จับตาทองคำผันผวน รับสัญญาณลดดอกเบี้ยเฟด - รัสเซียยังยืดเยื้อ

จับตาทองคำผันผวน รับสัญญาณลดดอกเบี้ยเฟด - รัสเซียยังยืดเยื้อ

บล.โกลเบล็ก มองทองสัปดาห์นี้ผันผวน หลังเฟด ส่งสัญญาณปรับลดดอกเบี้ย ขณะที่สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย – ยูเครน ยังไม่มีแนวโน้มคลี่คลาย ส่งผลให้ทองคำยังคงได้รับแรงหนุนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ให้กรอบทองคำ 3,280 – 3,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์

KEY

POINTS

  • บล.โกลเบล็ก ประเมินว่าราคาทองคำสัปดาห์นี้จะมีความผันผวน โดยมีปัจจัยหนุนจากสัญญาณการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของประธานเฟด และสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ที่ยังยืดเยื้อ
  • นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งเป็นแรงหนุนต่อราคาทองคำ
  • อย่างไรก็ตาม สมาชิกเฟดคนอื่นยังแสดงความไม่มั่นใจที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. เนื่องจากยังมีความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ และตลาดแรงงาน
  • ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ที่ยังไม่มีข้อสรุป ทำให้ทองคำยังคงได้รับแรงหนุนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
  • ปัจจัยที่ต้องจับตาในสัปดาห์นี้คือ การประกาศตัวเลข GDP และตัวเลขเงินเฟ้อ PCE ของสหรัฐ เพื่อประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ย
  • บล.โกลเบล็ก ให้กรอบราคาทองคำในสัปดาห์นี้ไว้ที่ 3,280 – 3,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก ประเมินว่า ราคาทองคำมีโอกาสเคลื่อนไหวผันผวน โดยได้แรงหนุนจากนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการกล่าวสุนทรพจน์ที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง อย่างไรก็ตามสมาชิกเฟดคนอื่นแสดงความไม่มั่นใจที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ก.ย.  ขณะที่การเจรจาเพื่อหยุดสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ยังไม่ได้ข้อสรุป แต่รัสเซียได้เปิดฉากโจมตีใส่ยูเครนอย่างต่อเนื่อง ทำให้ความหวังที่จะคลี่คลายสงครามเป็นไปได้ยากขึ้น

อีกทั้งสหรัฐ ได้ปรับขึ้นภาษีเหล็ก และอะลูมิเนียม เป็นปัจจัยหนุนทองคำในฐานะสินทรัพย์ ปลอดภัย สัปดาห์นี้แนะนำให้จับตาการประกาศตัวเลข GDP ของสหรัฐ และตัวเลขเงินเฟ้อ PCE ของสหรัฐ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ

มองกรอบทองคำสัปดาห์นี้ 3,280 – 3,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่ผ่านแนวต้านให้ชะลอการลงทุน

อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องจับตาปัจจัยเชิงลบที่ส่งผลต่อจิตวิทยาการลงทุนราคาทองคำในช่วงนี้ อาทิ ทางแคนาดาได้ประกาศยกเลิกการเก็บภาษีตอบโต้ต่อสินค้าสหรัฐ หลายรายการเมื่อวันศุกร์ (22 ส.ค.68) ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ และทางธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะมีการรายงานการประชุมประจำวันที่ 29-30 ก.ค.68 ซึ่งกรรมการได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับภาวะตลาดแรงงานและเงินเฟ้อ แม้กรรมการส่วนใหญ่จะมีความเห็นตรงกันว่ายังเร็วเกินไปที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยก็ตาม 

ขณะที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแคนซัส ซิตี แสดงความไม่มั่นใจเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. โดยระบุว่าผู้กำหนดนโยบายยังคงมีงานต้องทำอีกมากเกี่ยวกับ เงินเฟ้อ โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 55.4 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือน จากระดับ 55.1 ในเดือนก.ค 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์   ศิลาวงษ์