ราคาทองคำยังทรงตัวสูงวันจันทร์ หลังพุ่งขึ้นแรงกว่า 2% วันศุกร์

ราคาทองคำยังทรงตัวสูงวันจันทร์ หลังพุ่งขึ้นแรงกว่า 2% วันศุกร์

ราคาทองคำทรงตัวในระดับสูงในวันจันทร์ จากที่พุ่งขึ้นแรงวันศุกร์มากกว่า 2% หลังจากข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯ ที่อ่อนตัวลงและการประกาศใช้มาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐ

บลูมเบิร์ก รายงานราคาทองคำทรงตัวในวันจันทร์ (4 ส.ค.) หลังจากข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯ ที่อ่อนตัวลงและการประกาศใช้มาตรการภาษีศุลกากร

ราคาทองคำทรงตัวหลังจากปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบสองเดือนเมื่อวันศุกร์ เนื่องจากนักลงทุนกำลังพิจารณาผลกระทบของข้อมูลการจ้างงานที่อ่อนตัวต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ และทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

ทองคำแท่งเช้านี้ซื้อขายใกล้ระดับ 3,360 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากพุ่งขึ้น 2.2% ในการซื้อขายก่อนหน้า 

ขณะที่ตลาดหุ้นร่วงลง การพุ่งขึ้นของราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากสองปัจจัยหลัก ได้แก่ รายงานการจ้างงานของสหรัฐฯ ที่ชะลอตัวลงอย่างมาก ซึ่งกระตุ้นให้เกิดการคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ย และการประกาศใช้มาตรการภาษีศุลกากรทางการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งถือเป็นมาตรการที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ทศวรรษ 1930

สำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐฯ ระบุเมื่อวันศุกร์ว่า สหรัฐฯ มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 73,000 ตำแหน่งในเดือนกรกฎาคม ขณะที่ข้อมูลสองเดือนก่อนหน้าถูกปรับลดลงเกือบ 260,000 ตำแหน่ง ทรัมป์ได้ปลดหัวหน้าหน่วยงานเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากรายงานดังกล่าวทำให้ตลาดหุ้นร่วงลง

ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นมากกว่า 25%ในปีนี้ เนื่องจากนโยบายที่ตึงเครียดของทรัมป์และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ในส่วนอื่นๆ ของโลก ส่งผลให้ความต้องการทองคำซึ่งสินทรัพย์ปลอดภัย เพิ่มขึ้น นักลงทุนและนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้นอีกในอนาคต เนื่องจากธนาคารกลางยังคงเข้าซื้ออย่างต่อเนื่องและอาจมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย

อัปเดตราคาเช้านี้ 

ราคาทองคำแท่งลดลง 0.3% มาอยู่ที่ 3,354.29 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ณ เวลา 8:34 น. ตามเวลาสิงคโปร์ ค่าเงินดอลลาร์แทบไม่เปลี่ยนแปลง โดยดัชนี Bloomberg Dollar Spot Index ทรงตัว ราคาโลหะเงินลดลง 0.4% ขณะที่ราคาแพลเลเดียมและแพลทินัมก็ปรับตัวลดลงเช่นกัน