สรุปสินทรัพย์ทั่วโลก ครึ่งแรก 2025 ปีแห่งความผันผวน ใครรุ่ง ใครร่วง?

ปี 2568 ตลาดสินทรัพย์การลงทุนผ่านพ้นครึ่งปีแรกไปอย่างดุเดือด โลกและเศรษฐกิจเกิดการเปลี่ยนแปลงจากหลายสถานการณ์ ทั้งสงครามการค้า การเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดี “โดนัล ทรัมป์”  ความตรึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ 

วันนี้ “กรุงเทพธุรกิจ” ประมวลภาพรวมสินทรัพย์ทั่วโลกว่าสินทรัพย์ได้สามารถผ่านพ้นความผันผวนที่เกิดขึ้นในตลาดหรือได้รับผลกระทบอย่างไรบ้าง

S&P 500 ผันผวนหนักในครึ่งปีแรก

ดัชนีหุ้นทั่วโลก MSCI All Country World (ACWI) เป็นดัชนีหุ้นระดับโลกที่วัดผลการดำเนินงานของหุ้นทั้งใน ตลาดพัฒนาแล้วและตลาดเกิดใหม่  ได้พุ่งขึ้น 8.12% ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์  

สิ่งที่น่าสนใจคือ "มาตรวัดความกลัว" ของตลาด เช่น ดัชนี VIX แทบไม่มีการเปลี่ยนแปลง แสดงให้เห็นว่านักลงทุนยังคงมีความเชื่อมั่นและไม่ได้กังวลต่อความเสี่ยงมากนัก แม้ว่าตลาดหุ้นจะอยู่ในจุดสูงสุดแล้วก็ตาม

ครึ่งแรกของปี 2568 เป็นช่วงเวลาที่ ดัชนี S&P 500 มีความผันผวนสูงมาก ดัชนีต้องเผชิญกับความกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจถดถอยและผลกระทบจากกำแพงภาษีที่สูงขึ้น แต่สุดท้ายก็สามารถฟื้นตัวกลับมาทำสถิติสูงสุดได้อีกครั้ง

แซม สโตวอลล์ หัวหน้านักกลยุทธ์การลงทุนจาก CFRA Research อธิบายไว้เมื่อวันจันทร์ว่า "เป็นเรื่องปกติที่นักลงทุนจะรู้สึกท้อแท้กับตลาดในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 นี้" โดยให้เหตุผลว่า ประมาณ 33% ของวันซื้อขายทั้งหมดที่ผ่านมา ดัชนีมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นลงถึง 1% หรือมากกว่า ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 10 ปีที่อยู่แค่ 25% เท่านั้น และที่น่าสนใจคือ

 Magnificent Seven สะดุด  ส่วนจีน-ยุโรปพุ่งแรง

อีกหนึ่งจุดสนใจสำคัญในตลาดคือ การดิ้นรนของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ "Magnificent Seven" ที่เคยเป็นแหล่งทำกำไรหลักของพอร์ตโฟลิโอมานานหลายปี แต่ในปีนี้กลับถูกทิ้งให้ซบเซาลงอย่างเห็นได้ชัด 

ขณะเดียวกัน คู่แข่งจากจีน อย่าง  Hang Seng TECH ดัชนีที่นำหุ้นเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีนที่จดทะเบียนซื้อขายอยู่บนตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงที่พุ่งขึ้นถึง 20% และหุ้นกลุ่มผู้ผลิตอาวุธในยุโรป ที่เพิ่มขึ้นเกือบ 70% แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของกระแสการลงทุนในตลาดโลก

‘ทองคำ’ ทำนิวไฮเดือน เม.ย.

ราคาทองคำปิดเดือนมิ.ย.ที่ระดับ 3,288 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 25.28% จากต้นปีจนถึงปัจจุบัน ถือเป็นการพุ่งขึ้นสูงสุดในช่วงครึ่งปีแรกนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการณ์ทางการเงินโลกเมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้ว

นักวิเคราะห์จาก Citi ได้ประเมินว่า ราคาทองคำมีแนวโน้มจะปรับตัวขึ้นไปอยู่ที่ระหว่าง 3,100 ถึง 3,500 ดอลลาร์ในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ และราคานิวไฮที่ระดับ 3,500 ดอลลาร์เมื่อปลายเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา อาจเป็นระดับสูงสุดแล้ว เนื่องจากภาวะที่ตลาดทองคำขาดดุลกำลังจะถึงจุดสูงสุด

สกุลเงินสำรองโลกอ่อนค่าหนัก สวนทางทองคำ 

ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา สกุลเงินสำรองของโลกได้ลดลงมากกว่า 10% ซึ่งนับเป็นการลดลงครั้งใหญ่ที่สุดในช่วงครึ่งปีแรกนับตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษ 1970 อันเป็นยุคที่เริ่มมีการใช้สกุลเงินแบบลอยตัว 

 ในทางกลับกัน ทองคำกลับเพิ่มขึ้นถึง 25% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เหตุการณ์ดังกล่าว  ซึ่งเป็นช่วงที่ระบบ Bretton Woods เป็นระบบที่ผูกสกุลเงินกับทองคำได้สิ้นสุดลง

'ดอลลาร์' อ่อนค่าต่ำสุดในรอบ 50 ปี

"เงินดอลลาร์สหรัฐ" สร้างประวัติศาสตร์ปิดช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ไปด้วยการอ่อนค่าลงมากถึง 10.8% นับเป็นสถิติในช่วงครึ่งปีแรกที่หนักที่สุดในรอบกว่า 50 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2516 เป็นต้นมา และหากเทียบสถิติรอบครึ่งปีทั้งหมดจะอ่อนค่าลงมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2534

ทางด้าน ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ (Dollar Index) เปิดครึ่งหลังของปีในวันที่ 1 ก.ค. 2568ด้วยการอ่อนค่าลงต่ำสุดในรอบเกือบ 4 ปี เมื่อเทียบกับค่าเงินยูโร อยู่ที่ 1.1780 ดอลลาร์/ยูโร นับเป็นระดับอ่อนค่าที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2564 โดย "ค่าเงินยูโร" นั้นแข็งค่าขึ้นราว 3.8% ในเดือนที่แล้ว และตลอดช่วงครึ่งแรกของปีนี้แข็งค่าไปแล้วถึงราว 14% เมื่อเทียบดอลลาร์ 

พันธบัตรทำผลงานเด่น หลังคลายกังวลเรื่องเงินเฟ้อ

แม้ว่าตลาดพันธบัตรจะกังวลเรื่อง “เงินเฟ้อ” มาตลอดปี แต่ราคาสินค้ากลับไม่สูงเท่าที่คาดไว้ ทำให้ ตลาดพันธบัตรมีผลงานในครึ่งปีแรกที่ดีที่สุดในรอบ 5 ปี โดย อัตราผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปีลดลง 0.350% ภายในวันที่ 30 มิ.ย. 2568   

ตลาดคริปโทครึ่งปีแรก Bitcoin แกร่ง สวนทาง Altcoins ร่วง

Bitcoin (BTC) ทำผลงานได้อย่างโดดเด่น โดย ราคาพุ่งขึ้นถึง 13% นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ทำนิวไฮที่ระดับ 110,000 ดอลลาร์ และยังคงเติบโตได้ดีกว่าภาพรวมของตลาดอย่างเห็นได้ชัด 

ในทางกลับกัน Ethereum (ETH) ซึ่งเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่ใหญ่เป็นอันดับสองกลับร่วงลง 25% ส่วน Solana (SOL) ก็ปรับตัวลดลงเกือบ 17% เช่นกัน

Bitcoin มีความผันผวนเหมือนเช่นเคย โดยพุ่งขึ้นเกือบ 20% เมื่อทรัมป์เข้ารับตำแหน่ง และร่วงลงเกือบ 30% เมื่อแผนสำรองสกุลเงินดิจิทัลของสหรัฐฯ ของเขาไม่ประสบความสำเร็จ และในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา เขาต้องพยายามกอบกู้มันกลับมาให้ได้อีกครั้ง

ราคาน้ำมันผันผวน ตามเศรษฐกิจและการเมือง

ราคาน้ำมันในช่วงที่ผ่านมามีความผันผวนสูง โดยในเดือนเมษายนราคาได้ ร่วงลงถึง 30% ไปอยู่ที่ต่ำกว่า 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สาเหตุหลักมาจากแผนการเก็บภาษีศุลกากรครั้งใหญ่ของโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งจุดประกายความกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก

อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันก็ได้พุ่งขึ้นเหนือ 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในช่วงสั้นๆ ในเดือนนี้ หลังจากอิสราเอลประกาศโจมตีอิหร่าน ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่ออุปทานน้ำมันในตลาดโลก

 

อ้างอิง Reuters