ราคาทองคำโลกดีดขึ้น ดอลลาร์อ่อนค่า จับตาการประชุมที่แจ็คสันโฮล

ราคาทองคำโลกปรับตัวสูงขึ้นในวันพุธหลังร่วงแรง ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง นักลงทุนต่างเฝ้าติดตามการประชุมสัมมนาของธนาคารกลางสหรัฐที่แจ็คสันโฮลในวันศุกร์นี้
รอยเตอร์ รายงานราคาทองคำโลกปรับตัวสูงขึ้นในวันพุธ (20 ส.ค. 68) เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง โดยนักลงทุนในตลาดต่างเฝ้าติดตามการประชุมสัมมนาของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่แจ็คสันโฮลที่กำลังจะมีขึ้นวันศุกร์นี้
ขณะที่รายงานการประชุมของเฟดเผยให้เห็นว่ามีเพียงเสียงส่วนน้อยที่ไม่เห็นด้วยกับมติคงดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ สนับสนุนการลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกรกฎาคม
ราคาทองคำตลาดสปอต (Spot Gold) เพิ่มขึ้น 0.9% มาอยู่ที่ 3,344.37 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ณ เวลา 14:23 น. ตามเวลาฝั่งตะวันออกสหรัฐ (18:23 GMT) หลังจากแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา ราคาทองคำล่วงหน้าของสหรัฐฯ (Gold Futures) ปิดตลาดสูงขึ้น 0.9% ที่ 3,388.50 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง ทำให้ทองคำแท่งที่มีราคาเทียบกับดอลลาร์มีราคาที่เอื้อมถึงได้ง่ายขึ้นสำหรับผู้ถือสกุลเงินอื่นๆ
ผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ สองคนที่ไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยเมื่อเดือนที่แล้ว ได้แก่ มิเชลล์ โบว์แมน รองประธานฝ่ายกำกับดูแล และคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ ดูเหมือนจะเป็นฝ่ายสนับสนุนการลดอัตราดอกเบี้ยเพียงลำพัง จากรายงานการประชุมที่เผยแพร่ออกมา
ภายใน 48 ชั่วโมงหลังการประชุมสิ้นสุดลง ข้อมูลการจ้างงานที่อ่อนแอกว่าที่คาดการณ์ไว้ดูเหมือนจะเป็นการยืนยันความกังวลของพวกเขา
"เทรดเดอร์ไม่ได้ให้ความสำคัญกับข่าวนี้มากนัก เพราะพวกเขามองว่าข่าวนี้ล้าสมัยแล้วเมื่อเทียบกับรายงานการจ้างงานที่น่าตกใจ" ไท หว่อง นักเทรดโลหะอิสระกล่าว
ความสนใจของตลาดเปลี่ยนไปที่การกล่าวสุนทรพจน์ของประธานเฟด เจอโรม พาวเวล ในงานประชุมสัมมนาเศรษฐกิจประจำปีที่แจ็คสัน โฮล (Jackson Hole) ในวันศุกร์นี้
"ถ้าพาวเวลมีท่าทีผ่อนคลาย นี่จะส่งผลบวกต่อราคาทองคำ เพราะทองคำไม่มีการจ่ายดอกเบี้ย ราคาทองคำอาจต้องทะลุ 3,350 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และในที่สุดอาจต้องทดสอบระดับ 3,400 ต่อออนซ์ หากเขามีท่าทีผ่อนคลาย" บ็อบ ฮาเบอร์คอร์น นักกลยุทธ์ตลาดจาก RJO Futures กล่าว
ปัจจุบัน ผู้ค้าคาดการณ์ว่ามีโอกาส 83% ที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25%ในเดือนกันยายน ตามเครื่องมือติดตามเฟด FedWatch ของ CME
ธนาคารโกลด์แมน แซคส์ยังคงคาดการณ์ราคาทองคำไว้ที่ 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในช่วงกลางปี 2569 โดยอ้างถึงอุปสงค์ที่แข็งแกร่งของธนาคารกลาง เงินทุนไหลเข้าจากกองทุนอีทีเอฟ (ETF) ที่ได้รับแรงหนุนจากการผ่อนคลายนโยบายของเฟด และมีความเป็นไปได้ 30% ที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐฯ ภายใน 12 เดือน
ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ได้เรียกร้องให้ลิซ่า คุก หนึ่งในคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ ลาออกจากตำแหน่ง เนื่องจากข้อกล่าวหาเกี่ยวกับสินเชื่อจำนองบ้าน นับเป็นการตอกย้ำความพยายามของเขาในการมีอิทธิพลเหนือธนาคารกลาง
ในบรรดาโลหะอื่นๆ ราคาโลหะเงินพุ่งขึ้น 1.1% มาอยู่ที่ 37.78 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาแพลทินัมพุ่งขึ้น 2.1% มาอยู่ที่ 1,333.43 ดอลลาร์ ขณะที่ราคาแพลเลเดียมทรงตัวที่ 1,115.15 ดอลลาร์
- อัปเดตราคาทองคำเช้านี้ (21 ส.ค. 68)
บลูมเบิร์ก รายงานว่าราคาทองคำแทบไม่เปลี่ยนแปลง อยู่ที่ 3,342.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ณ เวลา 9.00 น. ตามเวลาที่สิงคโปร์ ดัชนีบลูมเบิร์กดอลลาร์สปอตทรงตัว โดยเงิน แพลเลเดียม และแพลทินัม ทรงตัว
ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์ เรียกร้องให้หนึ่งในคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ ลาออก ทำให้เกิดความกังวลใหม่เกี่ยวกับความเป็นอิสระของธนาคารกลาง ซึ่งช่วยหนุนความต้องการทองคำที่ปลอดภัย
ทองคำแท่งซื้อขายสูงกว่า 3,342 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากเพิ่มขึ้นเกือบ 1% หลังจากที่ทรัมป์เรียกร้องให้ลิซ่า คุก ลาออกจากตำแหน่งจากข้อกล่าวหาฉ้อโกงสินเชื่อที่อยู่อาศัย หากเธอลาออก จะเป็นโอกาสที่ประธานาธิบดีจะแต่งตั้งผู้ว่าการฯที่มีท่าทีผ่อนปรนนโยบายดอกเบี้ยมากขึ้น อย่างไรก็ตาม คุกยังคงแสดงเจตนาที่จะดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารกลางต่อไป







