เปิดที่มาโครงการ ‘คนละครึ่ง’ มาไง ไปไง กับ ‘ปิติ ตัณฑเกษม‘

‘ปิติ’ ทีทีบี เปิดที่มา ’ คนละครึ่ง ชี้คือ ก้าวแรกระบบสวัสดิการแห่งรัฐที่ตรงจุด และยั่งยืน ช่วยเหลือประชาชน ลดภาระรัฐ หวังคนละครึ่งกลับมาพัฒนาต่อ ไม่ใช่แค่กระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น แต่เป็นการปูทางไปสู่อนาคตที่ดีกว่า
ล่าสุด "ปิติ ตัณฑเกษม" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีธนชาต โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เกี่ยวกับโครงการ 'คนละครึ่ง' โดยระบุว่า
- คนละครึ่ง - มาไง ไปไง
หลายคนอาจคิดว่า “คนละครึ่ง” คือโครงการแจกเงินช่วงโควิด แต่จริงๆ แล้ว มันคือก้าวแรกของความตั้งใจที่จะสร้าง ระบบสวัสดิการแห่งรัฐที่ตรงจุด และยั่งยืน
- มาไง
โครงการเกิดขึ้นท่ามกลางวิกฤติโควิด เนื่องจากรัฐบาลต้องหาทางช่วยทั้งประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มรายได้น้อย และร้านค้าธุรกิจเล็ก ให้พอประคองตัวไปได้ แต่เจตนาที่แท้จริง ไม่ใช่การ “แจก” อย่างเดียว
• ประชาชน: ลดภาระค่าครองชีพ โดยออกแบบให้ไม่ใช่แค่รอรับเงิน แต่ต้องมีแรงจูงใจให้ออกมาทำงาน และพัฒนาตัวเอง
• ร้านค้า: เปิดโอกาสให้ธุรกิจขนาดเล็กเข้าระบบ ได้แต้มต่อในการแข่งขันกับธุรกิจใหญ่
• รัฐ: ดึงเศรษฐกิจเข้าสู่ระบบ และวางรากฐานภาษี
หลักคิดสำคัญ คือ “ประชาชนลดภาระ ร้านค้าเพิ่มรายได้” รวมทั้งเป็นการทดสอบว่าประเทศไทยจะก้าวไปสู่ รัฐสวัสดิการแบบยั่งยืน โปร่งใส โดยอาศัย เทคโนโลยีดิจิทัลมาขับเคลื่อนได้อย่างไร
เพื่อให้การช่วยเหลือตรงจุด โครงการถูกออกแบบโดยมี 3 แกนหลักของแนวคิดคือ
- ฝั่งประชาชน
ควรแบ่งประชาชนเป็น 3 กลุ่ม
1️⃣กลุ่มรายได้น้อย – ได้สิทธิในรูปแบบที่ช่วยลดต้นทุนชีวิตที่แตกต่างกัน เช่น ช่วย ค่าเดินทางสาธารณะ ปัจจัยยังชีพ สำหรับคนเมือง หรือ แจก ปุ๋ย เมล็ดพันธุ์ ให้กับเกษตรกร โดยไม่ต้องร่วมจ่าย (point system)
2️⃣ กลุ่มคนชั้นกลาง – ใช้ระบบ co-payment แต่ไม่ถึง 50:50 เช่น 30:70 สำหรับค่าใช้จ่ายจำเป็น เช่น อาหารและยา
3️⃣ กลุ่มผู้มีรายได้สูง จ่ายภาษี – ได้สิทธิคืนภาษีคล้าย “ช้อปช่วยชาติ” (tax rebate) แต่เจาะจงให้นำสิทธิไปใช้กับสินค้าไทย หรือใช้กับธุรกิจ SME
- ฝั่งร้านค้า
โครงการตั้งใจสร้าง “แต้มต่อ” ให้กับร้านค้าขนาดกลาง ขนาดเล็กของไทย ไม่ใช่ช่วยรายใหญ่ จึงมีแนวคิดกำหนดเพดานสิทธิ และบังคับให้ร้านเข้าระบบ VAT และภาษี เพื่อดึงเศรษฐกิจนอกระบบเข้าสู่ระบบที่โปร่งใสและยั่งยืน ให้คนได้ดี
- ฝั่งงบประมาณ/แหล่งเงิน
เป้าหมายระยะยาว คือ เมื่อเศรษฐกิจขยายตัว รัฐต้องสามารถเก็บภาษีได้มากขึ้น โดยเฉพาะการปฏิรูป VAT ให้เป็น multi-tier เหมือนหลายประเทศที่ใช้ เพื่อให้ระบบการคลังแข็งแรงขึ้น และให้โครงการสวัสดิการดำเนินต่อไปได้ โดยไม่กลายเป็นภาระการคลังในอนาคต
ด้วยข้อจำกัดช่วงโควิด ‘คนละครึ่ง’ ภาคหนึ่งจึงเป็นได้เพียงก้าวแรก ของความมุ่งหวังที่จะพัฒนาสู่ภาคสองที่สมบูรณ์ขึ้น ด้วยการต่อยอดสู่ Negative Income Tax, การปฏิรูปภาษี และระบบลงทะเบียนที่รอบด้าน รัดกุม ยิ่งขึ้น
- ไปไง
หากวันนี้รัฐบาลจะนำ “คนละครึ่ง” กลับมาอีกครั้ง จึงหวังว่า มันจะถูกขยับขึ้นเป็น ภาคต่อ ที่ไม่ใช่เพียงแค่กระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น แต่เป็นการปูทางไปสู่อนาคตที่ดีกว่าเพื่อ
- ลดความเหลื่อมล้ำในสังคม
- หนุน SME ให้เติบโตอย่างแข็งแรง
- ลดเศรษฐกิจนอกระบบ ดึงทุกคนเข้าสู่ระบบภาษีที่เป็นธรรม
- สร้างสวัสดิการที่ยั่งยืน โดยไม่ทิ้งภาระการคลังให้คนรุ่นหลัง
เพราะ “คนละครึ่ง” ไม่ใช่โครงการประชานิยม แต่คือ ก้าวแรกสู่รัฐสวัสดิการของไทย ที่ทุกฝ่าย - รัฐ เอกชน และประชาชน - ร่วมกันผลักดันให้เกิดขึ้น
📌 หมายเหตุ: โครงการ “คนละครึ่ง ภาคแรก” เกิดขึ้นได้จากความร่วมมือของหลายฝ่าย ทั้งรัฐบาล ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงการคลัง สภาพัฒน์ฯ ธนาคารกรุงไทย ภาคธุรกิจ และประชาชน ที่เชื่อมั่น และร่วมลงมือสร้างโครงการนี้ให้สำเร็จ
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







