‘บาทแข็ง’ สุดรอบ 4ปีนำภูมิภาค แบงก์ชาติจ่อออกมาตรการสกัด

‘บาทแข็ง’ สุดรอบ 4ปีนำภูมิภาค แบงก์ชาติจ่อออกมาตรการสกัด

นักวิเคราะห์ค่าเงินชี้ “เงินบาทแข็งค่าสุดในรอบ 4 ปี” และยังพบสัญญาณยังแข็งค่าต่อเนื่อง หลังค่าเงินบาทหลุด 32 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งแข็งค่าสุดนำภูมิภาค แบงก์ชาติย้ำจับตาใกล้ชิด เล็งออกมาตรการสกัดบาทแข็งค่าจากผลกระทบราคาทองพุ่ง

ความเคลื่อนไหว “เงินบาท” วานนี้ (8 ก.ย.2568) อยู่ในโซนแข็งค่าตลอดทั้งวัน โดยแข็งค่าขึ้นมาแตะระดับ 31.78 บาทต่อดอลลาร์(ณ เวลา 18.25 น.) ซึ่งเป็นการแข็งค่ามากที่สุดในรอบ 4 ปี 

สำหรับปัจจัยที่ทำให้"เงินบาทแข็งค่า"มาจากการอ่อนค่าของดอลลาร์และทองคำปรับเพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ใหม่ที่ 3,600 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หลังตัวเลขตลาดแรงงานสหรัฐย่ำแย่ต่อเนื่อง ทำให้ความกังวลต่อเศรษฐกิจสหรัฐที่อาจชะลอตัวทวีความรุนแรงขึ้น

นางสาวพิมพ์พันธ์ เจริญขวัญ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นปี “เงินบาท” ปรับแข็งค่าขึ้นประมาณ 7% อยู่ในกลุ่มนำเงินสกุลเงินในภูมิภาค 

สะท้อนภาพการเคลื่อนไหวแข็งค่าของสกุลเงินภูมิภาคและค่าเงินบาทในช่วงที่ผ่านมา เป็นผลจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์จากการที่ผู้ร่วมตลาดคาดการณ์ว่าการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) มีแนวโน้มจะผ่อนคลายมากขึ้น ขณะที่เงินบาทได้รับแรงกดดันเพิ่มเติมจากราคาทองคำที่ปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง

ในระยะถัดไปตลาดการเงินยังมีความไม่แน่นอนสูง โดย ธปท. ยังคงติดตามสถานการณ์การเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทอย่างใกล้ชิดและเข้าดูแลความผันผวนของค่าเงินเพื่อลดผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ

นอกจากนี้ ธปท. อยู่ระหว่างพิจารณาแนวทางการในการลดผลกระทบจากราคาทองคำต่อค่าเงินบาท ทั้งนี้ ภาคเอกชนควรพิจารณาป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดผลกระทบจากความผันผวนของตลาดการเงิน

เงินบาทแข็งค่ามากสุดในภูมิภาค 

นายสงวน จุงสกุล ผู้บริหารฝ่ายธุรกิจสายงานตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ล่าสุด เงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง โดยหลุดระดับ 32.00 บาทต่อดอลลาร์ มาอยู่ที่ราว 31.81 บาทต่อดอลลาร์ โดยแข็งค่ารวดเร็วในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา

โดยหากนับตั้งแต่วันศุกร์ 5 ก.ย. เป็นต้นมา เงินบาทไทยได้แข็งค่าขึ้นมากที่สุดในภูมิภาค

ทั้งนี้ เงินบาทที่แข็งค่าสู่ระดับดังกล่าว ถือเป็นการแข็งค่าสุดในรอบกว่า 4 ปี นับตั้งแต่กลางปี 2021 และหากเทียบตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน เงินบาทแข็งค่าขึ้น 6.6% ซึ่งแข็งค่าอันดับที่สองของภูมิภาค

  • “เงินบาทล่าสุดที่หลุดระดับ 32 บาทต่อดอลลาร์ ถือเป็นกลับไปสู่ระดับที่ไม่เคยเห็นมานานแล้ว นับตั้งแต่กลางปี 2021 ในช่วงที่เฟดลดดอกเบี้ยเหลือ 0% แต่วันนี้สถานการณ์ต่างกันชัดเจนและเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่น ๆ อย่างยูโรและเยน เงินบาทดูเหมือน outperform ตอนนี้”

ราคาทองพุ่ง หนุนเงินบาทแข็ง 

สำหรับปัจจัยสำคัญหลายประการที่ผลักดันให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นมาในระดับต้นๆ ของภูมิภาคซึ่งประกอบด้วยทั้งปัจจัยพื้นฐานภายในประเทศและแรงขับเคลื่อนจากภายนอก ประการแรก ราคาทองคำที่ปรับตัว เพิ่มขึ้น ซึ่งหนุนให้บาทแข็งค่า

นอกจากนี้ยังมาจากดุลบัญชีเดินสะพัดที่เกินดุลอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันเกินดุลในระดับ 2-3% ของจีดีพี สะท้อนพื้นฐานแข็งแกร่ง ซึ่งเปรียบเทียบกับประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค เช่น มาเลเซียและอินโดนีเซีย ซึ่งไม่ได้มีดุลบัญชีเดินสะพัดที่เกินดุลมากเท่ากับประเทศไทย ทั้งนี้ บาทแข็งค่ายังมาจากการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม การแข็งค่าของเงินบาท สะท้อนทุนสำรองของ ธปท. ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา โดยทุนสำรองเพิ่มขึ้นประมาณ 30,000 ล้านดอลลาร์หรือประมาณ 13% ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการลงทุนในพันธบัตรสกุลเงินต่าง ๆ ของธนาคารกลาง

นอกจากนี้ ในช่วงที่ผ่านมาพบว่าเงินที่ ธปท. แทรกแซงตลาดในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมานั้นอยู่ที่ประมาณ 2,000 ล้านดอลลาร์คิดเป็นประมาณ 5% ของทุนสำรองที่เพิ่มขึ้นทั้งหมด ซึ่งถือว่าไม่น้อย

  • “ผู้ที่มีหน้าที่โดยตรงในการจัดการเรื่องค่าเงินไม่ใช่รัฐบาล แต่คือ ธปท.ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจและกลไกในการดำเนินการดังกล่าว ผู้ว่าการคนใหม่อาจจะผลักดันให้มีการพิจารณาเรื่องการเข้าดูแลค่าเงินให้มากขึ้น เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของภาคส่วนต่างๆ”

สำหรับแนวโน้มเงินบาท คาดการณ์ว่า เงินบาทมีโอกาสที่จะแข็งค่าขึ้นไปแตะระดับ 31.50 บาทต่อดอลลาร์และน่าจะสามารถยืนอยู่ในระดับนั้นได้ไปจนถึงสิ้นปีนี้

“เงินบาทที่แข็งค่า ถือว่ามาเร็วกว่าที่คาด จากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ ที่แย่เร็วกว่าที่คาดจริง ๆจากตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐ แย่ลงติดต่อกันสองเดือนซ้อน ซึ่งเป็นสัญญาณที่แตกต่างจากที่เคยคาดการณ์ไว้แต่แรกว่าตัวเลขจะไม่ได้แย่ถึงขนาดนี้" 

รวมทั้งเฟดเริ่มเสียงแตกและสนับสนุนการลดอัตราดอกเบี้ยเริ่มมีความชัดเจนขึ้น ส่งผลให้คาดว่าเดือน ก.ย.นี้ เฟดจะลดดอกเบี้ยแน่นอน ดังนั้นเงินบาทน่าจะแข็งค่าต่อได้

เงินบาทแข็งค่าสุดในรอบกว่า 4 ปี 

นางสาวกาญจนา โชคไพศาลศิลป์ เป็นผู้บริหารงานวิจัยของ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า ล่าสุดเงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบกว่า 4 ปีที่ 31.80 บาทต่อดอลลาร์ก่อนจะกลับไปเคลื่อนไหวที่ 31.86 บาทต่อดอลลาร์(16.15 น.)

โดยเงินบาทแข็งค่าขึ้นท่ามกลางแรงเทขายเงินดอลลาร์สหรัฐต่อเนื่อง ภายหลังจากข้อมูลตลาดแรงงานของสหรัฐ เดือนส.ค. ออกมาอ่อนแอกว่าที่ตลาดคาด

และหนุนโอกาสการเริ่ม cycle การปรับลดดอกเบี้ยของเฟด ประกอบกับ เสียงบางส่วนในตลาดเริ่มมองความเป็นไปได้ที่อาจจะเห็นเฟดปรับลดดอกเบี้ยลงมากกว่า 0.25% ในการประชุม FOMC เดือนก.ย. นี้ด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ ราคาทองคำในตลาดโลกที่ทำสถิติสูงเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ และสัญญาณซื้อสุทธิพันธบัตรไทยของต่างชาติ ก็เป็นปัจจัยที่หนุนให้เงินบาทแข็งค่าด้วยเช่นกัน 

ดังนั้น ในระยะสั้น มองว่าเงินบาทยังมีโอกาสกลับไปทดสอบแนว 31.80 บาทต่อดอลลาร์ อีกครั้ง ส่วนกรอบสัปดาห์นี้มองไว้ที่ 31.80-32.80 บาทต่อดอลลาร์(คาดการณ์โดย KBANK) ต้องรอติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐ ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญในช่วงโค้งสุดท้ายนับถอยหลังสู่กำหนดการประชุมเฟด 16-17 ก.ย.นี้