ราคาทองคำโลกขยับขึ้นต่อ รับข่าวกำแพงภาษีใหม่ของทรัมป์

ราคาทองคำโลกปรับตัวสูงขึ้น แต่ยังคงมีแนวโน้มลดลงในสัปดาห์นี้ หลังทำเนียบขาวเปิดเผยอัตราภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ต่อคู่ค้า ที่จะมีผลบังคับใช้ภายใน 7 วัน
บลูมเบิร์ก รายงานราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น แต่ยังคงมีแนวโน้มลดลงในสัปดาห์นี้ หลังทำเนียบขาวเปิดเผยอัตราภาษี ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ต่อคู่ค้า ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ภายใน 7 วัน
ทองคำแท่งซื้อขายใกล้ระดับ 3,290 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ตลาดเอเชียเปิดทำการ หลังจากปิดตลาดก่อนหน้าที่ราคาสูงขึ้น 0.5% สหรัฐฯ จะคงอัตราภาษีนำเข้าขั้นต่ำทั่วโลกไว้ที่ 10% ขณะที่สินค้านำเข้าจากประเทศที่ได้เปรียบดุลการค้ากับสหรัฐฯ จะถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้า 15% หรือสูงกว่า
ปฏิกิริยาของตลาดในช่วงแรกค่อนข้างเงียบ แสดงให้เห็นว่านักลงทุนไม่ได้ประหลาดใจกับการประกาศดังกล่าว
วาระการขึ้นภาษีของทรัมป์และความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าโลกเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นประมาณ 25% ในปีนี้ รวมถึงแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่สูงกว่า 3,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในเดือนเมษายน
ขณะเดียวกันความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ก็กระตุ้นให้เกิดความต้องการทองคำในสินทรัพย์ปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม โลหะมีค่ายังคงซื้อขายในกรอบแคบๆ มาหลายเดือน ท่ามกลางสัญญาณบ่งชี้ว่านักลงทุนเริ่มคุ้นเคยกับสถานการณ์การค้ามากขึ้น เดือนกรกฎาคมปิดตลาดด้วยค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าที่สุดในปี 2568 ส่งผลให้ราคาทองคำแท่งผันผวนมากขึ้น
อัปเดตราคาเช้านี้ (1 ส.ค. )
ราคาทองคำตลาดสปอต (Spot Gold) เพิ่มขึ้น 0.1% มาอยู่ที่ 3,291.46 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ณ เวลา 7:45 น. ตามเวลาสิงคโปร์ โดยราคาลดลงแล้ว 1.4% ในสัปดาห์นี้ ดัชนี Bloomberg Dollar Spot Index แทบไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ราคาโลหะเงินแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลง ขณะที่ราคาแพลทินัมและแพลเลเดียมปรับตัวสูงขึ้น
นอกจากการเจรจาการค้าแล้ว นักลงทุนยังให้ความสนใจกับตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ ประจำเดือนกรกฎาคมในวันศุกร์ ซึ่งคาดว่าจะแสดงให้เห็นถึงการเติบโตของการจ้างงานที่ชะลอตัวลง และอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น







