ราคาทองคำลงต่อ หลังร่วงลงแรงสัปดาห์ที่แล้ว กังวลเงินเฟ้อสหรัฐ

ราคาทองคำลงต่อวันจันทร์ หลังร่วงลงแรงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อของสหรัฐ จากผลกระทบของกำแพงภาษีศุลกากรของทรัมป์
บลูมเบิร์ก รายงานราคาทองคำร่วงลงแรงในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ท่ามกลางสัญญาณว่านโยบายภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังเริ่มสร้างแรงกดดันด้านเงินเฟ้อในสหรัฐ และโอกาสการลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดมีน้อยลง
วันจันทร์ ( 18 ส.ค.68) ทองคำแท่งซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 3,340 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากร่วงลง 1.8% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ข้อมูลเมื่อสัปดาห์ที่แล้วแสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อขายส่งของสหรัฐ พุ่งสูงขึ้นในเดือนกรกฎาคม มากที่สุดในรอบ 3 ปี ส่งผลให้นักลงทุนลดการคาดการณ์การลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ ในเดือนหน้า ต้นทุนการกู้ยืมที่สูงขึ้นเป็นปัจจัยลบต่อทองคำที่ไม่จ่ายดอกเบี้ย
ราฟาเอล บอสทิค ประธานธนาคารกลางสหรัฐ สาขาแอตแลนตา กล่าวหลังจากการเดินทางเยือนภาคตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐ เป็นเวลา 3 วันว่า ผลกระทบจากภาษีศุลกากรเป็นเรื่องจริง และต้นทุนการกู้ยืมที่สูงกำลังกดดันผลกำไรของธุรกิจ แต่ตลาดยังคงเชื่อว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยถึงสองครั้งในปีนี้
นักลงทุนต่างจับตาความคืบหน้าจากการประชุมระหว่างทรัมป์กับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ซึ่งจัดขึ้นเพื่อกำหนดเงื่อนไขสำหรับข้อตกลงสันติภาพที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งทรัมป์ได้หารือกับปูตินในการประชุมเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ที่อะแลสกา การหยุดยิงถาวร หรือความขัดแย้งที่ยังคงดำเนินต่อไป อาจส่งผลกระทบต่อความต้องการทองคำ
ในช่วงนี้ ราคาทองคำแท่งต่ำลงในกรอบที่ไม่ห่างจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเคยแตะระดับสูงสุดในเดือนเมษายน ราคาทองคำยังคงปรับตัวสูงขึ้นมากกว่า 25% ในปีนี้ เนื่องจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มสูงขึ้น ความกังวลเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจโลก และการกระจายการลงทุนจากสินทรัพย์ดอลลาร์ ล้วนเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำ
อัปเดตราคาทองคำเช้านี้
ราคาทองคำลดลง 0.1% มาอยู่ที่ 3,340.08 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ณ เวลา 08:35 น. ตามเวลาสิงคโปร์ ค่าเงินดอลลาร์ทรงตัว โดยดัชนี Bloomberg Dollar Spot Index คงที่ ราคาโลหะเงิน และแพลทินัมแทบไม่เปลี่ยนแปลง ขณะที่ราคาแพลเลเดียมปรับตัวสูงขึ้น
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์






