ราคาทองคำพุ่ง รับวุฒิสภาสหรัฐไฟเขียวกฎหมายลดภาษีและงบใช้จ่าย

ราคาทองคำโลกพุ่งขึ้นกว่า 1% ในวันอังคาร หลังร่างกฎหมายลดหย่อนภาษีและการใช้จ่ายของทรัมป์ผ่านการพิจารณาของวุฒิสภาสหรัฐฯ ตลาดห่วงเงินเฟ้อ หนี้สาธารณะสหรัฐพุ่งสูง
รอยเตอร์ รายงานภาวะตลาดทองคำโลกวันอังคาร (1 ก.ค.) หรือเมื่อคืนที่ผ่านมาว่า ราคาทองคำพุ่งขึ้นมากกว่า 1% ในวันอังคาร เนื่องจากนักลงทุนมองหาสินทรัพย์ปลอดภัย หลังร่างกฎหมาย "ใหญ่และสวยงาม" ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผ่านการลงมติในวุฒิสภาสหรัฐฯ ก่อนกำหนดเส้นตายสำหรับภาษีการค้าในวันที่ 9 กรกฎาคม
ราคาทองคำในตลาดสปอต (Spot Gold) พุ่งขึ้น 1.1% สู่ระดับ 3,338.24 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อเวลา 14.25 น.ตามเวลาฝั่งตะวันออกของสหรัฐ (18.25 GMT) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 24 มิถุนายน ราคาทองคำตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของสหรัฐฯ(Gold Futures) ปิดตลาดพุ่งขึ้น 1.3% สู่ระดับ 3,349.8 ดอลลาร์
- อัปเดตราคาเช้านี้ (2 ก.ค.)
ราคาทองคำแท่งยืนที่ระดับ 3,340 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากพุ่งขึ้น 2% ในสองวันก่อนหน้า
บลูมเบิร์ก รายงานว่า ราคาทองคำแท่งแทบไม่เปลี่ยนแปลงที่ระดับ 3,341.84 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อเวลา 8.09 น. ตามเวลาสิงคโปร์ ดอลลาร์อ่อนค่า โดยดัชนี Bloomberg Dollar Spot ลดลง 0.1% และลดลง 0.6% ในสัปดาห์นี้ เงินและแพลเลเดียมขยับขึ้นเล็กน้อย ขณะที่แพลตตินัมทรงตัว
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า วุฒิสภาสหรัฐฯ ซึ่งพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากลงมติเมื่อวันอังคารให้ผ่านร่างกฎหมายลดหย่อนภาษีและงบประมาณการใช้จ่ายที่ครอบคลุมซึ่งเสนอโดยทรัมป์ ซึ่งจะตัดรายจ่ายของโครงการบริการสังคมหลายโครงการ
เอ็ดเวิร์ด เมียร์ นักวิเคราะห์ของ Marex กล่าวว่า “ร่างกฎหมายงบประมาณที่ผ่านนั้นให้การสนับสนุนตลาดทองคำ เพราะดูเหมือนว่าจะส่งผลให้ขาดดุล 3 ล้านล้านดอลลาร์ในอีก 10 ปีข้างหน้า”
“ในระดับหนึ่ง นี่อาจก่อให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ และที่สำคัญกว่านั้น จะเพิ่มภาระหนี้ที่เราต้องชำระด้วยการจัดหาเงินทุนและกู้ยืมมากขึ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนส่งแรงหนุนให้ตลาดทองคำแข็งแกร่งขึ้น”
สหรัฐอาจจะกลับไปตั้งกำแพงภาษีนำเข้า
ทองคำซึ่งถือเป็นแหล่งเก็บมูลค่า มักจะเจริญเติบโตได้ดีท่ามกลางความไม่แน่นอนทางการเมืองและเศรษฐกิจ
สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ เตือนว่า ประเทศต่างๆ อาจได้รับแจ้งเกี่ยวกับภาษีที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้จะมีการเจรจากันโดยสุจริตใจก็ตาม ในวันที่ 9 กรกฎาคมนี้ ซึ่งอัตราภาษีจะกลับคืนมาจากระดับชั่วคราว 10% เป็นอัตราที่ทรัมป์ระงับไว้ที่ 11% -50%
นักลงทุนกำลังจับตาดูข้อมูลการจ้างงานของ ADP ของสหรัฐฯ ที่จะประกาศในวันพุธ และข้อมูลการจ้างงานในวันพฤหัสบดี เพื่อประเมินแนวทางนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ
ประธานเฟด เจอโรม พาวเวล กล่าวว่า หากไม่คิดปัจจัยภาษีนำเข้า อัตราเงินเฟ้อจะเป็นไปตามที่คาดไว้
ปัจจุบัน ตลาดคาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้ง รวม 0.5% ในปีนี้ โดยจะเริ่มตั้งแต่เดือนกันยายน
อัตราดอกเบี้ยที่ลดลงช่วยกระตุ้นความน่าสนใจของทองคำที่ไม่ให้ผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ย
คาดว่าราคาทองคำจะอยู่ที่ระดับเฉลี่ย 3,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในไตรมาสที่ 4 และอาจลดลงอีกภายในสิ้นปีนี้ โรนา โอคอนเนลล์ หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ตลาดสำหรับภูมิภาค EMEA และเอเชียของ StoneX กล่าว
ราคาโลหะเงินในตลาดสปอตเพิ่มขึ้น 0.1% อยู่ที่ 36.11 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในขณะที่แพลเลเดียมทรงตัวที่ 1,097.16 ดอลลาร์ และแพลตตินัมลดลง 0.7% อยู่ที่ 1,342.78 ดอลลาร์







