปกับการเตรียมข้อเสนอเชิงนโยบายสำหรับตำแหน่งนี้ โดยมีจุดมุ่งหมายชัดเจนว่า ถ้าจะอาสาเป็น “หัวหน้าทีมออกแบบระบบเศรษฐกิจการเงินไทย” คนต่อไป จะต้องมองปัญหาทั้งองค์รวม มีแนวทางที่ชัดเจนจับต้องได้ และสามารถลงมือทำได้จริง

ข้อเสนอ: ระบบเศรษฐกิจการเงินที่ “ทั่วถึง มีประสิทธิภาพ และเสถียรภาพ”

ผมและทีมงานเล็ก ๆ ได้ทำงานหนักตลอด 2 เดือนเพื่อพัฒนาแนวคิดที่ตอบโจทย์นี้ เราเริ่มจากการวิเคราะห์ปัญหาเศรษฐกิจไทยอย่างเป็นระบบ แล้วออกแบบข้อเสนอใน 3 มิติหลัก ได้แก่

  •  ความทั่วถึง (Inclusion): เช่น ระบบบัญชีหลายระดับ (Tiered Account Services) และโครงการศูนย์ข้อมูลเครดิตเชิงพาณิชย์ (Commercial Credit Reference) เพื่อให้ประชาชนและ SME เข้าถึงบริการทางการเงินที่ปลอดภัยและเหมาะสมกับบริบทของตน
  • ประสิทธิภาพ (Efficiency): เช่น กลไก Credit Mediator เพื่อเชื่อมข้อมูลและประเมินความเสี่ยงร่วมระหว่างภาคธุรกิจและสถาบันการเงิน ลดอุปสรรคในการปล่อยสินเชื่อ
  • เสถียรภาพ (Stability): เช่น การใช้มาตรการ Countercyclical Capital Buffer (CCyB) อย่างยืดหยุ่น การปรับปรุงการดำเนินนโยบายการเงิน และการพัฒนาระบบจัดการหนี้เสียให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ข้อเสนอทั้งหมดนี้ถูกออกแบบให้อยู่ภายใต้บทบาทของ ธปท. และสามารถดำเนินการได้ทันที ไม่ได้เป็นแค่แนวคิดในอากาศ แต่มี Execution Plan กำกับทุกโครงการ และอ้างอิงจากกรณีศึกษาจริงจากต่างประเทศ

#ประสบการณ์ในกระบวนการสรรหา

เมื่อถึงวันยื่นใบสมัคร ผมเดินทางไปด้วยตัวเอง เพราะรู้สึกว่านี่คืออีกหนึ่งประสบการณ์ในชีวิตที่สำคัญและน่าจดจำ จากนั้นใช้เวลาอีก 3 สัปดาห์ในเตรียมแผนการนำเสนอวิสัยทัศน์ (ที่ประกอบไปด้วย แผนการทำงาน ผู้เกี่ยวข้อง ตัวชี้วัดความสำเร็จ ฯลฯ) อย่างไรก็ดี การนำเสนอได้ถูกจำกัดเวลาไว้เพียง 10 นาที และมีเวลาตอบคำถามจากรรมการฯ อีก 20 นาที

แม้เวลาจะสั้น แต่ผมใช้โอกาสนี้นำเสนอภาพใหญ่ของการเปลี่ยนผ่านบทบาท ธปท. จาก “ผู้รักษาเสถียรภาพ” สู่ “ผู้ออกแบบระบบเศรษฐกิจการเงิน” ที่ทำงานเชิงรุก มีบทบาทมากขึ้นกับภาคเศรษฐกิจจริงและชีวิตประชาชน

หลังนำเสนอ ผมรู้ว่าผลลัพธ์อาจไม่เป็นอย่างที่หวัง และท้ายที่สุดก็มีผู้สมัครท่านอื่นได้รับการคัดเลือก

แม้ไม่ได้ถูกเสนอชื่อ แต่สิ่งที่ผมได้รับกลับมีค่ามาก – มิตรภาพ คำแนะนำ ความหวัง และพลังสนับสนุนจากผู้คนหลากหลายที่เห็นความตั้งใจและเนื้อหาของข้อเสนอ แล้วช่วยส่งต่อ ช่วยแชร์ ช่วยแสดงความคิดเห็น หรือแม้แต่ส่งแรงใจมาให้โดยไม่รู้จักกัน# มื้ออาหารและเครือข่ายเปลี่ยนเศรษฐกิจไทย

#มื้ออาหารและเครือข่ายเปลี่ยนเศรษฐกิจไทย

คืนวันหลังทราบผล อาเตา อาหงิด ชวนผมกับน้อยไปทานข้าวที่บ้านในบรรยากาศเป็นกันเอง ก่อนมื้ออาหารจะเริ่มขึ้น อาเตาหยิบมือถือขึ้นมาโทร พอปลายสายรับ แกพูดขำ ๆ พร้อมกับรอยยิ้มว่า

     “จ๋วง...มึงว่างไม๊ มากินข้าวกับท่านผู้ว่าฯ สอบตกกัน”

ทุกคนหัวเราะ แล้วอีกฝ่ายตอบว่า 

     “อ๋อ ไปกินกับเครือข่ายบรรยงเหรอพี่...”

แกตอบทันที

     “เครือข่ายบรรยงก็มีกูคนเดียวนี่แหละ และเท่าที่นั่งอยู่ตรงนี้”

เสียงหัวเราะตามมาอีกครั้ง ผมไม่ได้พูดอะไรแต่เถียงในใจ ผมรู้ว่าเครือข่ายของผมมีมากกว่านั้น เครือข่ายของผมคือทุกคนที่ยังเชื่อว่า “ระบบเศรษฐกิจไทยต้องเปลี่ยนแปลงได้” คือผู้ที่พร้อมส่งต่อแนวคิด สนับสนุนข้อเสนอ แนะนำ เสนอแนะ แสดงความเห็น เพื่อให้เสียงของนโยบายที่ดีถูกได้ยินและต่อยอดต่อไป

แม้ผมจะไม่ได้โอกาส “ได้ทำ” ในตำแหน่งนั้น แต่ผมได้ “เริ่มทำ” ไปแล้ว และหวังว่าการเริ่มทำของผมจะช่วยจุดประกายให้คนอื่นลุกขึ้นมาทำในสิ่งที่ตัวเองทำได้...ให้กับเศรษฐกิจไทย

#เปลี่ยนเศรษฐกิจไทยไปด้วยกัน

สุดท้ายผมขอขอบคุณ ผู้เกี่ยวข้องกับกระบวนการสรรหา ที่เปิดโอกาสให้ผมได้แสดงวิสัยทัศน์

ขอบคุณ ผู้ร่วมอุดมการณ์ทุกคน ที่ร่วมแลกเปลี่ยน ถกเถียง พัฒนาแนวคิดกันอย่างเข้มข้น

ขอบคุณ ผู้ใหญ่หลายท่าน ที่ให้คำแนะนำอย่างตรงไปตรงมา

ขอบคุณ ทีมเล็ก ๆ ที่ร่วมกันทำงานใหญ่ และทุ่มเทอย่างเต็มที่ตลอดสามเดือนด้วยใจโดยไม่ได้หวังผลตอบแทนใด ๆ

และขอบคุณ ทุกเสียงที่ส่งกำลังใจให้ ไม่ว่าจะรู้จักกันหรือไม่

ผมยังมีความหวังและจะยังคงใช้ความรู้ ความสามารถที่มี ทำหน้าที่บนบทบาทต่อไปให้ดีที่สุด เศรษฐกิจไทยจะเปลี่ยนได้ ถ้าเราออกมาอาสาทำงานเพื่อสาธารณะกันมากขึ้น 

มาช่วยกัน #เปลี่ยนเศรษฐกิจไทย กันครับ