ราคาทองคำพุ่งขึ้นต่อ หลังข้อมูลตลาดจ้างงานสหรัฐอ่อนแอลง

รอยเตอร์ รายงานราคาทองคำโลกพุ่งขึ้นทำลายสถิติใหม่ในวันพุธ (3 ก.ย.68) โดยได้รับแรงหนุนจากข้อมูลการจ้างงานสหรัฐ ที่อ่อนตัวลง ซึ่งตอกย้ำความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงปลายเดือนนี้ ขณะที่ความไม่แน่นอนทั่วโลกที่ยังคงดำเนินอยู่ หนุนความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปอีก

 

ราคาทองคำตลาดสปอต (Spot Gold) พุ่งขึ้น 1.07% สู่ระดับ 3,570.66 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ณ เวลา 13:11 น. ตามเวลาฝั่งตะวันออกสหรัฐ (17:11 GMT) หลังจากแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3,565.57 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ราคาทองคำตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของสหรัฐ (Gold Futures) เพิ่มขึ้น 1.15% สู่ระดับ 3,634.50 ดอลลาร์สหรัฐ

รัฐบาลสหรัฐ รายงานว่าจำนวนตำแหน่งงานว่างในเดือนกรกฎาคม ลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ และการจ้างงานอยู่ในระดับปานกลาง ซึ่งสอดคล้องกับสภาวะตลาดแรงงานที่คลายตัวลง

 

ราคาทองคำซื้อขายในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อยู่แล้วก่อนที่จะมีการเปิดเผยข้อมูล และตัวเลขที่อ่อนตัวลงช่วยพยุงราคาทองคำให้ทรงตัว โดยมีเป้าหมายขาขึ้นถัดไปที่ 3,600 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ฟาวาด ราซักซาดา นักวิเคราะห์ตลาดจาก City Index และ FOREX.com กล่าว

 

หลังจากข้อมูลดังกล่าว นักค้าได้เพิ่มความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐ จะลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมนโยบายการเงินระหว่างวันที่ 16-17 กันยายน 2568 เป็น 98% เพิ่มขึ้นจาก 92% ก่อนหน้านี้ ตามข้อมูลของเครื่องมือติดตามเฟด FedWatch ของ CME Group

 

ขณะนี้ ความสนใจของนักลงทุนเปลี่ยนมาที่ข้อมูลการขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐ และข้อมูลการจ้างงานของ ADP ในวันพฤหัสบดี และรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรรายเดือนที่ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดในวันศุกร์

 

คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ กรรมการผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ ย้ำอีกครั้งในวันพุธถึงการเรียกร้องให้ลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ และกล่าวว่า ธนาคารกลางจะลดต้นทุนการกู้ยืมได้เร็วเพียงใดหลังจากการประชุมดังกล่าวจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในอนาคต

 

ขณะเดียวกัน ลิซา คุก กรรมการผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ  ได้แสดงจุดยืนในรายละเอียดเพิ่มเติมเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาโต้แย้งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ต้องการปลดเธอออกจากตำแหน่ง ทรัมป์วิพากษ์วิจารณ์เจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดหลายครั้งที่ไม่ลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

 

“ความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับความเป็นอิสระของธนาคารกลางสหรัฐ กำลังบั่นทอนความเชื่อมั่นในสินทรัพย์สกุลเงินดอลลาร์ และผลักดันให้นักลงทุนหันไปลงทุนในทองคำ” เทรดเดอร์จากเฮราอุส เมทัลส์ กล่าว

ทรัมป์เตรียมยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาสหรัฐ เพื่อขอให้ศาลฎีกาสหรัฐ รับรองความถูกต้องตามกฎหมายของภาษีนำเข้าที่ครอบคลุมของเขา หลังจากประสบปัญหาในศาลชั้นต้นถึงสองครั้ง

ในส่วนอื่นๆ เศรษฐกิจยูโรโซนยังคงขยายตัวในอัตราที่ต่ำมากในเดือนสิงหาคม

ทองคำแท่งมีแนวโน้มที่จะได้รับแรงหนุนในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอน และอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ

คาดทองคำอาจทะลุ 4,000 ดอลลาร์ต้นปีหน้า

“ราคาทองคำยังมีโอกาสขึ้นต่อ โดยมีเป้าหมายระยะสั้นถึงระยะกลางที่ระดับ 3,600 ถึง 3,800 ดอลลาร์สหรัฐ และรูปแบบการทะลุแนวรับที่บ่งชี้ว่าราคาอาจขึ้นไปถึง 4,000 ดอลลาร์สหรัฐ ได้ในช่วงปลายไตรมาสแรกของปีหน้า” ปีเตอร์ แกรนท์ รองประธาน และนักกลยุทธ์อาวุโสด้านโลหะของ Zaner Metals กล่าว

 

ราคาทองคำที่พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ราคาโลหะเงินตลาดสปอตปรับตัวสูงขึ้น 0.8% มาอยู่ที่ 41.22 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2554

 

ราคาแพลทินัมปรับตัวสูงขึ้น 2.1% มาอยู่ที่ 1,432.12 ดอลลาร์สหรัฐ และแพลเลเดียมปรับตัวสูงขึ้น 1.6% มาอยู่ที่ 1,152.68 ดอลลาร์สหรัฐ

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์   ศิลาวงษ์