ธปท.ห่วง ภาษีทรัมป์-ท่องเที่ยวชะลอ ฉุดครึ่งปีหลัง จีดีพีโตแผ่ว

ธปท.ย้ำครึ่งหลังปี68 เศรษฐกิจไทยแผ่วโต1.6% ส่งออก ติดลบ 4% และติดลบ2% ในปีหน้า ท้าทายทั้งปี69จีดีพีโตแค่ 1.7% พร้อมปรับนโยบายเพิ่มเติมหากความเสี่ยงชัดขึ้น
นายปิติ ดิษยทัต รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยในงานแถลงข่าว Monetary PolicyForum 2/2568 ว่า ธปท.คาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจไทยช่วงครึ่งหลังของปี 2568 มีโอกาสเกิด “ช็อกใหญ่ และทอดยาว” โดยยังมีความท้าทายจากความเสี่ยงการกำหนดอัตราภาษีนำเข้าของสหรัฐ ที่กระทบต่อภาคส่งออกและลงทุนถึงขั้นติดลบ ขณะที่การท่องเที่ยวยังชะลอตัว และเติบโตช้ากว่าที่คาดไว้ กระทบการบริโภคลดลง
ทางด้านนโยบายการเงิน กนง.ยังคงจุดยืนนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายจะสนับสนุนการขยายตัวเศรษฐกิจที่เหมาะสม การลดดอกเบี้ยที่ผ่านมา ช่วยรองรับความเสี่ยงด้านต่ำในระดับหนึ่ง มองไปข้างหน้า กนง.พร้อมปรับเปลี่ยนโยบายเพิ่มเติม หากมีดาวไซด์และความเสี่ยงต่างๆชัดเจนขึ้น
"อัตราภาษีนำเข้าที่สหรัฐจะเก็บกับไทย ตัวเลขจะเป็นเท่าไหร่ไม่สำคัญมากเท่ากับทิศทางเศรษฐกิจไทยระยะข้างหน้า ครึ่งหลังของปี 2568 และปี2568 หลังจากนี้ แผ่วลงแน่ ยอมรับว่า ไม่ดี เพราะเศรษฐกิจไทยขยายตัวต่ำกว่าศักยภาพ"
คาดจีดีพีครึ่งปีหลัง โตแผ่ว 1.6%
นางสาวบัณณรี ปัณณราช ผู้อำนวยการ ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธปท. กล่าวว่า แนวโน้มเศรษฐกิจไทยครึ่งหลังปี 2568 คาดจะชะลอตัวรุนแรง คาดว่าขยายตัว 1.6% จากครึ่งปีแรกที่คาดขยายตัว 2.9% เป็นผลจากการส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีสหรัฐฯ โดยทั้งปี 68 ยังมองเศรษฐกิจไทยขยายตัว 2.3%
ส่วนปี 2569 คาดเศรษฐกิจขยายตัว 1.7% จากการส่งออกที่คาดว่าจะติดลบ 2% และส่งผลต่อการบริโภคที่ชะลอตัว คาดการบริโภคภาคเอกชนขยายตัว 1.7% และการลงทุนภาคเอกชนขยายตัวชะลอลงอยู่ที่ 0.9%
สำหรับการส่งออกได้แรงส่งสินค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ยังมีแรงขับเคลื่อนต่อเนื่อง จากเป็นสินค้าที่ไม่ได้ถูกเก็บภาษีสหรัฐฯ และยังมีความ้องการสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ในตลาดโลกในกลุ่มดาต้าเซ็นเตอร์ยังมีต่อเนื่องในปีนี้และปีหน้า ซึ่งคาดการณ์ว่าขยายตัว 2 หลัก จะเป็นแรงส่งให้ภาคส่งออกได้ ส่วนสินค้าอื่นคาดว่าจะชะลอลง จากมาตรการภาษีสหรัฐฯ
ส่วนภาคการท่องเที่ยว การลดลงของนักท่องเที่ยวจีนเริ่มทรงตัว และการฟื้นความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยยังใช้เวลา คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติของไทยปี 2568-2569 เติบโตเฉลี่ย 3.5% ต่ำกว่าประมาณการการเติบโตภาคการท่องเที่ยวโลก (เฉลี่ย 2568-69 = 5%) ส่วนหนึ่งจากการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น แม้รายรับจากนักท่องเที่ยวขยายตัว แต่การกระจายเม็ดเงินอาจไม่ทั่วถึง นักท่องเที่ยวระยะไกลมีสัดส่วนการใช้จ่ายในหมวดที่พักเกือบ 40% ของค่าใช้จ่ายทั้งหมด (เทียบกับกลุ่มระยะใกล้ที่ใช้จ่ายหมวดที่พัก 1 ใน 3 และสัดส่วนช้อปปิ้งมากกว่า 1.6 เท่า) และท่องเที่ยวกระจุกใน 6 เมืองหลัก
อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยยังมีความเสี่ยงไปทางต่ำ ทั้งปี 2568 และ 2569 โดยมีประเด็นที่ต้องติดตามดังนี้ 1. พัฒนาการการเจรจาทางการค้า (Trade war) และความขัดแย้ง ด้านภูมิรัฐศาสตร์ 2. ความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศ 3. ความตึงตัวของสินเชื่อในบางจุดที่อาจกระทบกลุ่มเปราะบางและ SMEs มากกว่าคาด
เงินเฟ้อต่ำ ตามราคาพลังงาน-อาหาร
นายสุรัช แทนบุญ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายการเงิน ธปท.กล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มอยู่ในระดับต่ำตามแนวโน้มราคาพลังงานและอาหารสด โดยปี 2568 คาดอยู่ที่ 0.5% และปี 2569 อยู่ที่ 0.8% ซึ่งไม่ได้ส่งผลให้ราคาสินค้าอื่น ลดลงตามเป็นวงกว้าง สะท้อนจากราคาสินค้าที่ประชาชนบริโภคเป็นประจำยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สอดคล้องกับค่าครองชีพที่ยังอยู่ในระดับสูง
ด้านภาวะการเงินยังตึงตัว สินเชื่อหดตัวส่วนหนึ่งมาจากการชำระคืนหนี้และความต้องการสินเชื่อที่ลดลง โดยสถาบันการเงินระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อให้แก่ลูกหนี้ที่มีความเสี่ยงสูง ขณะที่คุณภาพสินเชื่อไม่ปรับดีขึ้น
ค่าเงินบาทผันผวน -แข็งค่าตามภูมิภาค
ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวผันผวนและเฉลี่ยแข็งค่าเทียบไตรมาสก่อน จากปัจจัยภายนอกสอดคล้องกับสกุลเงินภูมิภาค โดยดอลลาร์ ที่มีทิศทางอ่อนค่าต่อเนื่อง สอดคล้องกับการคาดการณ์การปรับลด Fed funds rate จาก ความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ส่งผลให้ค่าเงินภูมิภาครวมถึงค่าเงินบาทโน้มแข็งค่าเทียบกับดอลลาร์
นโยบายการเงินควรอยู่ในระดับผ่อนคลายเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ ความสำคัญของจังหวะเวลาและประสิทธิผลของนโยบายการเงินภายใต้บริบทที่มีความไม่แน่นอนสูง คำนึงถึงขีดความสามารถในการรองรับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ประสิทธิผลที่ลดทอนภายใต้บริบทที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำและเศรษฐกิจที่เผชิญความไม่แน่นอนสูง
นอกจากนี้ ความท้าทายส่วนหนึ่งมีสาเหตุจากความสามารถในการแข่งขันและความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป อย่างไรก็ตามนโยบายการเงินพร้อมปรับให้รองรับแนวโน้มและความเสี่ยงในระยะข้างหน้า และผสมผสานกับเครื่องมืออื่น ๆ







