ราคาทองคำโลกขยับขึ้น หวั่นกฎหมายลดภาษีของทรัมป์ทำหนี้พุ่ง

ราคาทองคำปรับตัวขึ้นในวันศุกร์ จากกฎหมายลดหย่อนภาษีและการใช้จ่ายของประธานาธิบดีทรัมป์ผ่านสภา ทำให้เกิดความกังวลหนี้สาธารณะสหรัฐจะพุ่งขึ้น ดอลลาร์อ่อนในอนาคต
รอยเตอร์/บลูมเบิร์ก รายภาวะตลาดทองทำโลกวันศุกร์ หรือเมื่อคืนที่ผ่านมาตามเวลาประเทศไทยว่า ราคาทองคำปรับตัวขึ้นในวันศุกร์ โดยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในสัปดาห์นี้ เนื่องจากร่างกฎหมายลดหย่อนภาษีและการใช้จ่ายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐผ่านสภา ทำให้เกิดความกังวลด้านการคลังเพราะจะทำให้หนี้สาธารณะของสหรัฐพุ่งสูงขึ้นมาก และดอลลาร์อาจจะอ่อนค่าในระยะยาว
ราคาทองคำตลาดสปอต (Spot Gold) เพิ่มขึ้น 0.33% อยู่ที่ 3,337.15 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อเวลา16.00 น. วันศุกร์ตามเวลาฝั่งตะวันออกของสหรัฐ หรือ 03.00 น.วันเสาร์ (5 ก.ค.)ตามเวลาไทย รอยเตอร์รายงานว่าทองคำแท่งเพิ่มขึ้นประมาณ 1.7% แล้วในสัปดาห์นี้
ราคาทองคำตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของสหรัฐ (Gold Futures) เพิ่มขึ้น 0.11% 0.1% อยู่ที่ 3,346.50 ดอลลาร์ 12.59 น. ตามเวลาฝั่งตะวันออกของสหรัฐ หรือ 23.59 น.ตามเวลาประเทศไทย
กฎหมายลดหย่อนภาษีของทรัมป์ผ่านพ้นอุปสรรคสุดท้ายในรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อวันพฤหัสบดี ซึ่งจะให้เงินทุนแก่การปราบปรามผู้อพยพ ทำให้การลดหย่อนภาษีปี 2017 ของเขาเป็นแบบถาวร และให้การลดหย่อนภาษีใหม่ ๆ ตามที่เขาสัญญาไว้ระหว่างการหาเสียงในปี 2024
เอ็ดเวิร์ด เมียร์ นักวิเคราะห์ของ Marex กล่าวว่า "เราไม่ได้มีความคืบหน้าใดๆ ในการทำให้ฐานะทางการคลังของสหรัฐฯมั่นคง ดังนั้นในระยะยาว ดอลลาร์น่าจะอ่อนค่าลงและทองคำจะปรับสูงขึ้น"
สำนักงานงบประมาณรัฐสภาซึ่งไม่ฝักใฝ่การเมืองฝ่ายใดประมาณการว่ากฎหมายดังกล่าวจะเพิ่มหนี้ของประเทศเป็น 3.4 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงทศวรรษหน้า
ขณะเดียวกัน ข้อมูลตลาดแรงงานในวันพฤหัสบดีแสดงให้เห็นว่าบริษัทในสหรัฐฯ เพิ่มตำแหน่งงานมากกว่าที่คาดไว้ 147,000 ตำแหน่งในเดือนมิถุนายน และอัตราการว่างงานลดลงอย่างไม่คาดคิดเหลือ 4.1% ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ คงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิม
ทรัมป์ประกาศว่าจะเริ่มส่งจดหมายระบุอัตราภาษีนำเข้าในวันศุกร์นี้ให้กับประเทศต่างๆ ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงจากคำมั่นสัญญาเดิมที่จะเจรจาข้อตกลงการค้าแบบรายประเทศ
“หากทรัมป์ยืนกรานว่าวันที่ 9 กรกฎาคมเป็นวันที่กำหนดตายตัว และเขาตั้งกำแพงภาษีศุลกากรอีกครั้ง ดอลลาร์จะอ่อนค่าลงอย่างแน่นอน และเราอาจเห็นทองคำเคลื่อนไหวในทิศทางขาขึ้น” เมียร์กล่าว
เมื่อวันที่ 2 เมษายน ทรัมป์ประกาศกำหนดอัตราภาษีศุลกากรแบบตอบโต้ที่ 10%-50% และต่อมาได้ลดอัตราภาษีส่วนใหญ่ลงเหลือ 10% จนถึงวันที่ 9 กรกฎาคม เพื่อให้มีเวลาสำหรับการเจรจา
ทองคำแท่งที่ไม่ให้ผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ย ถือเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยระหว่างความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจ ทองคำมีแนวโน้มที่จะราคาสูงขึ้นในสภาพแวดล้อมที่อัตราดอกเบี้ยต่ำ
ด้านราคาโลหะเงินลดลง 0.5% เหลือ 36.66 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาแพลตตินัมเพิ่มขึ้น 0.7% อยู่ที่ 1,376.67 ดอลลาร์ และแพลเลเดียมลดลง 0.6% อยู่ที่ 1,130.60 ดอลลาร์