เงินสมทบประกันสังคม ใช้ลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดาได้หรือไม่?

เงินสมทบประกันสังคม ใช้ลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดาได้หรือไม่?

เคลียร์ข้อสงสัย สำหรับมนุษย์เงินเดือนผู้ชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เมื่อจ่าย​ "เงินสมทบประกันสังคม" สามารถนำมาใช้ลดหย่อนภาษีได้หรือไม่? มีเงื่อนไขอย่างไร

เมื่อถึงฤดูยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด. 90/91) หลายคนก็เริ่มกลับมาทบทวนเรื่องรายรับ รายจ่าย และสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่สามารถใช้ลดหย่อนภาระทางภาษีได้ หนึ่งในประเด็นที่มักถูกหยิบยกขึ้นมาถามบ่อยครั้งก็คือ "เงินสมทบประกันสังคม" ที่ผู้ประกันตนต้องจ่ายเป็นประจำทุกเดือนนั้น สามารถนำมาใช้ลดหย่อนภาษีได้หรือไม่?

โดยข้อมูลที่จะนำเสนอดังต่อไปนี้จะทำให้ผู้อ่านเข้าใจเกี่ยวกับเงินสมทบประกันสังคมว่าแท้จริงแล้วคืออะไร มีวัตถุประสงค์เพื่ออะไร และสามารถนำมาใช้ลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดาได้หรือไม่ พร้อมทั้งอธิบายเงื่อนไขและข้อกำหนดต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการลดหย่อนภาษีจากเงินสมทบประกันสังคม รวมถึงแนวทางในการจัดเตรียมเอกสารที่จำเป็นเมื่อต้องการใช้สิทธิในการลดหย่อนภาษี เพื่อให้ผู้ประกันตนสามารถวางแผนภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพถูกต้องตามกฎหมาย และไม่พลาดสิทธิประโยชน์ที่พึงได้รับในแต่ละปีภาษีอย่างครบถ้วน

เงินสมทบประกันสังคมคืออะไร?

เงินสมทบประกันสังคม คือ เงินที่ลูกจ้าง นายจ้าง และรัฐบาลร่วมกันจ่ายเข้ากองทุนประกันสังคมตามกฎหมาย เพื่อให้ความคุ้มครองแก่ผู้ประกันตนในด้านต่างๆ เช่น การเจ็บป่วย การคลอดบุตร ทุพพลภาพ เสียชีวิต สงเคราะห์บุตร ว่างงาน และบำเหน็จชราภาพ โดยเงินสมทบจะถูกหักจากค่าจ้างของลูกจ้างในอัตราที่กำหนด ซึ่งปัจจุบันลูกจ้างและนายจ้างจ่ายฝ่ายละ 5% ของค่าจ้าง (ไม่เกินฐานเงินเดือนที่กำหนด เช่น 15,000 บาท) ส่วนรัฐบาลจะสมทบเพิ่มในอัตราที่กำหนดตามกฎหมาย

เงินสมทบนี้เปรียบเสมือนการออมร่วมกันในระบบประกันสังคม เพื่อให้ผู้ประกันตนได้รับสิทธิประโยชน์และความช่วยเหลือเมื่อประสบเหตุจำเป็นในชีวิต เช่น ลาป่วย ลาคลอด หรือถูกเลิกจ้าง การจ่ายเงินสมทบอย่างต่อเนื่องจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ จากระบบประกันสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามที่ไม่สามารถทำงานหรือขาดรายได้ชั่วคราว ทั้งนี้กองทุนประกันสังคมยังเป็นส่วนสำคัญในการสร้างหลักประกันทางสังคมให้แก่ประชาชนในระยะยาวอีกด้วย

เงินสมทบประกันสังคม ใช้ลดหย่อนภาษีได้หรือไม่?

คำตอบคือ “ได้” กรมสรรพากรอนุญาตให้นำเงินสมทบที่จ่ายเข้ากองทุนประกันสังคม มาหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ตามจริงที่จ่าย แต่ไม่เกินปีละ 9,000 บาท (ฐานเงินสมทบประกันสังคมเดิม) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในรายการลดหย่อนภาษีตามมาตรฐานที่ได้รับการรับรองอย่างชัดเจน โดยเงินสมทบที่สามารถลดหย่อนได้จะต้องเป็นเงินที่ผู้มีเงินได้เป็นผู้จ่ายเอง เช่น

  • กรณีเป็นลูกจ้าง: เงินที่ถูกหักจากเงินเดือนในแต่ละเดือน
  • กรณีเป็นผู้ประกันตนโดยสมัครใจ (ม.39 หรือ ม.40): เงินที่ชำระรายเดือนให้กับสำนักงานประกันสังคม

ตัวอย่างการคำนวณลดหย่อน

หากเป็นลูกจ้างที่ได้รับเงินเดือน 20,000 บาทต่อเดือน เงินสมทบประกันสังคมจะถูกหักเดือนละ 750 บาท x 12 เดือน = 9,000 บาท ซึ่งสามารถนำเงินสมทบประกันสังคม จำนวน 9,000 บาทนี้ ไปหักลดหย่อนภาษีได้เต็มจำนวน แต่ถ้าเงินเดือนต่ำกว่า 15,000 บาท ทำให้ถูกหักประกันสังคมน้อยกว่า 750 บาท/เดือน เช่น เดือนละ 600 บาท 600 บาท x 12 เดือน = 7,200 บาท ในกรณีนี้สามารถหักลดหย่อนได้ตามจำนวนที่จ่ายจริงคือ 7,200 บาท

เงื่อนไขสำคัญที่ควรรู้

  • ต้องเป็นเงินที่จ่ายในปีภาษีนั้นๆ

ผู้ประกันตนสามารถลดหย่อนได้เฉพาะเงินสมทบที่จ่ายในปีภาษีที่กำลังยื่นแบบเท่านั้น เช่น ยื่นแบบในปี 2566 ก็ต้องเป็นเงินสมทบที่จ่ายในช่วงวันที่ 1 มกราคม – 31 ธันวาคม 2566

  • ต้องเป็นผู้จ่ายเงินสมทบด้วยตัวเอง

เฉพาะเงินสมทบที่จ่ายเองเท่านั้นที่สามารถใช้ลดหย่อนได้ เงินที่นายจ้างสมทบให้จะไม่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้

  • สามารถตรวจสอบยอดจากสำนักงานประกันสังคม

หากผู้ประกันตนไม่แน่ใจว่าจ่ายไปเท่าไหร่ในปีนั้น สามารถเข้าไปตรวจสอบยอดเงินสมทบได้ที่เว็บไซต์ของสำนักงานประกันสังคม www.sso.go.th หรือผ่านแอปพลิเคชัน SSO Connect

เอกสารที่ควรเตรียมเมื่อต้องการใช้ลดหย่อน

  • กรณีเป็นลูกจ้าง

ไม่จำเป็นต้องยื่นหลักฐานเพิ่มเติม เพราะข้อมูลเงินสมทบจะปรากฏในหนังสือรับรองเงินเดือน (แบบ 50 ทวิ) อยู่แล้ว

  • กรณีเป็นผู้ประกันตนโดยสมัครใจ (ม.39 / ม.40)

ควรแนบหลักฐานการชำระเงิน เช่น สลิปโอนเงิน หรือใบเสร็จรับเงินจากสำนักงานประกันสังคม เพื่อแสดงยอดรวมที่จ่ายจริงตลอดปี

กล่าวโดยสรุป เงินสมทบประกันสังคมสามารถใช้เป็นรายการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้จริง ตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 9,000 บาทต่อปี (ฐานเงินสมทบประกันสังคมเดิม) เป็นสิทธิที่ผู้ประกันตนควรรู้และใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยเฉพาะเมื่อต้องการลดภาระภาษีในช่วงสิ้นปี

การหมั่นตรวจสอบยอดเงินสมทบ และจัดเก็บเอกสารที่เกี่ยวข้องไว้ให้เรียบร้อย จะช่วยให้สามารถยื่นภาษีได้อย่างมั่นใจและถูกต้อง พร้อมใช้สิทธิ์ลดหย่อนนี้ได้อย่างเต็มที่ทุกปี

 

อ่านบทความน่ารู้เกี่ยวกับภาษีเพิ่มเติม คลิกที่นี่
Source : Inflow Accounting