ธปท.ผนึก ก.ล.ต. เปิดแซนด์บ็อกซ์ นักท่องเที่ยวใช้คริปโทฯ แลก 'บาท'

ธปท.ผนึก ก.ล.ต. เปิดแซนด์บ็อกซ์ นักท่องเที่ยวใช้คริปโทฯ แลก 'บาท'

ก.ล.ต. ผนึก ธปท. เตรียมเปิดแซนด์บ็อกซ์ เอื้อนักท่องเที่ยวต่างชาตินำคริปโทเคอร์เรนซีแลกเปลี่ยนเป็นเงินบาท ใช้จ่ายได้ โครงการหนุนท่องเที่ยวคึกคักพร้อมเฮียริ่งถึง13 ส.ค.68 นี้

ปัจจุบัน สินทรัพย์ดิจิทัล (DA) เป็นสินทรัพย์ที่มีการถือครอง และใช้งานเพิ่มขึ้นในระยะเวลาที่ผ่านมา โดยจากข้อมูลสถิติการเติบโตของตลาด DA ทั่วโลกตลอดปี 2567 พบว่า มีจำนวนผู้ถือสินทรัพย์ดิจิทัล เพิ่มขึ้นจาก 580 ล้านคน เป็น 617 ล้านคน เพิ่มขึ้น 6.38%  โดยตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลเคยมีมูลค่าสูงสุด(market capitalization) อยู่ที่ประมาณ 3.7 ล้านล้านดอลลาร์

ทางด้านข้อมูลจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาระบุว่า สถิตินักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2567 ถึงวันที่ 31 ธ.ค.2567  มีจำนวนรวม 35.54 ล้านคน เพิ่มขึ้น 26.27% เทียบกับปี 2566 สร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1.67 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 34% เทียบกับปี 2562 โดยปัจจัยที่ทำให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นในปีที่ผ่านมา เป็นผลมาจากนักท่องเที่ยวกลับมาเดินทางมากขึ้นหลังสถานการณ์ Covid-19 คลี่คลาย รวมทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว 

แต่อย่างไรก็ดี สถานการณ์ในปัจจุบันอาจยังไม่เทียบเท่ากับช่วงก่อนสถานการณ์โควิด-19 ที่มีนักท่องเที่ยว 39.91 ล้านคน รายได้ 1.91 ล้านล้านบาทต่อปี

ดังนั้น สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เห็นความสำคัญในการนำนวัตกรรมทางการเงินและสินทรัพย์ดิจิทัลมาสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวของประเทศไทย 

เปิดแซนด์บ็อกซ์ เอื้อนำสินทรัพย์ดิจิทัลแลกเป็นเงินบาท

ล่าสุด จึงมีแนวคิดที่จะเปิด Sandbox ในการนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาเปลี่ยนเป็นเงินบาท และนำไปใช้จ่าย สำหรับ “นักท่องเที่ยวต่างชาติ ”เพื่อเพิ่มทางเลือก และความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีการถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลเข้ามาท่องเที่ยว และใช้จ่ายในประเทศไทย ซึ่งเป็นการต่อยอดจากระบบนิเวศเดิม ทั้งระบบการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล และระบบเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-money) โดยยังคงมีการป้องกันความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องอย่างเหมาะสมเพียงพอ และเหมาะสม

ทั้งนี้ โครงการดังกล่าว ทางคณะกรรมการ ก.ล.ต. ในการประชุม ครั้งที่ 4/2568 เมื่อวันที่ 6 มี.ค.68 และ ครั้งที่ 9/2568 เมื่อ 3 ก.ค.68 ที่ผ่านมา ได้มีมติเห็นชอบหลักการในการกำหนดหลักเกณฑ์รองรับ Sandbox ดังกล่าว  และก.ล.ต. ได้เผยแพร่เอกสารรับฟังความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวบนเว็บไซต์ ก.ล.ต.จนถึงวันที่ 13 ส.ค.2568 

ธปท.- ก.ล.ต.ถกดึงท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย

นายเอนก อยู่ยืน รองเลขาธิการ ในฐานะโฆษกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต. )  กล่าวว่า  โครงการดังกล่าว ทางก.ล.ต.ได้หารือกับ ธปท.แล้ววางเป้าหมาย จะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มที่มีการถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลเข้ามาท่องเที่ยว และใช้จ่ายในประเทศไทยเพื่อสร้างรายได้ให้กับคนไทย โดยยังคงมีการป้องกันความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องอย่างเพียงพอ

เบื้องต้น ก.ล.ต. กำหนดให้ “นักท่องเที่ยวต่างชาติ ” ที่ต้องการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นเงินบาท และนำไปชำระเงินค่าสินค้า และบริการกับร้านค้า ต้องเปิดบัญชี และดำเนินการผ่านผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. และผู้ประกอบธุรกิจ e-money ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ภายใต้ Sandbox ซึ่งมีการควบคุมดูแล และป้องกันความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องผ่านหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องอย่างเหมาะสม โดยไม่มีการนำสินทรัพย์ดิจิทัลไปใช้ชำระเงินค่าสินค้าและบริการ (Means of Payment) กับร้านค้า

สำหรับผู้ที่ประสงค์จะเข้าร่วม Sandbox ต้องเป็นผู้ประกอบธุรกิจศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล นายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล และผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัล และมีความพร้อมในการดำเนินการตามรูปแบบ ขอบเขต และหลักเกณฑ์ของ Sandbox โดยต้องสมัคร และได้รับความเห็นชอบให้เข้าร่วม Sandbox จาก ก.ล.ต. ทั้งนี้ เมื่อได้รับความเห็นชอบแล้วจะมีระยะเวลาในการให้บริการภายใต้ Sandbox ไม่เกิน 18 เดือน โดย ก.ล.ต. อาจพิจารณาขยายกรอบระยะเวลาทดสอบเพื่อให้เกิดความยืดหยุ่นในการดำเนินการทดสอบได้ 

ด้านกระบวนการเห็นชอบ ก.ล.ต. จะเปิดโครงการ Sandbox ตามรอบระยะเวลาที่กำหนดโดยผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ที่ประสงค์จะเข้าร่วม Sandbox ยื่นคำขอรับความเห็นชอบต่อก.ล.ต. ภายในระยะเวลาที่กำหนด และก.ล.ต. จะพิจารณาคำขอเห็นชอบใน 60 วัน นับตั้งแต่รับคำขอ 

โดยการให้ความเห็นชอบในการเข้าร่วม Sandbox จะสิ้นสุดลงเมื่อ ครบกำหนดระยะเวลาที่ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล เข้าร่วม Sandbox โดยก.ล.ต. สั่งให้ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ยุติการเข้าร่วม Sandbox ในกรณีที่ผู้ประกอบธุรกิจ สินทรัพย์ดิจิทัลไม่ปฏิบัติ ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด 

นอกจากนี้ ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล สามารถขอยุติการเข้าร่วม Sandbox ได้ก่อนครบกำหนดระยะเวลา โดยยื่นคำขอพร้อมทั้งเอกสารหลักฐานต่อ ก.ล.ต. ก่อนดำเนินการยุติการให้บริการไม่น้อยกว่า 30 วัน ทั้งนี้ ตามขั้นตอน และวิธีการที่ระบุไว้ในคู่มือสำหรับประชาชน

ในส่วนของผู้เข้าร่วม Sandbox สามารถให้บริการได้เฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมายังประเทศไทย และพำนักอยู่ในประเทศไทยชั่วคราว โดยต้องทำความรู้จักตัวตนของผู้ใช้บริการ (KYC/CDD) ตามเกณฑ์ของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และให้บริการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลตามประเภทใบอนุญาตที่ได้รับ  รวมทั้งมีการเชื่อมต่อกับผู้ประกอบธุรกิจ e-money ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ธปท. เพื่อให้นักท่องเที่ยวต่างชาตินำเงินบาทที่ได้รับจากการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลไปซื้อสินค้าหรือบริการผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น การสแกน QR code เป็นต้น

นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วม Sandbox ต้องดำเนินการตามหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เช่น การรวบรวม และประเมินข้อมูลผู้ใช้บริการ การตรวจสอบแหล่งที่มาของสินทรัพย์ดิจิทัลที่นำมาแลกเปลี่ยนเป็นเงินบาท การรายงานข้อมูลต่อ ก.ล.ต. และแผนรองรับการออกจาก Sandbox เป็นต้น 

ในส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะสามารถชำระเงินค่าสินค้า และบริการผ่านผู้ประกอบธุรกิจ e-money ภายใต้วงเงินดังนี้

1 .การชำระเงินแก่ร้านค้ารายย่อย (Thai OR Code Tag 29 ซึ่งใช้บัญชีบุคคลในการรับเงิน) เช่น ร้านค้ารถเข็น หรือ พ่อค้าแม่ค้าในตลาดสด/ตลาดนัด เป็นต้น วงเงินไม่เกิน 50,000 บาท/เดือน/คน

2.การชำระเงินแก่ผู้ประกอบการที่ผ่านกระบวนการรู้จัก และการบริหารติดตามความเสี่ยงร้านค้า (Know Your Merchant (KYM)) (เช่น Thai OR Code Tag 30 เป็นต้น) วงเงินไม่เกิน 500,000 บาท/เดือน/คน

เมอร์เคิลแคปปิตอลหนุนแลกคริปโทเป็นเงินบาท

นายวรเมธ จันทร์เสน ที่ปรึกษาการลงทุน บริษัท เมอร์เคิล แคปปิตอล จำกัด กล่าวว่า เรา เล็งเห็นถึงความตั้งใจที่จะสนับสนุนภาคการท่องเที่ยว และทดลองใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์ดิจิทัลเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังเลี่ยงผลกระทบที่อาจจะเกิดต่อระบบการเงินดั้งเดิม (การไม่รับสินทรัพย์ดิจิทัลโดยตรง)  

จากปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้น การทดลอง Sandbox นี้เป็นโอกาสที่จะทำให้ประเทศไทยมีรายได้จากภาคการท่องเที่ยวสูงขึ้น เนื่องจากเพิ่มช่องทางการเข้าถึงสินค้า และบริการภายในประเทศ รวมถึงส่งผลดีต่อสกุลเงินบาทเนื่องจากการใช้จ่ายผ่าน E-money จะต้องแลกสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นสกุลเงินบาทเท่านั้น 

ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีสัดส่วนถือครองคริปโทเคอร์เรนซี มากที่สุดอันดับ 5 ของโลก และเอเชียเป็นอันดับ 1 ของโลก ดังนั้น ปัจจัยพื้นฐานของประเทศไทยมีความพร้อมในการทดลอง Sandbox อย่างมีนัยสำคัญ และมีโอกาสที่จะถูกยอมรับให้เป็น Digital asset hub ในอนาคตได้ 

 อย่างไรก็ตาม โครงการยังอยู่ในช่วงเปิดรับความเห็น และมีข้อจำกัดเช่น การยืนยันตัวตนที่ซับซ้อนทั้งผู้ใช้ และผู้ให้บริการ หากจุดเริ่มต้นนี้ประสบความสำเร็จจะเป็นผลดีต่อประเทศในระยะยาว ทั้งจำนวนเงินใหม่ที่ไหลเข้าประเทศไทย ความต้องการของสกุลเงินบาทหรือโอกาสผลักดันบาทดิจิทัล และโอกาสที่จะกลายเป็นจุดศูนย์กลางของเศรษฐกิจยุคดิจิทัล

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์